ภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax)

ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

บริษัท จํากัด

บริษัทมหาชน จํากัด

ห้างหุ้นส่วนจํากัด

ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน

สํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศนั้น เข้ามากระทํากิจการในประเทศไทย
(มาตรา 66 วรรคแรก)

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศนั ้น กระทํากิจการในที่อื่นๆ รวมทั้งใน
ประเทศไทย (มาตรา 66 วรรคสอง)

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศนั้น กระทํากิจการอื่นๆ รวมทั้งใน
ประเทศไทยและกิจการที่กระทํานั้นเป็นกิจการขนส่งระหว่างประเทศ (มาตรา 67)

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศนั้น มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) (3) (4) (5) หรือ (6) ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย (มาตรา70)

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย ตามมาตรา 76 วรรคสอง และมาตรา 76 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ได้จําหน่ายเงินกําไรหรือเงินประเภทอื่นที่กันไว้จากกําไร หรือถือได้ว่าเป็นเงินกําไรออกไปจากประเทศไทย (มาตรา 70 ทวิ)

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต่างประเทศนั้น มิได้เข้ามาทํากิจการในประเทศไทย โดยตรงหากแต่มีลูกจ้างหรือผู้ทําการแทนหรือผู้ทําการติดต่อ ในการประกอบกิจกการในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหตุให้ได้รับเงินได้หรือผลกําไรในประเทศไทย (มาตรา 76 ทวิ)

กิจการซึ่งดําเนินการเป็นทางค้า หรือหากําไร โดย

รัฐบาลต่างประเทศ

องค์การของรัฐบาลต่างประเทศ

นิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ

กิจการร่วมค้า

กิจการที่ดําเนินการร่วมกันเป็นทางค้าหรือหากําไรระหว่าง

บริษัท กับ บริษัท

บริษัท กับ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล กับ ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล

บริษัทและหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลกับบุคคลธรรมดา คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือนิติบุคคลอื่น

มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซึ่งมีรายได้

นิติบุคคลที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรีและประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นิติบุคคลที่ได้รับยกเว้นภาษี

นิติบุคคลที่เป็นองค์การของรัฐ

นิติบุคคลที่ไม่แสวงหากําไร

นิติบุคคลบางประเภทที่เข้าลักษณะต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร แต่ได้รับการยกเว้นตามบทบัญญัติของกฎหมายต่างๆ

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ตามสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

บริษัทจํากัดที่ได้คับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน

แหล่งเงินได้

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ให้นําเงินได้จากการดําเนินกิจการทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเกิดจากการประกอบกิจการในประเทศไทยหรือต่างประเทศมารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามหลักแหล่งเงินได้ทั่วโลก

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศให้เสียภาษีเงินได้เฉพาะจากกิจการหรือเนื่องจากกิจการที่กระทําในประเทศไทยเท่านั้น จึงไม่ต้องนําเงินได้จากการประกอบกิจการในต่างประเทศมารวมคํานวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในประเทศไทย

รอบระยะเวลาบัญชี

รอบระยะเวลาบัญชีโดยทั่วไป

รอบระยะเวลาบัญชีน้อยกว่า 12 เดือน

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเริ่มตั้งใหม่ จะถือวันเริ่มตั้งถึงวันหนึ่งวันใดเป็น
รอบระยะเวลาบัญชีแรกก็ได้ แต่รอบระยะเวลาบัญชีต่อไปต้องเท่ากับ 12 เดือน

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลอาจยื่นคําร้องขอเปลี่ยนวันสุดท้ายของรอบ
ระยะเวลาบัญชีก็ได้ ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรจะเห็นสมควรและสั่งอนุญาตซึ่งรอบระยะเวลาบัญชีแรกที่ได้รับอนุญาตให้เปลี่ยนจะน้อยกว่า 12 เดือน

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เลิกกันให้ถือเอาวันที่เจ้าพนักงานจดทะเบียน
เลิกเป็นวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลควบเข้ากันให้ถือว่าบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติ
บุคคลนั้นเลิกกันรอบระยะเวลาบัญชีที่ควบเข้ากัน

รอบระยะเวลาบัญชีมากกว่า 12 เดือน

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเลิกกิจการ หากผู้ชําระบัญชีและผู้จัดการไม่สามารถยื่นรายการและเสียภาษีได้ภายใน 150 วันนับแต่วัดสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีแล้ว ถ้าได้ยื่นคําร้องต่ออธิบดีภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่เจ้าพนักงานรับจดทะเบียนเลิก อธิบดีกรมสรรพากรอาจพิจารณาอนุมัติให้ขยายรอบระยะเวลาบัญชีออกไปได้ ซึ่งรอบระยะเวลาบัญชีรอบนี ้อาจเกิน 12 เดือนก็ได้

