ภาษีธุรกิจเฉพาะ (Specification Business Tax)
รายรับของผ้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. กิจการธนาคาร ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ หรือกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
(1) ดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม ค่าบริการ
(2) กําไรก่อนหักรายจ่ายใดๆ จากการแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายเงินตรา
2. กิจการประกันชีวิต ได้แก่ ดอกเบี ้ย ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ
3. กิจการโรงรับจํานํา
(1) ดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม
(2) เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือประโยชน์ใดๆ อันมีมูลค่าที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการขายของที่หลุดจํานําเป็นสิทธิ์
4. กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากําไร รายรับจากการประกอบกิจการคือ รายรับก่อนหักรายจ่ายใดๆ
(1) กรณีขายอสังหาริมทรัพย์โดยมีค่าตอบแทน ฐานภาษี
(2) กรณีจําหน่าย จ่าย โอนอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่มีประโยชน์หรือค่าตอบแทน
5. กิจการขายหลักทรัพย์ ตามกฎหมายว่าด้วยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย์
6. กิจการซื ้อและขายคืนหลักทรัพย์ที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
7. ธุรกิจแฟ็คเตอริง ได้แก่ ดอกเบี้ย ส่วนลด ค่าธรรมเนียม หรือค่าบริการ
รายรับที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. รายรับของธนาคารพาณิชย์ที่เป็นกิจการวิเทศธนกิจ
2. รายรับที่เป็นดอกเบี้ย ของกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
3. รายรับที่ เป็นกําไรของกิจการธนาคาร
4. รายรับที่เป็นกําไรของกิจการซื้อและขายหลักทรัพย์
5. รายรับที่เป็นกําไรของกิจการขายอสังหาริมทรัพย์
อัตราภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ร้อยละ 0.1
สําหรับรายรับจากการกิจการขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยตลาด
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย์
2. ร้อยละ 2.5
(1) กิจการประกันชีวิต
(2) กิจการโรงรับจํานํา
3. ร้อยละ 3
(1) กิจการธนาคารพาณิชย์
(2) กิจการธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
(3) กิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
(4) กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากําไร
(5) กิจการอื่นที่จะกําหนดโดยพระราชกฤษฎีกาให้อยู่ในบังคับเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ความผิดทางภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ความผิดทางแพ่ง
เบี้ยปรับ
(1) กรณีมิได้ยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ หรือเมื่อถูกสั่งเพิกถอนใบทะเบียน
(2) กรณีมิได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะภายในกําหนดเวลาจะต้องเสีย
เบี้ยปรับอีก 2 เท่าของเงินภาษ
(3) กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีไว้ไม่ถูกต้องหรือมีข้อผิดพลาดเป็นเหตุ
เงินเพิ่ม
กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีภาษีธุรกิจเฉพาะฉบับปกติล่าช้า และมีเงินภาษีต้องชําระผู้ประกอบกิจการต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ต้องชําระตามแบบแสดงรายการ
2. ความผิดทางอาญา
กรณียื่นแบบแสดงรายการภาษีภาษีธุรกิจเฉพาะฉบับปกติล่าช้า ไม่ว่าจะเงินภาษีต้องชําระ
หรือไม่ก็ตามผู้ประกอบกิจการต้องรับผิดระวางโทษปรับตามมาตรา 90(2) จํานวน 2,000 บาทหรือทั้งจําทั้งปรับ
ฐานภาษีธุรกิจเฉพาะ
“รายรับ” หมายความว่า เงิน ทรัพย์สิน ค่าตอบแทน หรือประโยชน์ใด ๆ อันมีมูลค่าที่ได้รับ หรือพึงได้รับ ไม่ว่าในหรือนอกราชอาณาจักร เนื่องมาจากการประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
“มูลค่า” หมายความว่า ราคาตลาดของทรัพย์สิน ของกิจการ ของค่าตอบแทน หรือของประโยชน์ใดๆ
“ขาย” หมายความว่า จําหน่าย จ่าย โอนอสังหาริมทรัพย์ โดยได้รับประโยชน์หรือค่าตอบแทนและให้หมายความรวมถึง สัญญาจะขาย ขายฝาก แลกเปลี่ยน ให้ ให้เช่าซื ้อ หรือจําหน่าย จ่าย โอน ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือค่าตอบแทนหรือไม่
“ราคาตลาด” หมายความว่า ราคาที่ซื ้อขายกันหรือที่คิดค่าบริการกันตามความเป็นจริงทั่วไปในขณะใดขณะหนึ่ง
ภาษีธุรกิจเฉพาะตามประมวลรัษฎากรเป็นภาษีอากรประเมินและเป็นภาษีทางอ้อมประเภทหนึ่ง จัดเก็บจากการบริโภค เริ่มใช้ บังคับใน พ.ศ. 2535 พร้ อมกันกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ในขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มจัดเก็บจากการขายสินค้าหรือการให้บริการโดยทั่วไป แต่ภาษีธุรกิจเฉพาะจะจัดเก็บจากการประกอบกิจการเฉพาะอย่าง แทนภาษีการค้าที่ถูกยกเลิก
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
ผู้ประกอบกิจการเฉพาะอย่างที่กําหนดไว้ซึ่งกิจการดังกล่าวไม่เหมาะสมที่จะให้เสียภาษีในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น ธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจโรงรับจํานํา ธุรกิจประกันชีวิต และธุรกิจขายอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น กิจการที่อยู่ในข่ายบังคับของภาษีธุรกิจเฉพาะแล้วจะไม่อยู่ในข่ายบังคับของกฎหมายภาษีมูลค่าเพิ่มอีก เพื่อให้การจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพ ลดความยุ่งยากซับซ้อนในการจัดเก็บและป้องกันการซํ้าซ้อนในการเสียภาษี
1. เป็นบุคคล คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล หรือนิติบุคคล
บุคคลธรรมดา
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
กองมรดก
ห้างหุ้นส่วนสามัญ
