การสืบค้นสารสนเทศและความรู้ (KNOWLEDGE INQUIRY)

การสืบค้นสารสนเทศจากฐานข้อมูลบรรณานุกรมออนไลน์ หรือ OPAC
(Online Public Access Catalog)

วิธีการสืบค้นโดยใช้ทางเลือกต่างๆ ใน OPAC

เลือกรายการที่ต้องการจะใช้

ป้อนข้อมูลที่ต้องการสืบค้น

ต้องการได้รายละเอียดโดยย่อของรายการใด
ให้คลิกเม้าส์ที่รายการที่ต้องการ

ต้องการได้รายละเอียดที่สมบูรณ์ของรายการใด
ให้คลิกเม้าส์ที่รายการ

ข้อมูลที่ได้จากการสืบค้นด้วย OPAC

ข้อมูลบรรณานุกรม
(Bibliographic description)

ชื่อผู้แต่ง (Author)

ชื่อเรื่อง(Title)

พิมพ์ลักษณ์ (Imprint)

สถานภาพ (Status)

เลขเรียกหนังสือ (Call number)

รูปเล่ม (Description)

หมายเหตุ (Note)

สถานที่ (Location)

หัวเรื่อง (Subject)

เลขมาตรฐาน (ISBN)

ข้อมูลดรรชนีวารสาร (Periodical Index)

ชื่อผู้แต่ง (Author)

ชื่อเรื่อง(Title)

ปี(Year)

ชื่อห้องสมุดที่บอกรับวารสารชื่อนั้นๆ
(Library that have this journal)

สถานที่ (Location)

ชื่อวารสาร (Journal)

เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (ISSN)

หัวเรื่อง (Subject)

การสืบค้นสารสนเทศด้วยฐานข้อมูลออนไลน์

ฐานข้อมูลออนไลน์ที่ห้องสมุดหรือศูนย์สารสนเทศบอกรับเป็นสมาชิก

ฐานข้อมูลสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา หรือ ฐานข้อมูล ThaiLIS (Thai Library Integrated System)

ฐานข้อมูลทดลองใช้

การสืบค้นสารสนเทศบนอินเทอร์เน็ต

นามานุกรม (Web Directories)

เครื่องมือสืบค้น (Search engine)

องค์ประกอบของกลไกการสืบค้นสารสนเทศ
บนอินเทอร์เน็ต (Search Engine)

ตัวสำรวจหรือรวบรวมข้อมูล
(Spider หรือ Crawler หรือ Robot)

ตัวดรรชนี
(Indexer) หรือ Catalog

โปรแกรมค้นข้อมูล (Search Engine Software หรือ Query Processor)

เทคนิคการสืบค้นสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต

เทคนิคตรรกบูลลีน

r

การใช้ And, Or, Not ประกอบเป็นประโยคการค้น ใช้เทคนิคตรรกบูลลีนจากเมนูทางเลือก (Drop down menu) ว่าต้องการ สืบค้นการที่เกี่ยวข้องกับคำค้นอย่างไร การใช้เครื่องหมาย + (Plus) หรือ – (Minus) ก าหนดหน้าค าค้นที่ต้องการ 

เทคนิคการตัดคำ

r

ใช้เครื่อง กลไกส่วนใหญ่ใช้เครื่องหมาย * (asterisk) แทนการตัดคำส่วน ใหญ่เป็นการตัดท้ายคำค้นที่ต้องการการสืบค้นในลักษณะของ Stemming หมายถึง การสืบค้นจากรากคำ

เทคนิคการใช้คำใกล้เคียง

r

ใช้คำว่า ADJ, NEAR, FAR และ BEFORE ประกอบ เป็นประโยคการค้น เพื่อกำหนดลักษณะของผลการสืบค้นที่ต้องการว่าต้องการให้มี คำใด อยู่ในลักษณะใด โดย 1. ADJ หมายถึง ให้คำที่ค้นอยู่ใกล้กัน สลับลำดับคำได้ 2. NEAR หมายถึง ให้คำที่ค้นอยู่ใกล้เคียงกันในระยะ 25 คำ สลับที่ได้ 3. FAR หมายถึง ให้คำค้นอยู่ห่างกันได้ 25 คำ หรือมากกว่านั้น 4. BEFORE หมายถึงให้คำค้นอยู่ห่างกันในระยะ 25 คำ โดยต้องอยู่ตามลำดับที่กำหนดเท่านั้น 

เทคนิคการใช้รหัสกำกับคำค้น

r

สืบค้นจากเมนูทางเลือก (Drop down menu) ซึ่งกลไกสืบค้นหลาย ๆ กลไก กำหนดให้ผู้สืบค้นเลือกเขตข้อมูลที่ต้องการสืบค้นได้จากเมนูทางเลือก โดยให้ เลือกได้จากภาษา เขตข้อมูลชื่อ URL ช่วงปีที่ต้องการ Domain ของแหล่ง สารสนเทศ เป็นต้น สืบค้นโดยใช้เขตข้อมูลกำกับลงในประโยคการค้น เช่น title:nba หมายถึงให้ ค้นเพจที่มีค าว่า nba ปรากฏในชื่อเรื่อง before:30/9/99 หมายถึง ให้สืบค้น เอกสารที่มีการจัดทำก่อนวันที่ 30 ก.ย. 1999 เป็นต้น กลไกที่มีลักษณะการ สืบค้นแบบนี้ ได้แก่ Hotbot เป็นต้น 

เทคนิคอื่นๆ

r

เทคนิคการค้นด้วยเครื่องหมายคำพูด “…..” (Exact phrased search) ซึ่ง ผลลัพธ์ที่ใช้เทคนิคนี้จะเป็นเว็บที่มีคำอยู่ติดกันเท่านั้น เทคนิคการค้นหาคำพ้องความหมาย (Synonyms) ด้วยเครื่องหมาย ~ กล่าวคือ ถ้าใช้เครื่องหมาย ~information ในการค้นหา ผลลัพธ์ในการค้นจะ ไม่หาคำว่า information เพียงอย่างเดียวแต่จะหาคำที่มีความหมายคล้ายหรือ ใกล้เคียงกับคำดังกล่าว เทคนิคการค้นกลุ่มคำหรือคำที่ไม่แน่ใจด้วยเครื่องหมาย * (Wildcard) โดย เทคนิคนี้สามามารถใช้เครื่องหมาย * แทนคำพูดที่ผู้ค้นไม่แน่ใจในการค้นหาแต่ ต้องใช้ภายในเครื่องหมาย “....”เทคนิคค้นหาช่วงชุดของตัวเลข (Number range) ด้วยเครื่องหมาย .. โดย เทคนิคนี้ใช้เมื่อต้องการค้นข้อมูลที่มีช่วงตัวเลขเทคนิคการหานิยามหรือความหมายของคำ (Definition) โดยใช้คำว่า define: ตามด้วยคำที่ต้องการทราบความหมายเทคนิคการกรองสิ่งที่ค้นหา (SafeSearch Filtering) เทคนิคนี้จะมีใช้สำหรับ Search Engine บางตัวควรใช้คำที่หลากหลายและไม่ควรใช้คำที่ค้นหาเกิน 32 คำ ซึ่งการใช้คำที่หลากหลายเพื่อค้นหาจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

Haga clic aquí para centrar el diagrama.
Haga clic aquí para centrar el diagrama.