การสืบค้นสารสนเทศและความรู้

การสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูลบรรณานุกรมออนไลน์

วิธีการสืบค้นโดยใช้ทางเลือกต่างๆ ใน OPAC

จากหน้าจอรายการหลักของ OPAC ให้เลือกรายการที่ต้องการจะใช้
เป็นทางเลือกในสืบค้นจากเมนู นอกจากนี้ค วรเลือกให้ถูกต้องด้ วยว่าต้องการสืบค้นหนังสือโสตทัศนวัสดุ หรือบทความในวารสาร ตามช่องที่กาหนด

ป้อนข้อมูลที่ต้องการสืบค้นตามรายการที่ใช้เป็นทางเลือก เช่น เลือก
ทางเลือกผู้แต่ง พิมพ์ชื่อผู้แต่ง เลือกทางเลือกค าส าคัญ พิมพ์ คาส าคัญ
2ที่ต้องการสืบค้น เป็นต้น

หากต้องการได้รายละเอียดโดยย่อของรายการใด ให้คลิกเม้าส์ที่
รายการที่ต้องการ ระบบจะแสดงรายละเอียดของรายการดังกล่าว ซึ่ง
จะประกอบไปด้วยชื่อเรื่อง ชื่อผู้รับผิดชอบ และปีพิมพ์

หากต้องการได้รายละเอียดที่สมบูรณ์ของรายการใด ให้คลิกเม้าส์ที่
รายการที่ต้องการระบบจะแสดงรายละเอียดที่สมบูรณ์ของรายการ
นั้นๆ หากเป็นหนังสือหรือโสตทัศนวัสดุรายละเอียดที่ได้ประกอบด้วย
เลขเรียกหนังสือ สถานที่ที่มีทรัพยากรสารสนเทศนั้น

1.2 ข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นด้วย OPAC

ข้อมูลบรรณานุกรม (Bibliographic description)

ชื่อผู้แต่ง (Author) อาจเป็นชื่อบุคคลหรือหน่วยงาน

ชื่อเรื่อง(Title) ของหนังสือ ชื่อวารสาร รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์โสตทัศนวัสดุ

พิมพลักษณ์ ประกอบด้วยครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์
ได้แก่เมืองและประเทศ ส านักพิมพ์ และปีที่พิมพ์

สถานภาพ (Status) สถานภาพของทรัพยากรสารสนเทศ มีหลายลักษณะได้แก่มีการยืมออกก็จะระบุวันกำหนดส่ง

เลขเรียกหนังสือ (Call number) เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนทรัพยากรแต่ละ
รายการ หากเป็นสิ่งพิมพ์จะติดไว้ที่สันหนังสือ เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญที่ผู้ใช้
ห้องสมุดต้องจดเพื่อไปหาหนังสือบนชั้น

รูปเล่ม (Description) บอกข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนหน้า ภาพประกอบ และ
ขนาด

หมายเหตุ (Note) เป็นการระบุข้อมูลของทรัพยากรเพิ่มเติม เช่นมีข้อมูล
บรรณานุกรม

สถานที่ (Location) เป็นการบอกว่าทรัพยากรรายการนั้นอยู่ที่ห้องสมุดใด

หัวเรื่อง (Subject) เป็นการระบุค าหรือกลุ่มคำที่ใช้แทนเนื้อหาของทรัพยากร มีประโยชน์ในแง่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาสารสนเทศได้มากยิ่งขึ้น

เลขมาตรฐาน (ISBN) เป็นเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือแต่ละรายการ

ข้อมูลดรรชนีวารสาร (Periodical Index)

ชื่อผู้แต่ง (Author) อาจเป็นชื่อบุคคลหรือหน่วยงาน

ชื่อเรื่อง (Title) เป็นชื่อบทความวารสาร

ปี(Year) ได้แก่ ปีพิมพ์ของวารสาร

ชื่อห้องสมุดที่บอกรับวารสารชื่อนั้นๆ บอก
ข้อมูลเกี่ยวกับห้องสมุดและปีที่ฉบับที่ของวารสารที่ห้องสมุดบอกรับ

