POPULATION AND
PUBLIC HEALTH
Definition Demography
SIZE ขนาด
STRUCTURE โครงสร้าง
CHARACTERISTIC ลักษณะจำเพาะ(เพศสภาพ)
CHANGING เปลี่ยนเเปลง
DISTRIBUTION การกระจาย
FACTOR ปัจจัย
CHARACTERISTIC
SEX
ความเเตกต่างระหว่าง ผู้ชายเเละผู้หญิง
ผู้หญิง 51%การสือสาร ความละเอียดละอ่อน การจูงใจ จะดีกว่าผู้ชาย
ผู้ชาย 49%ความเเข็งเเรง เซนต์ในเรื่องของทิศทางดีกว่าผู้หญิง การสือสารเล็กน้อย
เพศ โดยทั่วไปจะมีการตามสากลเเบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ ชาย เเละหญิง
เเต่ในปัจจบันยังมีเพศทางเลือก เรียกกว่า LGBT กลุ่มคนที่ระบุเพศไม่ได้
โดยจะมีการจำเเนกพบว่า มuผู้หญิงมากกว่าผู็ชาย 2 %
SOCIAL STATUS
ECONOMIC STATUS
RELIGION
AGE
ตัวเเปรเรื่องตัวเลข จะมีความเเตกต่างการ
ช่วงอายุ 10 ปี ต้องการการดูเเลเป็นพิเศษเป็นช่วงที่มีการพัฒนามากที่สุด
ซึ่งช่วง 2-5 ปีเป็นช่วงที่มีการตอบสนองต่อร่างกายเเละสมองมากที่สุด
ช่วงอายุ 10-20ปี เป็นช่วงวัยรุ่นเเละวัยเริ่มเจริญพันธ์ุ รางกายจะสามารถมีการสืบพันธ์ุได้ คือ ผู็หญิงมีประจำเดือน ผู้ชายมีการผลิตน้ำเชื้ออสุจิ
ช่วงอายุ20-30ปี วัยทำงาน มีปัญหาเกี่ยวกับที่ทำงาน เครียดกับงาน โรคจากการทำงาน
ช่วงอายุ 30-40 ปี เริ่มมีการสร้างครอบครัว มีการวางเเผนครอบครัว จะมีความเครียดมากที่สุด เนื่องจากการเตรียมตัวที่จะมีลูก เเละอาจจะมีปํญหาอื่น ปัญหาด้านความรู้สึก ฮอร์โมน ต่างๆ
ช่วงอายุ 40-50 ปี เริ่มมีการท่องเที่ยวหาความสุขให้ชีวิต สร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว ต้องมีการดูเเลในเรื่องการเดินทางต่างๆ
ช่วงอายุ 50-60 ปี วัยผู้สูงอายุ มีการเปลี่ยนเเปลงของฮอร์โมน อาจจะมีปัญหาเครียด ซึมเศร้า
ช่วงอายุ 70-80 ปีวัยการสูดเสียคนที่รัก
ช่วงอายุ 80 วัยเเห่งการจากลา
อายุ สามารถบ่งบอกความสามารถในการเข้าใจเนื้อหา การรับรู้ต่างๆอย่างมีเหตุผลดีว่า การสนใจ การตัดสินใจ กระบวนการคิดต่างๆ เเละรวมไปถึงการชักจูวใจ โดยวัยเด็ฏเเละวัยผู้อายุจะมีการชักจูงดีกว่า
OCCUATION
EDUCATION
EDUCATION การศึกษา จะทำให้คนมีความรู้คิดวิเคราะห์โดยไม่จำเป็นต้องเรียนในห้องเรียน
CHARACTERISTIC สถานะทางสังคมเเละเศรษฐกิจ นั้นบอกถึงความเเตกต่างระหว่างรายได้ เชื้อชาติ อาชีพ คนรวยจะมีพฤติกรรมต่างกับคนไม่รวย
OCCUPATION อาชีพนั้นจพยอกถึงความสนใจของตัวบุคคลนั้น
RELIGION ศาสนาส่งผลต่อการตัดสินใจตามหลักคำสอนของ ศาสดาของศาสนานั้นๆ
เเนวคิดต่างๆ
เเนวคิดพาณิชย์นิยม การค้าขาย ใช้เเรงงานทาส เน้นประโยชน์ของประชากร มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ค่าจ้างราคาถูก ส่งเสริมให้มีการเเต่งงาน ไม่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของประชากร
เเนวคิดทางคณิตการเมือง อัตราการเพิ่มขึ้นเป็นอนุกรมเรขาคณิต
---เเนวคิดของฮีบรูกรือยิว มีการส่งเสริมการเพิ่มประชากรมาก เเละเชื่อว่าถ้าประชากรมากเกินไปจะถูกควบคุมด้วย สงคราม โรคภัยต่างๆ
---เเนวคิของกลุ่มคริมเตียน ยกย่องหญิงพรหมจารี เเละถือว่าการมีหลายครอบครัวไม่ดี
---เเนวคิดมุสลิม ที่ไหนมีการประชามาก จะส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
---เเนวคิดสมัยกรีกตอนต้น กำหนดประชากรจากการทำสงคราม ประชากรมาก การป้องกันรัฐสูง มีการจ้างให้คนเเต่งงาน ให้อิสระในการย้ายเข้ามา ในกรณี ประชากรมากเกินไปจะมีการปล่อยทารกลงเเม่น้ำ
---เเนวคิดสมัยจักรวรรดิโรมัน ส่งเสริมการเพิ่มประชากร เพื่อการขยายอำนาจ กำลังทหารต่างๆ เเละมีการเก็บภาษีคนโสด
---เเนวคิดสมัยโบราณ เเละสมัยกลาง การเพิ่มจำนวนของประชากรมากเกินไป อาจจะทำให้ผลผลิตต่อประชากรที่ทำงานหนึ่งลดลง
---เเนวคิดของนักปราชญ์จีนโบราณ การตายมากขึ้นอาหารไม่เพียงพอ ก่อนเเต่งานต้องมีวุฒิภาวะ สงครามทำให้อัตราเพิ่มประชากรเปลี่ยน ไม่เสียค่าใช้จ่ายในพิธีเเต่งงาน