Evaluate,Analysis,Synthesis

ลักษณะของสารสนเทศที่ดี

ต้องมีความความถูกต้อง (Accuracy)

มีความน่าเชื่อถือ (Reliable)

ต้องมีความสมบูรณ์ (Completeness)

สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้ (Relevance)

เข้าถึงได้ง่าย (Accessible)

ตรวจสอบได้ (Verifiability)

ทันต่อความต้องการใช้ (Timeliness)

มีความทันสมัย เป็นปัจจุบัน (Up to date)

หลักเกณฑ์ในการพิจารณาสารสนเทศที่ดี

พิจารณาความน่าเชื่อถือ

ความถูกต้องของสารสนเทศ

เปรียบเทียบแหล่งที่มาของสารสนเทศกับแหล่งอื่นๆ

มีการอ้างอิงและบรรณานุกรมหรือไม

เป็นสารสนเทศระดับใด

การเขียน การสะกดคำ ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์

ความเที่ยงตรง

เนื้อหามีความลำเอียงหรือไม่

ผู้แต่งใช้ข้อเท็จจริงสนับสนุนการแสดงความคิดเห็นหรือไม่

พิจารณาแหล่งที่มาของสารสนเทศ

พิจารณาผู้แต่ง

มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับหรือไม่

มีคุณวุฒิและประสบการณ์ในเรื่องที่เขียนหรือไม่

มีผลงานเขียนที่เกี่ยวข้องกันในที่อื่นๆอีกหรือไม่

พิจารณาสำนักพิมพ์หรือแหล่งผลิต

ผู้ที่จัดพิมพ์เป็นที่รู้จักกันดีในสาขาวิชานั้นๆ

จัดพิมพ์จำนวนมากหรือน้อยเพียงใด

เป็นโรงพิมพ์ของมหาวิทยาลัยหรือไม

ผู้จัดพิมพ์เป็นองค์กรหรือสมาคมมืออาชีพที่มีประสบการณ์หรือไม่

พิจารณาขอบเขตของเนื้อหา

เนื้อหาครบถ้วนสมบูรณ์หรือเป็นเพียงบทสรุป บทคัดย่อ สาระสังเขป

มีเนื้อหาครอบคลุมหรือไม่

ให้ความรู้ในระดับใด

ถ้าเป็นสารสนเทศจากอินเทอร์เน็ต ให้ดูว่ามีการเชื่อมโยงรายละเอียดกับเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ หรือมีการคำอธิบายประกอบครบถ้วนสมบูรณ์เพียงใด

พิจารณาให้ตรงกับความต้องการของเนื้อหา

เป้าหมายของสารสนเทศ

มีเนื้อหาตอบโจทย์

นำไปใช้ทำอะไร

มาจากแหล่งที่ต้องการ และรูปแบบที่ต้องการ

พิจารณาช่วงเวลาที่เผยแพร่

เผยแพร่เมื่อใด

ถ้าไม่ระบุช่วงเวลาที่เผยแพร่ ให้พิจารณาแหล่งที่มาให้ถี่ถ้วนก่อนนำมาใช้

เผยแพร่จัดพิมพ์ในเวลาใกล้เคียงกับเหตุการณ์นั้นๆ

ข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตให้ดูเวลาการปรับปรุงข้อมูล

การเลือกใช้สารสนเทศ

การนำสารสนเทศที่ค้นคว้าได้ไปใช้เพื่อทำรายงานหรือบทนิพนธ์ต้องผ่านกระบวนการ

การประเมินสารสนเทศ (Evaluate)

การวิเคราะห์สารสนเทศ (Analysis)

การสังเคราะห์สารสนเทศ (Synthes

การประเมินสารสนเทศ (Evaluate)