สถานที่ (Location) บอกสถานที่เก็บและให้บริการวารสาร

ชื่อวารสาร (Journal) บอกข้อมูลเกี่ยวกับชื่อวารสาร ปีที่ฉบับที่ เดือน ปีและ
เลขหน้าที่ปรากฏบทความ

เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (ISSN)

หัวเรื่อง (Subject) เพื่อใช้ในการสืบค้นต่อ

รายละเอียดและตัวอย่างการสืบค้น OPAC ปรากฎในภาคผนวก ก1

ฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดหรือศูนย์สารสนเทศบอกรับเป็นสมาชิก คือฐานข้อมูล
ออนไลน์ที่ห้องสมุดหรือศูนย์สารสนเทศนั้นๆ บอกรับหรือซื้อฐานข้อมูลนั้นมาให้บริการกับผู้ใช้โดยมี
การจำกัดระยะเวลาในการใช้นั้นคือจะสามารถใช้ฐานข้อมูลได้ในระหว่างเป็นสมาชิกของฐานข้อมูล
นั้นในระยะเวลาที่กำหนด

ฐานข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ ฐานข้อมูล ThaiLIS (Thai
Library Integrated System) เป็นฐานข้อมูลที่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา และ
โครงการ Thai Library Integrated System

ฐานข้อมูลทดลองใช้ฐานข้อมูลลักษณะนี้เป็นฐานข้อมูลที่ห้องสมุดหรือศูนย์
สารสนเทศน ามาทดลองให้บริการกับผู้ใช้ก่อน ก่อนที่ห้องสมุดหรือศูนย์สารสนเทศจะตัดสินใจซื้อ
หรือสมัครเป็นสมาชิกของฐานข้อมูลนั้นจริงๆ

รายละเอียดและตวัอย่างการสืบค้นฐานข้อมูลออนไลน์ปรากฎในภาคผนวก ก2

การสืบค้นสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต

นามานุกรม (Web Directories) เป็นเครื่องมือในการสืบค้นที่รวบรวมสารสนเทศ
บนอินเทอร์เน็ต และคัดแยกสารสนเทศเหล่านั้นออกเป็นกลุ่ม ตามสาขาวิชาหรือตามหลักเกณฑ์ที่
ผู้จัดทำกำหนดขึ้น การสืบค้นสามารถทำได้โดยการเลือกกลุ่มสาขาวิชาที่ตรงกับความต้องการ และ
เลือกเรื่องต่างๆ ตามหัวข้อย่อยที่นามานุกรมรวบรวมไว้

เครื่องมือสืบค้น (Search engine) เป็นเครื่องมือในการสืบค้นที่อาศัยการทำงาน
ของโปรแกรมที่พัฒนาขึ้น โดยแต่ละตัวได้รับการพัฒนาจากบุคคลหลายๆ หน่วยงาน มีผลให้
Search Engine แต่ละตัวมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในด้านฐานข้อมูลที่ครอบคลุมและ
วิธีการท าดรรชนีช่วยค้น

องค์ประกอบของกลไกการสืบค้นสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต (Search Engine)

ตัวสำรวจหรือรวบรวมข้อมูล (Spider หรือ Crawler หรือ Robot) เป็นซอฟต์แวร์
ส าหรับสำรวจเว็บ โดยจะทำหน้าที่ตระเวณไปยังเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อทำการรวบรวม
สารสนเทศ และส่งกลับมายังดรรชนีหรือฐานข้อมูลเพื่อทำการประมวลผล

