Basic of Statistic and Data collection

ประเภทของสถิติ

Descriptive
Statistics

สถิติเชิงพรรณนา

การใช้สถิติเพื่ออธิบายข้อมูลที่มีอยู่

ไม่ได้นำไปพยากรณ์ประชากร แต่อย่างใด

ลักษณะที่จะพรรณนาข้อมูลนั้น มีอยู่สองลักษณะ

การใช้ตัวอักษรหรือตัวเลข

การใช้แผนภาพ

Inferential
Statistics

สถิติพำรำมิเตอร์
(Parametric Statistics )

สถิติว่าด้วย การวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวม
มาจากกลุ่มตัวอย่างเพื่ออธิบาย สรุป
ลักษณะบางประการของประชากร โดยมี
การนำทฤษฎี ความน่าจะเป็นมาประยุกต์ใช้

ข้อมูลระดับช่วงขึ้นไป (Interval Scale)

มีการแจกแจงเป็นโค้งปกติ

• ประชากรแต่ละกลุ่มที่นำมาศึกษาจะต้องมีความ
แปรปรวนเท่ากัน ใช้ t-test, Z-test, ANOVA,
Regression ฯลฯ

การเขียนแสดงค่าใช้อักษรกรีกเป็นสัญลักษณ์

สถิตไร้พำรำมิเตอร์
(Nonparametric Statistics)

เป็นวิธีการทางสถิติที่สามารถนำมาใช้ได้โดยปราศจากข้อตกลง
เบื้องต้นทั้ง 3 ประการข้างต้น

สถิติที่อยู่ในประเภทนี้ เช่น ไคสแควร์,
Median Test, Sign test ฯลฯ

ข้อพิจำรณำกำรใช้สถิติเพื่อกำรวิจัย

ทราบวัตถุประสงค์ของการนำวิธีการสถิติมาใช้

ทราบประเภทของสถิติที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์

รู้ลักษณะของข้อมูลว่ามีกำรวัดระดับใด

สามารถกำหนดสถานภาพของตัวแปรที่ศึกษาได้ว่าเป็นตัวแปร
อิสระ หรือตัวแปรตาม

รู้หลักการเบื้องต้นของการใช้สถิติ

รู้กานำเสนอ การอ่าน และการตีความหมายผล

ตัวแปร

ตัวแปรอิสระ
(Independent Variables)

ตัวแปรที่เปลี่ยนไปตามตัวแปรต้น หรือผลของตัวแปรต้น

ตัวแปรตาม
(Dependent Variables)

ตัวแปรที่เปลี่ยนไปตามตัวแปรต้น หรือผลของตัวแปรต้น

ตัวแปรควบคุม

ตัวแปรที่ส่งผลต่อการทดลอง อาจทำให้การทดลองคลาดเคลื่อน จึงต้องควบคุมเอาไว้

ประเภทของตัวแปรตำมระดับของกำรวัด

ตัวแปรกลุ่ม หรือ นามมาตร หรือ นามกำหนด (Norminal)

ตัวแปรอันดับ (Ordinal)

ตัวแปรช่วงหรืออันตรภาค (Interval)

ตัวแปรอัตราส่วน (Ratio)

การเสนอผลสถิติพรรณนาในรายงานวิจัย

เสนอในรูป
ตาราง

นิยมเสนอสถิติพรรณนำในรูปตาราง
ถ้าเป็นตารางแสดงข้อมูลที่มีหน่วยวัด
ก็ต้องระบุหน่วยวัดที่ใช้กับตัวแปรแต่ละ
ตัวอย่างชัดเจน

ระบุหมายเลข
และชื่อตาราง

ทุกตารางมีหมายเลขและ
ชื่อตารางที่บ่งบอกสาระ
หรือข้อมูลที่ปรากฏใน
ตาราง

ไม่ใส่คำที่ไม่ใช่สาระ

หลังตัวเลขกำกับตาราง
แล้วไม่ควรมีคำบาง
ประเภทที่ไม่ใช่สาระของ
ข้อมูล เช่น คำว่า ที่แสดง
เปรียบเทียบ