หลักการประเมินสารสนเทศ

ตรงกับความต้องการอย่างแท้จริงหรือไม่

ทำได้โดยการอ่าน
- ชื่อเรื่อง
- คำนำ
- สารบัญ
- เนื้อเรื่องย่อ

มีความน่าเชื่อถือหรือไม่

ประเมินความน่าเชื่อถือของแหล่งที่มาของสารสนเทศ

วารสารวิชาการ นิตยสาร

ประเมินความน่าเชื่อถือของผู้เขียนผู้จัดทำสำนักพิมพ์

ยศ ตำแหน่ง

ประเมินความน่าเชื่อถือของทรัพยากรสารสนเทศ

สื่อสิ่งพิมพ์แบบใด สื่ออิเล็กทรอนิกส์แบบใด

ประเมินความทันสมัย

เนื้อหาอยู่ในระดับใด

สารสนเทศปฐมภูมิ
(Primary Information)

งานต้นฉบับหรืองานที่ผู้เขียนเผยแพร่ครั้งแรก

สารสนเทศทุติยภูมิ
(Secondary Information)

เป็นการนำสารสนเทศปฐมภูมิมาใช้

สารสนเทศตติยภูมิ
(Tertiary Information)

บรรณานุกรม ดัชนีวารสาร

Vocabulary

Accuracy มีความถูกต้อง

Reliable ความ่นาเชื่อถือ

Completeness ความสมบูรณ์

Relevance สอดคล้อง

Accessible เข้าถึงได้ง่าย

Verifiability ตรวจสอบได้

Timeliness ตรงตามเวลา

Up to date ทันสมัย

Evaluate การประเมิน

Analysis การวิเคราะห์

Synthesis การสังเคราะห์

Outline โครงร่าง

Summary ย่อ สรุป

Quotation คัดลอก

Paraphrase ถอดความ

การสังเคราะห์(Synthesis)

จัดสารสนเทศที่ได้มาจากแหล่งต่างๆ (Organize from multiple sources)

การจัดสารสนเทศโดยทั่วไป

-จัดกลุ่ม(ประเด็นใหญ่/ประเด็นย่อย)
-เรียงตามลำดับอักษร
-ตามลำดับเวลา (เช่น เหตุการณ์)
-ตั้งแต่ต้นจนจบ(เช่น story)
-ใช้หลายๆ วิธีข้างต้นผสมผสานกัน

วิธีการจัดสารสนเทศสามารถทำได้แบบง่ายๆดังนี้

นำข้อมูลที่ได้มาจากแหล่งต่างๆที่ได้มาอ่านอีกครั้ง

ทำHighlight/Mark ส่วนสำคัญ

ลองจัดกลุ่มความสัมพันธ์ของข้อมูล โดยใส่เลขเรื่องตัวอักษรลงไป

จัดเรียงข้อมูลที่ได้เพื่อจัเขียนโครงร่างเพื่อให้เห็นลำดับชั้นความสัมพันธ์และความต่อเนื่องของข้อมูล

จะได้โครงร่างคร่าวๆ ที่มองเห็นภาพรวมของข้อมูล(ใส่ข้อมูล มุมมอง เรียบเรียงข้อมูลด้วยภาษาของตนเอง)

กระบวนการของการสังเคราะห์สารสนเทศ

จัดกลุ่มสารสนเทศที่มีแนวคิดเดียวกันไว้ด้วยกัน

นำสารสนเทศที่มีแนวคิดเดียวกันมาจัดกลุ่มอีกครั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ตามลำดับชั้น

เขียนเป็นโครงร่าง

ประเมินโครงร่างที่ได้ครอบคลุมครบถ้วนหรือไม่ ถ้าไม่ต้องกลับไปเริ่มที่กระบวนการแสวงหาคำตอบใหม

ความหมาย

การจัดกลุ่มข้อมูลเรื่องเดียวกันไว้ด้วยกันแล้วนำมาจัดกลุ่มอีกครั้งในลักษณะลำดับชั้นหรือรูปแบบของโครงร่าง(outline)ซึ่งจะทำให้เห็นความสัมพันธ์ของกลุ่มข้อมูลแล้วรวบรวมหรือสรุปให้ได้เนื้อหาใหม่ด้วยการใช้สำนวนภาษาของตนเองที่มีความถูกต้องตลอดจนนำเสนอในรูปแบบที่เหมาะสมเพื่อนำไปใช้ได้ตรงกับความต้องการ