ตัวดรรชนี (Indexer) หรือ Catalog ซึ่งเป็นฐานข้อมูลทำหน้าที่รวบรวมคา และ
ตำแหน่งทุกๆ เพจที่ตัวสำรวจรวบรวมมาได้ ในส่วนนี้จะมีโปรแกรมช่วยในการจัดทำ
ดรรชนีเพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาสารสนเทศได้สะดวกขึ้น วิธีการจัดทำดรรชนีในแต่
ละกลไกการสืบค้นมักจะแตกต่างกันไป

โปรแกรมค้นข้อมูล (Search Engine Software หรือ Query Processor) ทำ
หน้าที่เปรียบเทียบความเกี่ยวข้องระหว่างเว็บไซต์และความต้องการของผู้สืบค้นว่ามี
ความเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด จากนั้นจะจัดลำดับความเกี่ยวข้องของเว็บต่าง ๆ

เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต

เทคนิคตรรกบูลลีน แบ่งได้ออกเป็น 3 ลักษณะ

การใช้ And, Or, Not ประกอบเป็นประโยคการค้น โดยเครื่องหมาย หรือตัวกระทำของตรรกบูลลีนจะ
แตกต่างกันไปในแต่ละกลไก

การใช้เทคนิคตรรกบูลลีนจากเมนูทางเลือก (Drop down menu) ว่าต้องการ
สืบค้นการที่เกี่ยวข้องกับคำค้นอย่างไรกลไกที่มีลักษณะการสืบค้นเช่นนี้

การใช้เครื่องหมาย + (Plus) หรือ – (Minus) กำหนดหน้าคำค้นที่ต้องการ
เครื่องหมาย + หมายถึงในผลการค้นต้องมีคำที่กำหนดนั้น และเครื่องหมาย –
หมายถึงไม่ต้องการให้พบคำนั้นในผลการสืบค้น กลไกที่ลักษณะการสืบค้น
เช่นนี้

เทคนิคการตัดคำสามารถทำได้ 2 ลักษณะ

การใช้เครื่อง กลไกส่วนใหญ่ใช้เครื่องหมาย * (asterisk) แทนการตัดคำส่วน
ใหญ่เป็นการตัดท้ายคำค้นที่ต้องการ กลไกที่สามารถใช้เทคนิคการตัดคำได้
เช่น altavista เป็นต้น ส่วน Hotbot สามารถตัดค าได้ 2 ลักษณะคือ * และ ?
โดย * หมายถึง ให้สืบค้นคำที่มีรากคำตามที่กำหนดโดยอาจมีตัวอักษรอื่น ๆ
ต่อท้ายได้ไม่จำกัดจำนวน และ ? หมายถึง ให้สืบค้นคำที่มีรากคาตามที่กำหนด
และมีตัวอักษรตามหลังได้อีกไม่เกินจำนวน ? ที่กำหนดในคำค้น

การสืบค้นในลักษณะของ Stemming หมายถึง การสืบค้นจากรากค า เช่น
ค าค้นเป็น think กลไกจะสืบค้นคำอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย think เช่น thinking,
thinkable เป็นต้น กลไกที่มีลักษณะการสืบค้นเช่นนี้ได้แก่ Hotbot, Infoseek

เทคนิคการใช้ค าใกล้เคียง

ADJ หมายถึง ให้ค าที่ค้นอยู่ใกล้กัน สลับลำดับคำได้

NEAR หมายถึง ให้คำที่ค้นอยู่ใกล้เคียงกันในระยะ 25 คำสลับที่ได

FAR หมายถึง ให้คำค้นอยู่ห่างกันได้ 25 คำหรือมากกว่านั้น

BEFORE หมายถึงให้ค าค้นอยู่ห่างกันในระยะ 25 คำ โดยต้องอยู่ตามลำดับที่กำหนดเท่านั้น

