ความรู้พื้นฐานของการวิจัย📝🔎📚
(Foundation of Research)
🍄ความหมายของงานวิจัย
เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ที่มีระบบ มีขั้นตอนท่ีชัดเจนปราศจาก อคติส่วนตัว สามารถตรวจสอบได้ท่ีผู้วิจัยนำมาใช้ศึกษา ค้นคว้าข้อเท็จจริง เพื่อนำไปใช้อธิบาย ปรากฏการณ์ ทางสังคม หรือพัฒนาเป็นกฎ ทฤษฏี หรือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่าง ถูกต้อง แม่นยำ และเช่ือถือได้
🍊ประเภทของการวิจัย
จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย
การวิจัยการนำไปใช้(Applied Research)
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ใน การนำผลการวิจัยจากการวิจัยพื้นฐานมาใช้ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ในปัจจุบัน
การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์(Basic Research or Pure Research)
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหาความรู้ความจริงเชิงทฤษฎี/ปรากฏการณ์ ที่นำมาใช้ใน การสนับสนุน หรือขัดแย้งกับกฎเกณฑ์ หรือทฤษฎีท่ีมีอยู่
จำแนกตามลักษณะ(ความลึก/ความกว้าง)ของข้อมูล
การวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research)
เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล จากตัวแปรที่มีลักษณะเป็นข้อความท่ีบรรยายลักษณะ เหตุการณ์หรืออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นอย่างไรตามสภาพแวดล้อม
การวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research)
เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล จากตัวแปรท่ีมีลักษณะเป็นตัวเลขที่ระบุระดับความมาก/น้อยของปรากฏการณ์ตามเกณฑ์ที่กำหนดให้ ค่อนข้างชัดเจน
จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย(Methodology)
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์(Historical Research )
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ ใช้ ข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีหลักฐานปรากฏอยู่ อาทิ รูปภาพ สิ่งพิมพ์ บันทึกเหตุการณ์ หรือซากวัสดุ ต่าง ๆ เป็นต้น
การวิจัยเชิงบรรยาย(Descriptive Research)
การวิจัยเชิงสำรวจ(Survey Research)
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ บรรยายคุณลักษณะหรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร อาทิ การสำรวจโรงเรียน/ชุมชน/ ประชามติ เป็นต้น
การศึกษาความสัมพันธ์ (Interrelationship Studies)
เป็นการวิจัยที่มี วัตถุประสงค์เพื่อใช้บรรยายความสัมพันธ์ของคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ การศึกษา เฉพาะกรณี(Case Study) การศึกษาสหสัมพันธ์(Correlation) การศึกษาเปรียบเทียบสาเหตุ การศึกษา ติดตามผล หรือ การวิเคราะห์เอกสาร เป็นต้น
การศึกษาพัฒนาการ(Developmental Studies)
การศึกษาความเจริญงอกงาม(Growth Studies)
การศึกษาแนวโน้ม(Trend Studies)
จำแนกตามลักษณะของวิชา หรือศาสตร์
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์(Scientific Research)
การวิจัยใดๆจำเป็นต้องมีความเที่ยงตรง ใน 2 ลักษณะ
การวิจัยทางสังคมศาสตร์(Social Research)
จำแนกตามเวลาที่ใช้ในการทำวิจัย
การวิจัยแบบตัดขวาง/ระยะสั้น(Cross-section Research)
การวิจัยแบบต่อเนื่อง (Longitudinal Research)
จำแนกประเภทการวิจัยตามเป้าหมายหลักของการวิจัย
การวิจัยที่มุ่งบรรยายตัวแปร(Descriptive-Oriented Research)
การวิจัยที่มุ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร(Correlation-Oriented Research)
การวิจัยที่มุ่งแสวงหาความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปร(Causal-Oriented Research)
ประเภทของการวิจัยจำแนกตามการจัดกระทำ
การวิจัยแบบทดลองเบื้องต้น(Pre Experimental Research)
การวิจัยกึ่งทดลอง(Quasi Experimental Research)
การวิจัยแบบทดลองท่ีแท้จริง(True Experimental Research)
✨คุณลักษณะของการวิจัย
การวิจัย เป็นวิธีการ ๆ หนึ่งที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ความ จริง ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีระบบและขั้นตอนชัดเจน และมีการกำหนดจุดมุ่งหมายของการ วิจัย ในแต่ละครั้งอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร
💥ขั้นตอนการวิจัย
🔍แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย
กฎเหตุและผลของธรรมชาติ (Deterministic Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่า ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถแสวงหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นั้นได้เสมอ ๆ