การใช้สถิติการวิเคราะห์หลายตัวแปร

ข้อพิจารณาการใช้สถิติหลายตัวแปร

ระดับของการวัด

ขนาดของตัวแปร

เงื่อนไขของการแจกแจงแบบปกติ และ
ความสัมพันธ์เป็นเส้นตรง

ปัญหาความสัมพันธ์กันมากระหว่างตัวแปรอิสระ

ปัญหาความไม่เป็นเส้นตรง

การจัดการขนาดของการวัดในการวิเคราะห์หลายตัวแปร

เกิดจากหน่วยวัดของตัวแปรอิสระที่แตกต่างกัน
ทำให้ไม่สามารถสรุปได้ว่าตัวแปรอิสระตัวใด
มีผลมากกว่าตัวแปรใด

การทำตัวแปรให้มีค่ามาตรฐาน
(Standard Value)

ค่ามาตรฐาน = (ค่าจริง – ค่าเฉลี่ย)/ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ประเภทของข้อมูล

นำมบัญญัติ (Nominal Scale)

เป็นระดับกำรวัดที่หยำบที่สุด จัดข้อมูล
หรือตัวแปรออกเป็นกลุ่ม

ใช้สถิติง่ายๆ ในการคำนวณ คือ ความถี่ สัดส่วน ร้อยละ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงตัวแทนของชื่อกลุ่มเท่านั้น

จะนำไป บวก ลบ คูณ หำร กันไม่ได้ในทำงสถิติ เพราะ
ไม่มีควำมหมำย

เรียงอันดับ (Ordinal Scale)

เป็นข้อมูลที่ ใช้จัดอันดับของสิ่งต่ำงๆ โดย
เรียงอันดับของข้อมูลตำมวัตถุประสงค์ที่ต้งไว้จากสูงสุดไปหาต่ำสุด

สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ ความถี่ สัดส่วน ร้อยละ

อันตรภำค (Interval Scale)

เป็นข้อมูลที่บอกถึงควำมแตกต่ำงระหว่างค่าที่วัดได้แต่ละช่วง ที่มีควำมห่างเท่ากัน ทุกช่วง เป็นข้อมูลที่เป็นตัวเลข สามารถ บวก ลบ กันได้ แต่ไม่มีศูนย์แท้

สถิติที่ใช้ในกำรวิเคราะห์ คือ ความถี่ สัดส่วน
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐาน และ
สถิตชั้นสูงทุกตัว

อัตรำส่วน (Ratio Scale)

ขอมูลประเภทนี้ เป็นข้อมูลที่ใช้วัดในระดับสูง
สามารถบวก ลบ คูณ หาร ได้ และมีศูนย์แท้

ข้อมูลเหล่านี้สามรถนำไปวิเคราะห์กับสถิติได้ทุกตัว

วัตถุประสงค์โดยทั่วไปของกำรใช้สถิติเพื่อกำรวิจัย

พรรณนำคุณสมบัติของหน่วยศึกษา/วิเคราะห์

ศึกษำความแตกต่างระหว่างกลุ่มต่างๆ ที่เป็น
เป้ำหมายของกำรศึกษา

ศึกษำความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร

ศึกษำการประมาณค่าหรือการพยากรณ์

หลักกำรเบื้องต้นที่สำคัญของกำรใช้สถิติ

หลีกเลี่ยงการเสนอซ้ำซาก

โดยเสนอให้น้อยที่สุดแต่สิ่งที่เสนอต้องสื่อ
ความหมายให้ได้มากที่สุดหรือครบถ้วน
สมบูรณ์ในตัวของมันเอง