การเขียนโครงร่าง
(Outline)

เป็นการกำหนดกรอบแนวคิดและขอบเขตของเรื่องจัดลำดับหัวข้อให้มีความสัมพันธ์กัน และต่อเนื่องกัน

องค์ประกอบในการวางโครงร่าง

บทนำ

เนื้อหา
(ส่วนที่จากการสืบค้นและเลือกใช้ข้อมูลและนำมาจัดกลุ่ม)

2.หัวข้อใหญ่
2.1หัวข้อรอง
2.1.1หัวข้อย่อย
2.1.2หัวข้อย่อย
2.2หัวข้อรอง
2.2.1หัวข้อย่อย
2.2.2หัวข้อย่อย
3.หัวข้อใหญ่
3.1หัวข้อรอง
3.2หัวข้อรอง

บทสรุป

นำเสนอสารสนเทศ
(Present the information)

การวิเคราะห์สารสนเทศ (Analysis)

ขั้นตอนการวิเคราะห์สารสนเทศ

อ่านจับใจความสำคัญของเรื่อง

พิจารณาเนื้อหาที่สอดคล้องกับเรื่องที่ต้องการศึกษา

บันทึกสารสนเทศที่สอดคล้องกับเรื่องที่ต้องการลงบัตรบันทึก

คำสำคัญหรือแนวคิด

แหล่งที่มาของข้อมูล

ใจความสำคัญ

จัดกลุ่มเนื้อหาของบัตรบันทึกตามประเด็นและแนวคิด

บัตรบันทึกความรู้

ความหมาย

บัตรแข็งขนาด5x8หรือ4x6หรือกระดาษรายงานA4พับครึ่งใช้บันทึกข้อมูลที่ต้องการ

ส่วนประกอบ

หัวข้อเรื่องที่ต้องการค้นคว้า ลงไว้ที่หัวมุมบนขวาของบัตร

แหล่งที่มาของข้อมูลให้เขียนตามรูปแบบบรรณานุกรม

เลขหน้าที่ปรากฏของข้อมูล

ข้อความที่บันทึก

ตัวอย่างบัตรบันทึกความรู้

ตัวอย่างบัตรบันทึกความรู้

วิธีการเขียนบัตรบันทึกเนื้อหา

แบบย่อความ
(Summary Note)

อ่านเอกสารในหัวเรื่องที่กำลังบันทึกให้ตลอดเสียก่อนเพื่อสำรวจเนื่อหา สาระ และแนวคิดของเรื่อง

วิเคราะห์เนื้อหาและเก็บประเด็นสำคัญให้ครบถ้วน

ประเด็นรองหรือรายละเอียดที่เป็นสาระที่สำคัญของแต่ละประเด็นให้รวบรวมและจัดให้เป็นระเบียบอย่างกะทัดรัด

แบบคัดลอกข้อความ
(Quotation Note)

ลักษณะของข้อความที่บันทึกโดยวิธีคัดลอก

เป็นคำจำกัดความหรือความหมายของคำ

เป็นสูตรกฎหรือระเบียบข้อบังคับ

มีเนื้อหาสาระหนักเเน่น กะทัดรัด ลุ่มลึก เฉียบคม กินใจ

เป็นข้อความซึ่งเป็นคติเตือนใจมีความงามและความไพเราะทางภาษา

แบบถอดความ
(Paraphrase Note)

ใช้ในกรณีต้นฉบับเป็น

ร้อยกรองแต่ต้องการใช้เป็นร้อยแก้ว

ภาษาที่ไม่แพร่หลายคุ้นเคย เช่น ภาษาบาลี

ภาษาต่างประเทศ