บทที่ 6
ภาษีธุรกิจเฉพาะ
(Specification Business Tax)
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. เป็นบุคคล คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล ได้แก่
บุคคลธรรมดา
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
กองมรดก
ห้างหุ้นส่วนสามัญ
กองทุน
หน่วยงานหรือกิจการของเอกชนที่กระทําโดยบุคคลธรรมดาตั ้งแต่ 2 คนขึ ้นไปอัน
มิใช่นิติบุคคล
องค์การของรัฐบาล สหกรณ์ และองค์กรอื่นที่กฎหมายกําหนดให้เป็นนิติบุคคล
2. ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
1) การธนาคาร
2) การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
3) การรับประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต
4) การรับจํานําตามกฎหมายว่าโรงรับจํานํา
5) การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย
6) การขายอสังหาริมทรัพย์เป็ นทางค้าหรือหากําไร
7) การขายหลักทรัพย์
8) การประกอบกิจการอื่น
3. ประกอบกิจการในราชอาณาจักร
มีความหมายเช่นเดียวกับผู้ประกอบการที่มีหน้าที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งอธิบายไว้แล้วในบท
ที่ 5 เรื่องภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมทั ้งในกรณีที่บุคคลอยู่นอกราชอาณาจักรประกอบกิจการโดยผ่าน
ผู้ประกอบการหรือตัวแทนของตนที่อยู่ในราชอาณาจักรให้ถือว่าประกอบกิจการในราชอาณาจักร
กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. กิจการของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และ
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2. กิจการของบรรษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (IFCT)
3. กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เฉพาะการให้กู้ยืมแก่สมาชิก หรือสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น
4. กิจการของกองทุนสํารองเลี ้ยงชีพ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสํารองเลี ้ยงชีพ
5. กิจการของการเคหะแห่งชาติเฉพาะการขาย หรือการให้เช่าซื ้ออสังหาริมทรัพย
6. กิจการรับจํานําของกระทรวง ทบวง กรม และราชการส่วนท้องถิ่น
7. กิจการอื่น ตามที่กําหนดยกเว้นโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 240) พ.ศ. 2534
การขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ผู้มีสิทธิขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่
(1) ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษี ซึ่งได้ชําระภาษีไว้เกิน หรือผิด หรือซํ ้า
(2) ผู้ไม่มีหน้าที่เสียภาษีแต่ได้ชําระภาษีไว
2. แบบคําร้องขอคืนเงินภาษีอากร
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีสิทธิขอคืนเงินภาษีได้โดยใช้คําร้ องขอคืนเงินภาษีอากรคือ
แบบ ค.10
3. เอกสารที่ต้องแนบพร้อมคําร้องขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
การยื่นคําร้ องขอคืนเงินภาษีเงินธุรกิจเฉพาะ แบบ ค.10 จะต้องแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องไป
พร้อมกับคําร้องด้วยได้แก่
(1) หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กรณีผู้ขอคืนเป็นนิติบุคคล
(2) ใบเสร็จรับเงินภาษีธุรกิจเฉพาะ
(3) หลักฐานอื่นที่เกี่ยวจ้องกับประเด็นที่ขอคืน
4. กําหนดเวลายื่นคําร้อง
ให้ ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ยื่นคําร้องขอคืนเงินภาษีภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้น
กําหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี
อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ร้อยละ 0.1 สําหรับรายรับจากการกิจการขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย
2. ร้อยละ 2.5 สําหรับรายรับจากกิจการต่อไปนี ้
(1) กิจการประกันชีวิต
(2) กิจการโรงรับจํานํา
3. ร้อยละ 3 สําหรับรายรับจากกิจการต่อไปนี ้
(1) กิจการธนาคารพาณิชย์
(2) กิจการธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
(3) กิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
(4) กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากําไร
(5) กิจการอื่นที่จะกําหนดโดยพระราชกฤษฎีกาให้อยู่ในบังคับเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ฐานภาษีธุรกิจเฉพาะ
รายรับของผู้ที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ได้แก่ รายรับดังต่อไปนี ้
1. กิจการธนาคาร ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ หรือกิจการเยี่ยงธนาคาร
พาณิชย์
2. กิจการประกันชีวิต ได้แก่ ดอกเบี ้ย ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ
3. กิจการโรงรับจํานํา
4. กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากําไร รายรับจากการประกอบกิจการคือ รายรับ
ก่อนหักรายจ่ายใดๆ ทั ้งสิ ้น
5. กิจการขายหลักทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาด
หลักทรัพย์ รายรับจากการประกอบกิจการคือ รายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆ ทั ้งสิ ้น