เสนอในรูปแบบมาตรฐานของแต่ละวิธีการหรือ
ที่วงวิชาการยอมรับ

ทำการเสนอที่ได้รูปแบบ
มาตรฐานของแต่ละวิธีการที่ใช้กัน
ในวงการวิจัย

แปลผลค่าสถิติต่างๆ ได้ถูกต้อง

ทำกำรอ่านผลค่าสถิติ
ต่างๆ ได้อย่างถูกต้อง

ตีความหมาย

ทำการตีความหมายผลที่ได้จาก
การวิเคราะห์ให้เป็นไปตาม
หลักการหรือเกณฑ์ที่กำหนด

สถิติพรรณนำกับกำรวิจัย

ช่วยสรุปคุณสมบัติของสิ่งศึกษา (ประชากรหรือกลุ่มหน่วยวิเคราะห์)

ช่วยสรุปตัวเลขหรือหน่วยจำให้เห็นเป็นรูปธรรม

เหมาะสำหรับการรายงานวิจัยทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ

ช่วยในการตัดสินใจเบื้องต้นว่าการวิจัยได้เก็บข้อมูล

จากกลุ่ม/หน่วยวิเคราะห์ที่เหมาะสมหรือไม่ ทั้งในด้านจำนวนและในด้าน
คุณสมบัติ

สถิติพรรณนำสำหรับตัวแปรเชิงคุณภาพ

ส่วนใหญ่ใช้กับข้อมูลที่เก็บจากแบบสอบถาม

ต้องมีการลงรหัสข้อมูลให้เป็นตัวเลข (Coding) ถ้ารหัสใดไม่
ต้องการวิเคราะห์ให้เป็น Missing Value(s)

ค่าสถิติเชิงพรรณนาที่สำคัญจากการวิเคราะห์สถิติ

ค่าความถี่(Frequency)

อัตราส่วนร้อยปกติ (Percent)

อัตราส่วนที่ถูกต้อง (Valid Percent)

ใช้ได้กับข้อมูลประเภทที่มีระดับการวัดแบบช่วง (Interval Scale)
และที่มีการวัดแบบอัตราส่วน (Ratio Scale)

สถิติพรรณนาสำหรับตัวแปรเชิงปริมาณ เช่น ขนาดตัวอย่าง (N) ค่า
การผันแปร (Variance) พิสัย (Range) ค่าผิดพลาดมาตรฐานของ
ค่าเฉลี่ย (Standard Error of Mean) ค่ามัธยฐาน (Median)
ค่าฐานนิยม (Mode) ค่าควอไทล์(Quartiles) ค่าความเบ้ (Skewness)
ค่าความสูง (Kurtosis)

สถิติพรรณนาที่ควรนำมาใช้กับตัวแปรเชิงปริมาณ เพื่อมาตรฐานใน
การรายงานผลการวิจัยมี 4 ตัวคือ ค่าตำสุด (Minimum)
ค่าสูงสุด(Maximum) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Derivation)

การใช้สถิติการวิเคราะห์สองตัวแปร

ตัวแปรอิสระและตัวแปรตามเป็นตัวแปรเชิง
คุณภาพ

ตัวแปรอิสระเป็นตัวแปรเชิงคุณภาพและตัว
แปรตามเป็นตัวแปรเชิงปริมาณ

ตัวแปรอิสระและตัวแปรตามเป็นตัวแปรเชิง
ปริมาณทั้งคู่

Main topic

ตัวแปรที่มีระดับการวัดสูงสามารถลดระดับการวัด
ให้ต่ำลงได้

ตัวแประเชิงปริมาณอาจยุบลงเป็านตัวแปรเชิง
คุณภาพได้

ตัวแปรคุณภาพที่มีระดับการวัดต่ำไม่สามารถ
ยกระดับให้สูงเป็นตัวแปรเชิงปริมาณได้

ตัวแปรคุณภาพสามารถแปลง
(Transform) ให้กลายเป็น
ตัวแปรเชิงปริมาณได้ในรูปตัวแปรหุ่น
(Dummy Variable)