การศึกษาทักษะการเสริปหลังมือกีฬาแบดมินตัน
ขอบแขตการวิจัย
ในกาวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้ประชากรเป็นนักศึกษาระดับ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ความเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นส่วนสำคัญให้คนในสังคมต้องปรับปรุงและพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการศึกษาต้องปรับปรุงเพื่อให้คนมีความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยเหตุนี้การศึกษาจึงได้พยายามปรับปรุงหลักสูตรในระดับต่างๆให้ได้มาตรฐานเพื่อเป็นหลักในการนำไปใช้แก้ปัญหาและให้สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะของผู้เรียนซึ่งวิชาพลศึกษาเพื่อพัฒนาสุขภาพเป็นวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับมนุษย์มากโดยเฉพาะในส่วนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินการชีวิตเพราะวิชาพลศึักษาเพื่อพัฒนาสุขภาพ เป็นวิชาที่สร้างสรรค์จิตใจของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับความคิดตลอดจนกระบวนการทางร่างกาย ตลอดจนทำให้ผู้เรียนมีความเจริญเติบโตทั้งกายและสติปัญญา
หลักในการฝึก
ในการฝึกทักษะควรทำหลังจากนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องต่างๆแล้ว
ฝึกทักษะตามความต้องการของผู้เรียน ให้ผู้เรียนที่เห็นคุณค่าและประโยชน์ในการฝึก
การฝึกควรฝึกให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน
การทำแบบฝึกนั้น ควรฝึกเฉพาะเรื่องและให้จบเรื่องนั้นๆก่อนจึงจะฝึกเรื่องต่อไป
ในการฝึกไม่ควรให้ซ่ำซากน่าเบื่อ ควรจะฝึกเพื่อให้เกิดทักษะหรือความชำนาญใช้เวลาในการฝึกทักษะพอสมควร
การฝึกให้ผลดีต้องเป็นรายบุคคล
แบบฝึกควรมีมาตรฐานจัดให้เหมาะสมให้ตรงตามความจ้องการของผู้เรียน
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
ทราบว่านักศึกษารัดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจการพัฒนาทักษะของแบดมินตัน(การเล่นลูกหลังมือ)
บุคลิกท่าทางการเล่นแบดมินตันในการเสริฟแบดมินตันของนักศึกษาระดับประกาศยนีบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
ทราบผลการใช้กิจกรรมการพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาแบดมินตันของนักศึกษาประกาศยนีบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ
วัตุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อให้การศึกษาการพัฒนาทักษะของกีฬาแบดมินตัน
เพื่อพัฒนาบุคลิกท่าทางการเล่นกีฬาแบดมินตันของนักศึกษา
เพื่อศึกษาผลการใช้กิจกรรมการพัฒนาทักษะการเสริฟหลังมือกีฬาแบดมินตัน
สมมติฐานในการวิจัย
ความสามารถในการเสริฟลูกแบดมินตันของกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองดีขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้ง 2 กลุ่มภายหลังการฝึกไม่แตกต่างกัน