เทคนิคการใช้รหัสก ากับค าค้น สามารถท าได้ 2 ลักษณะ

สืบค้นจากเมนูทางเลือก (Drop down menu) ซึ่งกลไกสืบค้นหลาย ๆ กลไก
กำหนดให้ผู้สืบค้นเลือกเขตข้อมูลที่ต้องการสืบค้นได้จากเมนูทางเลือก โดยให้
เลือกได้จากภาษา เขตข้อมูลชื่อ URL ช่วงปีที่ต้องการ Domain ของแหล่ง
สารสนเทศ เป็นต้น

สืบค้นโดยใช้เขตข้อมูลกำกับลงในประโยคการค้น กลไกที่มีลักษณะการ
สืบค้นแบบนี้ ได้แก่ Hotbot เป็นต้น

เทคนิคอื่นๆ

เทคนิคการค้นด้วยเครื่องหมายค าพูด “…..” (Exact phrased search) ซึ่ง
ผลลัพธ์ที่ใช้เทคนิคนี้จะเป็นเว็บที่มีคำอยู่ติดกันเท่านั้น เช่น ต้องการค้นคำว่า
Information Society โดยให้ทั้งสองคำอยู่ติดกันสามารถสืบค้นได้โดย
“Information Society” เป็นต้น

เทคนิคการค้นหาคำพ้องความหมาย (Synonyms) ด้วยเครื่องหมาย ~
กล่าวคือ ถ้าใช้เครื่องหมาย ~information ในการค้นหา ผลลัพธ์ในการค้นจะ
ไม่หาคำว่า information เพียงอย่างเดียวแต่จะหาคำที่มีความหมายคล้ายหรือใกล้เคียง

3 เทคนิคการค้นกลุ่มค าหรือคำที่ไม่แน่ใจด้วยเครื่องหมาย * (Wildcard) โดยเทคนิคนี้สามามารถใช้เครื่องหมาย * แทนคำพูดที่ผู้ค้นไม่แน่ใจในการค้นหาแต่ต้องใช้ภายในเครื่องหมาย “....”

เทคนิคค้นหาช่วงชุดของตัวเลข (Number range) ด้วยเครื่องหมาย .. โดย
เทคนิคนี้ใช้เมื่อต้องการค้นข้อมูลที่มีช่วงตัวเลข

เทคนิคการหานิยามหรือความหมายของคำ (Definition) โดยใช้คำว่า define:ตามด้วยคำที่ต้องการทราบความหมาย

เทคนิคการกรองสิ่งที่ค้นหา (SafeSearch Filtering) เทคนิคนี้จะมีใช้สำหรับ
Search Engine บางตัว

ควรใช้ค าที่หลากหลายและไม่ควรใช้คำที่ค้นหาเกิน 32 คำ ซึ่งการใช้คำที่
หลากหลายเพื่อค้นหาจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า เนื่องจากการกำหนดคำที่
หลากหลายทำให้สามารถหาข้อมูลที่ใกล้เคียงที่สุดได้

บทสรุป การสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูล OPAC ฐานข้อมูลออนไลน์และบนอินเทอร์เน็ตนั้น
เป็นความสามารถของแต่ละบุคคล ซึ่งความสามารถดังกล่าวประกอบไปด้วยทักษะ และเทคนิคของ
การสืบค้น ซึ่งผู้สืบค้นแต่ละคนจะมีมากน้อยเพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและพัฒนาทักษะอย่าง
ต่อเนื่อง นอกจากนี้ผู้สืบค้นควรมีทักษะของการคัดเลือกและการประเมินสารสนเทศที่ได้รับจาก
อินเทอร์เน็ตร่วมด้วย ขณะเดียวกันผู้สืบค้นก็ต้องรู้จักวิธีการที่คัดเลือกและประเมินสารสนเทศที่ค้น
ได้ในแต่ละครั้งด้วย เพื่อที่จะได้นำสารสนเทศที่มีคุณค่า ถูกต้อง และตรงกับความต้องการของ
ตนเองไปใช้งานได้อย่างเหมาะสม

Klik her, for at centrere dit kort.
Klik her, for at centrere dit kort.