ความรู้พื้นฐานของการวิจัย
(Foundation of Research)igram

ความหมายของการวิจัย (Meaning of Research)

เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ที่มีระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจนปราศจากอคติส่วนตัว เพื่อนำไปใช้อธิบายปรากฏการณ์ ทางสังคม หรือพัฒนาเป็นกฎ ทฤษฏี หรือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและเชื่อถือได้

จุดมุ่งหมายของการวิจัย

เป้าหมายของการวิจัย คือ มุ่งหาคำตอบเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา

การวิจัยเป็นการสรุปผล หลักเกณฑ์ และเป็นการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเพื่อที่นำผลสรุปอ้างอิงไปสู่ประชากร

การวิจัยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล หรือปรากฏการณ์ที่สังเกตได้มาใช้ในการสรุปผล

มีจุดมุ่งหมายใน 4 ลักษณะ คือ บรรยาย อธิบาย พยากรณ์ และควบคุม ในปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น

แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย

กฎเหตุและผลของธรรมชาติ(Deterministic Law of Nature) เป็นแนวคิดที่ระบุว่า ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถแสวงหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นั้นได้เสมอ

กฎความเป็นระบบของธรรมชาติ(Systematic Law of Nature) เป็นแนวคิดที่ระบุว่าปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามกฎของเหตุและผลของธรรมชาติจะมีรูปแบบของความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ค่อนข้างจะชัดเจน

กฎความสัมพันธ์ของธรรมชาติ(Associative Law of Nature) เป็นแนวคิดที่ระบุว่า ในการเกิดปรากฏการณ์ใด ๆ ที่แตกต่างกันนั้น จะมีความมากน้อยของตัวแปรที่เป็นสาเหตุและตัวแปรผลที่แตกต่างกัน

กฎองค์ประกอบหลักของธรรมชาติ(Principle Component of Nature) เป็นแนวคิดที่ระบุว่าตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเดี่ยว แต่จะมีตัวแปรอื่นๆ ที่มักจะมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ๆ

กฎความน่าจะเป็นของธรรมชาติ(Probabilistic Law of Nature) เป็นแนวคิดที่ระบุว่าในปรากฏการณ์ ใด ๆ นั้น ความรู้ความจริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะเป็นผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ ที่มีความน่าจะเป็นในการเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง

คุณลักษณะของการวิจัย

การวิจัย เป็นการแก้ปัญหาที่ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้าย

การวิจัย เป็นการพัฒนาข้อสรุป หลักเกณฑ์และทฤษฎีที่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือคาดการณ์

การวิจัย มีแนวคิดพื้นฐานของการได้รับข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ที่ได้จากการสังเกตหรือข้อมูลเชิงประจักษ์ (Empirical)

การวิจัยจำเป็นจะต้องมีกระบวนการสังเกตที่ถูกต้อง ชัดเจน และบรรยายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน

การวิจัย เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่จากแหล่งปฐมภูมิ หรือใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วในการตอบคำถามตามจุดประสงค์ใหม่

การวิจัยจะต้องมีระบบ มีวิธีการ แบบแผนการวิจัย และการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ชัดเจน ที่จะทำให้ได้ข้อสรุปการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ

ผู้วิจัยจะต้องรับรู้ปัญหาที่ตนเองจะทำวิจัย และเรียนรู้คำศัพท์เฉพาะที่ใช้

การวิจัย จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ โดยใช้เหตุผลตามหลักความเป็นจริงที่จะสามารถทดสอบได้

งานวิจัย จะต้องเป็นการดำเนินการแสวงหาคำตอบที่นำมาใช้ตอบคำถามของปัญหาที่ ยังไม่สามารถแก้ไขได้

การวิจัย เป็นกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการด้วยความอดทน ไม่เร่งรีบ และจะต้องยอมรับ/เผชิญอุปสรรคในวิธีการได้มาของคำตอบในการวิจัย

การวิจัย จะต้องมีการทำรายงานการวิจัย และอ้างอิงข้อมูลอย่างถูกต้อง

ธรรมชาติของการวิจัย

การวิจัยเป็นกระบวนการเชิงประจักษ์ คือ มีข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ชัดเจน

การวิจัยเป็นการดำเนินการที่เป็นระบบ คือ เป็นขั้นตอน

การวิจัยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน

การวิจัยมีความเที่ยงตรง (Validity)

การวิจัยมีความเชื่อมั่น (Reliability) คือ การวิจัยจะดำเนินการซ้ำกี่ครั้ง ก็จะได้ผลการวิจัยที่คล้ายคลึงกัน

การวิจัยมีเหตุผล

การวิจัยเป็นการแก้ปัญหา

การวิจัยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่

การวิจัยมีวิธีการที่หลากหลาย

การวิจัยต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย

ประเภทของการวิจัย

จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย

การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์(Basic Research or Pure Research)

การวิจัยการนำไปใช้(Applied Research)

จำแนกตามลักษณะ(ความลึก/ความกว้าง)ของข้อมูล

การวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research)

การวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research)

จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย(Methodology)

การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์(Historical Research)

การวิจัยเชิงบรรยาย(Descriptive Research)

จำแนกตามลักษณะของวิชา หรือศาสตร์

การวิจัยทางวิทยาศาสตร์(Scientific Research)

การวิจัยทางสังคมศาสตร์(Social Research)

จำแนกตามเวลาที่ใช้ในการทำวิจัย

การวิจัยแบบตัดขวาง/ระยะสั้น(Cross-section Research)

การวิจัยแบบต่อเนื่อง (Longitudinal Research)

จำแนกประเภทการวิจัยตามเป้าหมายหลักของการวิจัย

การวิจัยที่มุ่งบรรยายตัวแปร(Descriptive-Oriented Research)

การวิจัยที่มุ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร(Correlation-Oriented
Research)

การวิจัยที่มุ่งแสวงหาความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปร(Causal-Oriented
Research)

จำแนกตามการจัดกระทำ

การวิจัยแบบทดลองเบื้องต้น(Pre Experimental Research)

การวิจัยกึ่งทดลอง(Quasi Experimental Research)

การวิจัยแบบทดลองที่แท้จริง(True Experimental Research)

ขั้นตอนในการวิจัย

1) เลือกหัวข้อปัญหา

2) การกำหนดขอบเขตของปัญหา

3) การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

4) การกำหนดสมมุติฐาน

5) การเขียนเค้าโครงการวิจัย

6) การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล

7) ขั้นดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล

การจัดกระทำข้อมูล

Input เป็นการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์

Processing เป็นขั้นตอนของการจัดแบ่งประเภทของข้อมูล

Output เป็นขั้นตอนที่นำผลจากการขั้นตอนที่ได้จากขั้น Processing มาเขียนเป็นรายงาน

การสรุปผลการวิจัยและเขียนรายงาน

บทนำ (ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหา วัตถุประสงค์ เป็่นต้น)

การตรวจสอบเอกสาร

วิธีการดำเนินการวิจัย

ผลการวิจัย

ตัวแปรและสมมติฐาน

ความหมายของตัวแปร หมายถึง คุณสมบัติหรือคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาหาความจริง

ลักษณะและชนิดของตัวแปร

ลักษณะแบ่งออกได้ เป็น 2 ลักษณะ คือ ตัวแปรรูปธรรม (Concept) และตัวแปรนามธรรม (Construct)

ชนิดของตัวแปรแบ่งได้ 4 ชนิด คือ ตัวแปรอิสระ ตัวแปรตาม ตัวแปรสอดแทรก และตัวแปรแทรกซ้อนหรืออาจเรียกว่าตัวแปรเกิน

การนิยามตัวแปรและการหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง

การนิยามตัวแปร ทำได้ 2 ลักษณะ คือ การนิยามในลักษณะของการบอกองค์ประกอบ นิยามในลักษณะปฏิบัติการ

การหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง

สมมติฐาน

ประเภทของสมมติฐาน

สมมติฐานทางวิจัย (research hypothesis)

สมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง (Nondirectional hypothesis)

แหล่งที่มาของสมมติฐาน

จากการศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การสนทนากับผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ ประสบการณ์เบื้องต้นของผู้วิจัย การได้ร่วมอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาที่จะศึกษากับบุคคลอื่น ๆ และ การสังเกตพฤติกรรม

ลักษณะของสมมติฐานที่ดี

สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการวิจัย อธิบายหรือตอบคำถามได้ สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง สมเหตุสมผลตามทฤษฎี มีขอบเขตพอเหมาะไม่แคบหรือกว้างไป ถ้าแคบเกินไป เป็นต้น

การเขียนคำถามวิจัย (Research Questions)

คำถามวิจัย หมายถึง คำถามที่แสดงให้เห็นสิ่งที่ผู้วิจัยต้องการค้นหาคำตอบ

คำถามวิจัย ทำให้ทราบถึงประเด็นที่ผู้วิจัยต้องการทราบหรือทำความเข้าใจในเรื่องที่เลือกเป็นหัวข้อวิจัยนั้น ๆ

เขียนได้ 3 ลักษณะ คือ ประเด็นคำถามเชิงพรรณนา ประเด็นคำถามเชิงความสัมพันธ์ ประเด็นคำถามเชิงเปรียบเทียบ

จรรยาบรรณของนักวิจัย

นักวิจัยต้องซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในทางวิชาการและการจัดการ

นักวิจัยต้องตระหนักถึงพันธกรณีในการทำงานวิจัย

นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัย

นักวิจัยต้องมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ศึกษาวิจัย

นักวิจัยต้องเคารพศักดิ์ศรีและสิทธิของมนุษย์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัย

นักวิจัยต้องมีอิสระทางความคิด

นักวิจัยพึงนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ เพื่อประโยชน์ทางวิชาการและสังคม

นักวิจัยพึงเคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น

นักวิจัยพึงมีความรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