ความศรัทธาในศาสนาของนักศึกษาชั้นปีที่1
ความสำคัญและที่มาของปัญหาการวิจัย
ศาสนาเป็นสถาบันหนึ่งของสังคม
ศาสนามีบุคลากรทางศาสนาเป็นผู้สั่งสอนและเป็นผู้บริหารจัดการในเรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
สังคมไทยมีหลากหลายศาสนา เช่น พุทธ อิสลาม คริสต์ เป็นต้น
หลายคนเชื่อว่าการเลือกไม่นับถือศาสนาอะไรเลยของคนในปัจจุบันนับเป็น. เทรนด์และกระแส แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เพียงแต่คนเหล่านั้นเป็นคนที่เลือกที่จะไม่เชื่อในทุกคนศาสนาด้วยเหตุผลหนึ่งมากกว่า
สมมติฐาน
วัยรุ่นส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับศาสนาน้อยลงเพราะปัจจุบันนั้นหันมาเชื่อในวิทยาศาสตร์มากขึ้น และรู้สึกอึดอัดกับกฏบัญญัติของศาสนา
แม้มีศาสนาแต่ระดับความสนใจของวัยรุ่นส่วนใหญ่ต่อหลักศาสนาน้อยลง เนื่องจากรู้สึกถูกบังคับจนเกินไป วัยรุ่นต้องการอิสระ
นับถือศาสนาเพราะศรัทธาและเชื่อว่าศาสนาทำให้ชีวิตดีขึ้น
ไม่นับถือศาสนาเพราะเสื่อมศรัทธา ไม่เชื่อในสิ่งที่เหนือธรรมชาติตามคัมภีร์ เพราะดูเกินจริง และมีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจที่รู้สึกดีกว่า
คำถามของการวิจัย
Subtopic
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย
ได้ทราบถึงสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของนักศึกษาชั้นปีที่1 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ได้ทราบถึงทัศนคติที่มีต่อศาสนาของวัยรุ่นในปัจจุบัน
ระเบียบวิธีวิจัย
กลุ่มนักศึกษาชั้นปีที่1 ทั้งเพศชายและหญิง จำนวน 100 คน
อายุ 18-20 ปี
ศาสนาที่นับถือ
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อศึกษาถึงปัจจัยส่วนบุคคลเกี่ยวกับทัศนคติของผู้ตอบแบบสอบถามต่อศาสนา
เพื่อศึกษาระดับความสนใจต่อศาสนาเรื่องความเชื่อ
เพื่อศึกษาความแตกต่างความศรัทธาต่อศาสนาของผู้ตอบแบบสอบถาม
ทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ขอบเขตของการวิจัย
นักศึกษาชั้นปีที่1 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
ตัวแปรอิสระ
เพศ
อายุ
ศาสนา
ตัวแปรตาม
ระดับความศรัทธา