พัฒนาของทวีปยุโรป

พัฒนาการด้านการเมืองการปกครอง

แบ่งตามยุคสมัยประวัติศาสตร์เป็น 4 สมัย

คือ

สมัยโบราณ

สมัยกลาง

สมัยใหม่

สมัยปัจจุบัน

พัฒนาการด้านสังคมและวัฒนธรรม

สมัยโบราณ

กรีกและโรมันเป็นสังคมชนชั้น โดยแบ่งพลเมืองเป็นชนชั้นปกครอง

ได้แก่ ผู้นำทางการเมือง เช่น กษัตริย์ กงสุล จักรพรรดิ รวมถึงทหารและขุนนาง

และชนชั้นที่ถูกปกครอง ได้แก่

เสรีชนที่ประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น พ่อค้า เกษตรกร ช่างฝีมือ รวมถึงทาส

สมัยกลาง

เป็นสังคมแมนเนอร์ที่มีปราสาทของขุนนางเป็นศูนย์กลางชุมชน แบ่งออกเป็น 2 ชั้น

คือ ชนชั้นปกครองประกอบด้วยกษัตริย์ ขุนนาง

และบาทหลวง และชนชั้นสามัญชน

สมัยใหม่

ลักษณะทางสังคมและวัฒนธรรมเจริญก้าวหน้าโดยเฉพาะทางความรู้ด้านต่าง ๆ มีการรื้อฟื้นวิทยาการสาขาต่าง ๆ ของกรีกและโรมัน

ทำให้เกิดการปฏิวัติวิทยาศาสตร์ การประดิษฐ์แท่นพิมพ์ขึ้นใช้ได้ผลเป็นครั้งแรกในยุโรป เมื่อ ค.ศ. 1454

ทำให้มีการอ่านหนังสือกันอย่างกว้างขวาง

พัฒนาด้านเศรษฐกิจ

สมัยโบราณ

เศรษฐกิจของยุโรปขึ้นอยู่กับการเกษตรตามบริเวณลุ่มแม่น้ำ

ซึ่งเป็นเศรษฐกิจเกษตรกรรมแบบพึ่งตัวเอง

ซึ่งเป็นเศรษฐกิจเกษตรกรรมแบบพึ่งตัวเอง

สมัยกลาง

เศรษฐกิจในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 5–11

เป็นระบบเศรษฐกิจแบบแมนเนอร์ (Nanorial System)

ซึ่งเป็นเศรษฐกิจเกษตรกรรมแบบพึ่งตัวเอง

สมัยใหม่

ระบบเศรษฐกิจเป็นแบบทุนนิยม

ที่ตั้งและสภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีผล ต่อพัฒนาการของประเทศ

ทวีปยุโรปตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือ ประกอบด้วยที่ราบลุ่ม ที่ราบสูง เทือกเขา และมีคาบสมุทรจำนวนมาก จึงได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งคาบสมุทร

ประกอบด้วยที่ราบลุ่ม ที่ราบสูง เทือกเขา และมีคาบสมุทรจำนวนมาก

จึงได้ชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งคาบสมุทร

ความอุดมสมบูรณ์ของผืนดินและการมีแม่น้ำสายต่าง ๆ

รวมทั้งการมีอุณหภูมิที่อบอุ่น

เหล่านี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาตั้งหลักแหล่ง

ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์

ทวีปยุโรปเป็นดินแดนที่มีมนุษย์เข้าไปตั้งถิ่นฐานเมื่อประมาณ 10,000 ปีมาแล้ว

ซึ่งมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ล้าหลังมาก ต่อมาจึงได้พัฒนาขึ้น

จนกระทั่งสมัยกรีกและโรมันได้สรรค์สร้างวัฒนธรรม

ทางด้านปรัชญา วรรณกรรม ศิลปกรรม และการปกครองเป็นของตนเอง