อธิบดีกรมสรรพากรเห็นสมควร สั่งให้ขยายรอบระยะเวลาบัญชีของบริษัท หรือ
ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เลิกกิจการเป็นการเฉพาะราย (โดยไม่ต้องมีการยื่นคําร้อง)

ฐานภาษีเงินได้นิติบุคคล

ฐานกําไรสุทธิ

ฐานรายรับก่อนหักรายจ่าย

ฐานเงินได้บางประเภทที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย

ฐานการจําหน่ายเงินกําไรออกไปจากประเทศไทย

การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกําไรสุทธิ

ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้จากกําไรสุทธิ

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย

บริษัท จํากัด

บริษัทมหาชน จํากัด

ห้างหุ้นส่วนจํากัด

ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน

สํานักงานปฏิบัติการภูมิภาค

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ

กิจการซึ่งดําเนินการเป็นทางการค้าหรือหากําไรโดยรัฐบาลต่างประเทศองค์การของรัฐบาลต่างประเทศ หรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ

กิจการร่วมค้า

การคํานวณกําไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล

รายได้ที่ต้องนํามาคํานวณภาษี

รายได้จากกิจการ

รายได้เนื่องจากกิจการที่กระทํา

เกณฑ์การพิจารณารายได้

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งประกอบกิจการธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยการ
ธนาคารพาณิชย์

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการประกันชีวิต

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการให้เช่าซื้อ

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการก่อสร้างให้ใช้เกณฑ์สิทธิ

กิจการประกอบวิชาชีพอิสระ

กิจการให้บริการตามสภาพไม่มีสินค้าคงเหลือ

กิจการสนามกอล์ฟหรือกิจการให้บริการตามสัญญาระยะรายแก่สมาชิก ให้ใช้เกณฑ์สิทธิ

กิจการหลักทรัพย์ ซึ่งประกอบกิจการขายชอร์ต

บริษัทบริหารสินทรัพย์ ให้ใช้เกณฑ์สิทธิ เว้นแต่รายได้ที่เกิดจากการบริการสินทรัพย์ด้วยคุณภาพที่รับซื้อหรือรับโอนจากสถาบันการเงิน จะนํารายได้ดังกล่าวมารวมคํานวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้รับชําระก็ได้

เงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี

ยกเว้นตามประมวลรัษฎากร

ยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกา

การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องกับเงินได้พึงประเมินที่ได้รับ

การยกเว้นภาษีเงินได้ที่เกี่ยวข้องรายจ่าย

ยกเว้นตามกฎหมายอื่น

มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

เงินบริจาค

อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคล

การคํานวณภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานกําไรสุทธิ

การยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี

การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี

การเสียภาษีเงินได้จากกําไรสุทธิเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี

สถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี

ในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ยื่น ณ

สํานักงานสรรพากรพื ้นที่สาขา(สรรพากรเขต) ในท้องที่ที่สํานักงานใหญ่ตังอยู่

ธนาคารพาณิชย์ไทย และสาขา ในเขตกรุงเทพมหานคร

ในเขตจังหวัดอื่น ให้ยื่น ณ

ที่ว่าการอําเภอหรือกิ่งอําเภอท้องที่ที่สํานักงานใหญ่ตั้งอยู่ ในกรณีสํานักงานสรรพากรอําเภอมิได้ตั้งอยู่ ณ ที่ว่าการอําเภอให้ยื่น ณ สํานักงานสรรพากรอําเภอ หรือ

สํานักงานสาขาของธนาคารพาณิชย์ไทยในเขตอําเภอหรือกิ่งอําเภอท้องที่ที่สํานักใหญ่ตั้งอยู่

หมายเหตุ

การยื่นแบบแสดงรายการภาษี ภ.ง.ด.50, ภ.ง.ด.51, ภ.ง.ด.54 สามารถยื่นผ่านเว็บไซต์ของกรมสรรพากรก็ได้

การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานการจําหน่ายกําไรไปนอกประเทศ

ผู้มีหน้าที่เสียภาษี

(1) การจําหน่ายเงินกําไร หรือเงินประเภทอื่นใดที่กันไว้จากกําไร หรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกําไรจากบัญชีกําไรขาดทุนหรือบัญชีอื่นใด ไปชําระหนี้

(2) ในกรณีที่มิได้ปรากฏข้อเท็จจริงดังกล่าวใน (1) แต่ได้มีการขออนุญาตซื้อและโอนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นเงินกําไรหรือเงินประเภทอื่นใดที่กันไว้จากกําไร หรือที่ถือได้ว่าเป็นเงินกําไรออกไปต่างประเทศ หรือ

(3) การปฏิบัติอย่างอื่นอันก่อให้เกิดผลตาม (1) หรือ (2)

อัตราภาษี

วิธีการเสียภาษีจากการจําหน่ายเงินกําไรไปต่างประเทศนี้ ให้เสียภาษีโดยหักจากจํานวนเงินที่จําหน่ายในอัตราร้อยละ 10

การยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่จําหน่ายเงินกําไรไปต่างประเทศ จะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี ภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จําหน่ายเงินกําไร

แบบแสดงรายการที่ใช้ยื่น ได้แก่ ภ.ง.ด. 54 (ยื่นทุกครั้งที่มีการจําหน่ายเงินกําไรออกไปจากประเทศไทย ถ้าเก็บกําไรไว้ในประเทศไทยไม่ต้องเสียภาษีฐานนี้)

การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานเงินได้ที่จ่ายจากหรือในประเทศไทย

ผู้มีหน้าที่เสียภาษี

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศที่มิได้ประกอบกิจการใน
ประเทศไทย และได้รับเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)(3)(4)(5) หรือ (6)

เงินได้ที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(2)

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(3)

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(5)

เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(6)

การยื่นแบบแสดงรายการชําระภาษี

การหักภาษีเงินได้นิติบุคคล ณ ที่จ่ายสําหรับบริษัทต่างประเทศข้างต้น ผู้จ่ายเงินได้จะต้องหัก ณ ที่จ่าย และยื่นแบบแสดงรายการและนําส่งภาษีภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน

แบบแสดงรายการที่ยื่น ได้แก่ แบบ ภ.ง.ด. 54 (ถ้าไม่มีการส่งเงินได้ไปต่างประเทศก็ไม่ต้องยื่น)

การเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากฐานรายรับก่อนหักรายจ่าย

ผู้มีหน้าที่เสียภาษี

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งตามกฎหมายของต่างประเทศ เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทยประเภทกิจการขนส่งระหว่างประเทศ

มูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการแล้วมีรายได้

บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือกฎหมายต่างประเทศหรือถือว่าประกอบกิจการในประเทศซึ่งเข้าเกณฑ์จะต้องเสียภาษีจากฐานกําไรสุทธิ แต่เนื่องจากนิติบุคคลนั้นไม่ยื่นรายการ ไม่ทําบัญชี ทําบัญชีแต่ไม่สมบูรณ์หรือไม่นําบัญชีมาให้ตรวจสอบเจ้าพนักงานประเมินมีอํานาจประเมินภาษีในอัตราร้อยละ 5 ของยอดรายรับก่อนหักรายจ่ายใด หรือของยอดขายก่อนหัก
รายจ่ายใด แล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า

กิจการขนส่งระหว่างประเทศ

กรณีรับขนคนโดยสาร

กรณีรับขนของ

การยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี

กิจการขนส่งระหว่างประเทศ จะต้องยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีเงินได้นิติบุคคลภายใน150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี

แบบแสดงรายการที่ใช้ยื่น คือ ภ.ง.ด. 52 (ยื่นรอบระยะเวลาบัญชีละ 1 ครั้ง)

มูลนิธิหรือสมาคม

รายได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี

การคํานวณภาษีเงินได้ของมูลนิธิหรือสมาคม จะต้องคํานวณตามรอบระยะเวลาบัญชีซึ่งกําหนดไว้ว่า ต้องไม่น้อยกว่า 12 เดือน โดยนํารายได้จากการประกอบกิจการที่ไม่ได้รับการยกเว้นภาษีก่อนหักรายจ่ายคูณด้วยอัตราภาษีร้อยละ 10 หรือร้อยละ 2 แล้วแต่กรณี ผลที่ได้คือภาษีที่ต้องเสียนั่นเอง

การยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษี

มูลนิธิและสมาคมที่ประกอบกิจการมีรายได้ต้องยื่นแบบแสดงรายการและชําระภาษีภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี และไม่อยู่ในบังคับต้องจัดทําประมาณการกําไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้ครึ่งปีเนื่องจากมีเกณฑ์จัดเก็บจากยอดรายรับมิได้มีเกณฑ์จัดเก็บจากกําไรสุทธิ

แบบแสดงรายการที่ใช้ยื่นคือ ภ.ง.ด.55 (ยื่นรอบระยะเวลาบัญชีละ 1 ครั้ง)