กฎความเป็นระบบของธรรมชาติ (Systematic Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่า ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามกฎของเหตุและผลของธรรมชาติจะมีรูปแบบของความสัมพันธ์ของ ตัวแปรท่ีค่อนข้างจะชัดเจน เพื่อที่ผู้วิจัยจะได้นำรูปแบบ ดังกล่าวไปใช้อธิบายในปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น โดยท่ัว ๆ ไปได้
กฎความสัมพันธ์ของธรรมชาติ (Associative Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่า ใน การเกิดปรากฏการณ์ใด ๆ ที่แตกต่างกันนั้น จะมีความมากน้อยของตัวแปรที่เป็นสาเหตุและตัวแปร ผลที่แตกต่างกัน
กฎองค์ประกอบหลักของธรรมชาติ (Principle Component of Nature)
เป็นแนวคิดที่ ระบุว่าตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเดี่ยว แต่จะมีตัวแปร อื่นๆ ท่ีมักจะมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ๆ
กฎความน่าจะเป็นของธรรมชาติ (Probabilistic Law of Nature)
เป็นแนวคิดที่ระบุว่า ในปรากฏการณ์ ใด ๆ นั้น ความรู้ความจริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะเป็นผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ ที่ มีความน่าจะเป็นในการเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง
🌵ธรรมชาติของการวิจัย
การวิจัยเป็นกระบวนการเชิงประจักษ์
การวิจัยเป็นกระบวนการแสวงหาคำตอบที่ ต้องใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีความถูกต้อง เชื่อถือได้ และมีความชัดเจนที่สามารถตรวจสอบได้
การวิจัยเป็นการดำเนินการที่เป็นระบบ
การวิจัยเป็นการดำเนินการตามขั้นตอน วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific Method) ที่มีการวางแผนอย่างมีเหตุผลและลำดับขั้นตอนท่ี ชัดเจน ที่จะทำให้ได้ข้อค้นพบที่ถูกต้องและน่าเช่ือถือ
การวิจัยมีจุดมุ่งหมายท่ีชัดเจน
การวิจัยเป็นการดำเนินการที่มีจุดมุ่งหมายใน 4 ลักษณะ คือ บรรยาย อธิบาย พยากรณ์ และควบคุม ในปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
การวิจัยมีความเที่ยงตรง (Validity)
การวิจัยมีความเชื่อมั่น (Reliability)
การวิจัยมีเหตุผล
การวิจัยเป็นการดำเนินการที่จะต้องมีเหตุผลที่ชัดเจนในการดำเนินการทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้ผลการวิจัยที่ถูกต้อง มีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบ ได้อย่างชัดเจน
การวิจัยเป็นการแก้ปัญหา
การวิจัยเป็นการดำเนินการที่จะเริ่มต้นด้วยปัญหาที่ เกี่ยวพันกันระหว่างปัญหา(ตัวแปรตาม) กับวิธีการแก้ปัญหา(ตัวแปรต้น) แล้วจึงจะใช้วิธีการทาง วิทยาศาสตร์เป็นกระบวนการในการดำเนินการตรวจสอบการแก้ปัญหานั้น ๆ
การวิจัยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่
การวิจัยในแต่ละครั้งจะต้องมีการเก็บ รวบรวมข้อมูลใหม่เพื่อตอบคำถามตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยนั้น ๆ แต่ถ้าใช้ข้อมูลเดิมจะต้องมี การกำหนดวัตถุประสงค์ใหม่ที่นำข้อมูลที่มีอยู่แล้วมาสังเคราะห์เพื่อให้เกิดคำตอบของปัญหาที่ชัดเจน ตามที่กาหนด
การวิจัยมีวิธีการที่หลากหลาย
การวิจัยจะมีวิธีการในการดำเนินการวิจัยที่ให้ ผู้วิจัยได้เลือกใช้อย่างหลายหลายวิธีการตามความเหมาะสมของปัญหาการวิจัย วัตถุประสงค์ หรือ การดำเนินการวิจัย
การวิจัยต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย
การวิจัยที่มีประสิทธิภาพจะต้องดำเนินการ โดยที่ผู้วิจัยที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการวิจัยที่จะสามารถดำเนินการวิจัยตั้งแต่ การวิเคราะห์ปัญหา การวิจัยจนกระทั่งได้ผลการวิจัยถูกต้อง และน่าเชื่อถือ
🌷จุดมุ่งหมายของการวิจัย
เป้าหมายของการวิจัย
มุ่งหาคำตอบเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา โดยศึกษาความสัมพันธ์ ระหว่างตัวแปรที่มีความเป็นเหตุและเป็นผลซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน
การวิจัยเป็นการสรุปผล
หลักเกณฑ์ และทฤษฏีที่ใช้ในการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะ เกิดขึ้นในอนาคต หรือเป็นการศึกษาข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างเพื่อที่นำผลสรุปอ้างอิงไปสู่ประชากร
การวิจัยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล
หรือปรากฏการณ์ที่สังเกตได้มาใช้ในการสรุปผล โดย ที่ปัญหาในบางปัญหาไม่สามารถทำการวิจัยได้เนื่องจากไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลได้