องค์ประกอบของระบบการกำหนด
นโยบาย

โครงสร้างทางสิ่งแวดล้อม

โครงสร้างหลักเหล่านี้จะครอบคลุมไปด้วยการแบ่งแยกของอำนาจ
ไปสู่รัฐบาล ระบบของรัฐ และสหพันธรัฐ

ในเวลาต่อมาได้อนุญาตให้ประชาชน
เข้าถึงรัฐบาลได้ ซึ่งทำให้ประชาชนช่วยสร้างรากฐานการปฏิบัติของ
รัฐบาล แต่ในทางกลับกันในการทำงานอาจมีความล่าช้า

สิ่งแวดล้อมทางสังคม

มีความสัมพันธ์กับองค์ประกอบของประชากร สร้างด้วยอายุ เชื้อชาติ เพศ และอื่น ๆ ซึ่งองค์ประกอบเหล่านี้จะเป็นอิทธิพลที่สำคัญในการกำหนดนโยบายสาธารณะ

สิ่งแวดล้อมทางการเมือง

มีแนวทางหนึ่งที่ผู้กำหนดนโยบายก็คือการสำรวจความคิดเห็นของสาธารณะ เพื่อให้ง่ายในการกำหนดนโยบาย

สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจ

สิ่งแวดล้อมทางเศรษฐกิจครอบคลุมไปด้วยการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ความมั่งคั่งทางสังคม ขนาดของอุตสาหกรรม ค่าเฉลี่ยของ
การเติบโตทางเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ ค่าจ้างแรงงาน เป็นต้น ที่กล่าวมาข้างต้นมีความสำคัญมากเพราะสามารถนำมากำหนดนโยบาย

ระบบการทำงานภายในที่ไม่
สามารถอธิบายได้ แต่จะมีแค่่บุคคลภายในเท่านั้นที่สามารถรับรู้ได้

แบบทางการ

มีภาระหน้าที่รับผิดชอบจะถูกแทรกแซงผ่านทางกฎหมาย และพวกเขาเหล่านั้นจะมีอำนาจ
ในการกำหนดให้เกิดเป็นนโยบายขึ้นมา

สภานิติบัญญัติ

มีหน้าที่ออกกดหมายเพื่อที่จะสร้างนโยบาย แต่อย่างไรก็ตาม กลุ่มผลประโยชน์ก็ยังคงมุ่งมั่นที่
จะเปลี่ยนแปลงนโยบายให้ได้

สถาบันการบริหาร

ผู้บริหารมีอำนาจสูงสุดในการบริหารประเทศ สามารถใช้สิทธิได้อย่างเต็มที่ในการพิจารณา
ข้อดีในองค์การและเป็นเพียงคนเดียวที่จะนำพาให้ผู้ทำงานสามารถทำงาน
ให้บรรลุเป้าหมายของการบริหารขององค์การ

สถาบันตุลาการ

สนับสนุนในการแบ่งแยกประเด็นทางการเมืองและทางกฎหมาย

แบบไม่ทางการ

จะประกอบไปด้วยผู้มีบทบาทในกระบวนการนโยบายที่ไม่มีคำอธิบายโดยตรง ซึ่งคนกลุ่มนี้จะทำเพื่อประผดยชน์สวนตน

กลุ่มผลประโยชน์

การรวมกลุ่มของผู้คนเพื่อเรียกร้องสิทธิของตน
เช่น การเรียกร้องของกลุ่ม LGBT

ปัจเจกชน

ผู้มีอิทธิผล

ผู้มีอำนาจ

พรรคการเมือง

การออกนโยบายของแต่ละพรรคเพื่อให้ประชาชนเลือกหรือ
สนใจพรรคของตน

กลุ่มคณะที่ปรึกษาและองค์การวิจัยอื่นๆ

จัดการข้อมูลต่างๆเพื่อกำหนดนโยบาย

สื่อมวลชน

ให้ข้อมูลของผลเมืองเกี่ยวกับประเด็นต่างๆในสังคม

ความหมาทางเศรษฐศาสตร์คือ ผู้ที่รับประโยชน์โดยไม่ต้องเสียแรงหรือเงินทุนในการผลิต

ความหมายทางสังคมคือ กาฝาก