6. กิจการซื ้อและขายคืนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และ
ตลาดหลักทรัพย์
7. ธุรกิจแฟ็ คเตอริง ได้แก่ ดอกเบี ้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ
รายรับที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. รายรับของธนาคารพาณิชย์ที่เป็ นกิจการวิเทศธนกิจ
2. รายรับที่เป็ นดอกเบี้ย ของกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ตามมาตรา 91/5(5) ตาม
คําสั่งกรมสรรพากรที่ ป.26/2534
3. รายรับที่ เป็นกําไรของกิจการธนาคาร
4. รายรับที่เป็นกําไรของกิจการซื้อและขายหลักทรัพย์
5. รายรับที่เป็นกําไรของกิจการขายอสังหาริมทรัพย์
หน้าที่ของผู้ประกอบกิจการในระบบภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. หน้าที่ในการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
วิธีการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.1) แบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01)
1.2) การกรอกแบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.3) เอกสารที่ต้องแนบพร้อมแบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.4) กําหนดเวลาในการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.5) สถานที่จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.6) ใบทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.7) การเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้ว
2. หน้าที่ในการออกใบรับ
ผู้ประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะซึ่งได้รับเงิน หรือรับชําระราคาจาก
การขายสินค้า หรือการให้บริการหรือจากการกระทํากิจการรวมเงินหรือราคาที่ได้รับชําระแต่ละครั้งเกิน
100 บาท ต้องออกใบรับให้แก่ ผู้จ่ายเงินหรือผู้ชําระราคาในทันทีทุกคราวที่รับเงินหรือรับชําระราคาไม่ว่า
จะมีการเรียกร้องให้ออกใบรับหรือไม่ก็ตาม
3. หน้าที่ในการจัดทํารายงาน
ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีหน้าที่จัดทํารายงานแสดงรายรับก่อนหัก
รายจ่ายที่ต้องเสียภาษีและรายรับที่ไม่ต้องรวมคํานวณเพื่อเสียภาษีรายงานดังกล่าวให้จัดทําตามแบบที่
อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดโดยให้จัดทําเป็นรายสถานประกอบการ ทั ้งนี ้การลงรายการในรายงานให้ลง
ภายใน 3 วันทําการนับแต่วันที่มีรายรับเว้นแต่อธิบดีกรมสรรพากรเห็นสมควร สําหรับการประกอบกิจการ
บางประเภทหรือในกรณีจําเป็นเฉพาะรายอธิบดีจะกําหนดเป็นอย่างอื่นตามที่เห็นสมควรก็ได
4. หน้าที่ในการเก็บรักษารายงานและเอกสารหลักฐาน
ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะต้องเก็บและรักษารายงานพร้ อมทั ้ง
เอกสารประกอบ การลงรายงานหรือเอกสารที่อธิบดีกําหนดไว้ ณ สถานประกอบการจัดทํารายงานนั ้น หรือสถานที่อื่นที่อธิบดีสรรพากร กําหนดเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีหรือวันทํารายงานแล้วแต่กรณี
5. หน้าที่ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ
5.1) ผ้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ
5.2) แบบแสดงรายการที่ใช้และกําหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการ
5.3) สถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ
ความผิดทางภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ความผิดทางแพ่ง ได้แก่
• เบี้ยปรับ ได้แก่
(1) กรณีมิได้ยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือเมื่อถูกสั่งเพิกถอนใบทะเบียน
แล้วยังประกอบกิจการโดยไม่มีใบทะเบียนจะต้องเสียเบี ้ยปรับอีก 2 เท่าของเงิน
ภาษีที่ต้องเสียในแต่ละเดือนภาษีตลอดระยะเวลาที่ไม่จดทะเบียนหรือเป็นเงิน
1,000 บาทต่อเดือนแล้วแต่อย่างใดจะมากกว่า
(2) กรณีมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะภายในกําหนดเวลาจะต้องเสีย
เบี ้ยปรับอีก 2 เท่าของเงินภาษีที่ต้องเสียในแต่ละเดือนภาษี
(3) กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีไว้ไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาดเป็นเหตุให้จํานวน
ภาษีที่ต้องเสียในแต่ละเดือนคลาดเคลื่อนไปจะต้องเสียเบี ้ยปรับอีก 1 เท่าของเงิน
ภาษีที่เสียคลาดเคลื่อน
• เงินเพิ่ม ได้แก่
กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีภาษีธุรกิจเฉพาะฉบับปกติล่าช้า และมีเงินภาษีต้อง
ชําระผู้ประกอบกิจการต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษี
ที่ต้องชําระตามแบบแสดงรายการ
ในกรณีอธิบดีกรมสรรพากรอนุมัติให้ขยายกําหนดเวลาชําระภาษี และได้มีการชําระ
ภาษีภายในกําหนดเวลาที่ขายให้นั ้น เงินเพิ่มให้ลดลงเหลือร้อยละ 0.75 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน
2. ความผิดทางอาญา ได้แก่
กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีภาษีธุรกิจเฉพาะฉบับปกติล่าช้า ไม่ว่าจะเงินภาษีต้องชําระ
หรือไม่ก็ตามผู้ประกอบกิจการต้องรับผิดระวางโทษปรับตามมาตรา 90(2) จํานวน 2,000 บาทหรือทั ้งจํา
ทั ้งปรับ