หน่วยงานหรือกิจการของเอกชนที่กระทําโดยบุคคลธรรมดาตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปอันมิใช่นิติบุคคล
องค์การของรัฐบาล สหกรณ์ และองค์กรอื่นที่กฎหมายกําหนดให้เป็นนิติบุคคล
2. ประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
1) การธนาคาร
2) การประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์
3) การรับประกันชีวิตตามกฎหมายว่าด้วยการประกันชีวิต
4) การรับจํานําตามกฎหมายว่าโรงรับจํานํา
5) การประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
6) การขายอสังหาริมทรัพย์เป็ นทางค้าหรือหากําไร
7) การขายหลักทรัพย
8) การประกอบกิจการอื่น
(1) กิจการซื้อและขายคืนหลักทรัพย
(2) การประกอบธุรกิจแฟ็คเตอริง เป็นกิจการที่อย่ใูนบังคับต้องเสียภาษี
ธุรกิจเฉพาะ
3. ประกอบกิจการในราชอาณาจักร
กิจการที่ได้รับยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. กิจการของธนาคารแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
2. กิจการของบรรษัทเงินทุนหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (IFCT)
3. กิจการของสหกรณ์ออมทรัพย์ เฉพาะการให้กู้ยืมแก่สมาชิก หรือสหกรณ์ออมทรัพย์อื่น
4. กิจการของกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสํารองเลี้ยงชีพ
5. กิจการของการเคหะแห่งชาติเฉพาะการขาย หรือการให้เช่าซื้ออสังหาริมทรัพย
6. กิจการรับจํานําของกระทรวง ทบวง กรม และราชการส่วนท้องถิ่น
7. กิจการอื่น ตามที่กําหนดยกเว้นโดยพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 240) พ.ศ. 2534
(1) กิจการขายหลักทรัพย์ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในตลาดหลักทรัพย์
(2) กิจการของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม
(3) กิจการของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
(4) กิจการของธนาคารเพื่อการส่งออกและนําเข้าแห่งประเทศไทย
(5) กิจการของกองทุนสิ่งแวดล้อมตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ
(6) กิจการขององค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน
(7) กิจการของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน
(8) กิจการของนิติบุคคล เฉพาะกิจในส่วนที่เกี่ยวกับการแปลงสินทรัพย์
(9) กิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
(10) กิจการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน
(11) กิจการของบรรษัทตลาดรองสินเชื่อที่อยู่อาศัย
(12) กิจการของการเคหะ เฉพาะการให้กู้ยืมเงินตามโครงการพัฒนาคนจนในเมือง
(13) กิจการของสหกรณ์ ประเภทสหกรณ์บริการ ซึ่งดําเนินการจัดหาที่อยู่ให้แก่สมาชิกเฉพาะการขายอสังหาริมทรัพย
(14) กิจการของสถาบันการเงินตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทบริหารสินทรัพย์
(15) กิจการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางการค้าหรือกําไรเฉพาะที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
(16) กิจการของรัฐวิสาหกิจในส่วนของรายรับที่ได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์
(17) กิจการของสถาบันพัฒนาองค์การชุมชน(องค์การมหาชน) เฉพาะการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
(18) กิจการของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
(19) กิจการของกองทุนหมุนเวียนเพื่อการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนเอกชนของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน
(20) กิจการของกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบําเหน็จบํานาญข้าราชการ
(21) กิจการของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง ที่จัดตั ้งขึ ้นตามกฎหมายว่า
ด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
(22) กิจการของสํานักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม เฉพาะการประกอบกิจการโดยปกติเยี่ยงธนาคารพาณิชย์
(23) กิจการของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เฉพาะการโอนกรรมสิทธิ์
ในอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้รับโอน
(24) กิจการของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ตามกฎหมาย
(25) กิจการขายข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยการซื้อขายสินค้าเกษตร
(26) กิจการขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าตามกฎหมายว่าด้วยสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในศูนย์ซื่อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
(27) กิจการของสํานักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน
(28) กิจการของสถาบันคุ้มครองเงินฝากตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันคุ้มครองเงินฝาก
หน้าที่ของผ้ประกอบกิจการในระบบภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. หน้าที่ในการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
ผู้ประกอบกิจการซึ่งประกอบกิจการที่อยู่ในข่ายที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีหน้าที่ต้องยื่นคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะแบบ ภ.ธ.01 ภายใน 30 วัน นับแต่วันเริ่มประกอบกิจการ
วิธีการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.1) แบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ (ภ.ธ.01)
1.2) การกรอกแบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.3) เอกสารที่ต้องแนบพร้อมแบบคําขอจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.4) กําหนดเวลาในการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.5) สถานที่จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.6) ใบทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1.7) การเปลี่ยนแปลงรายการที่ได้จดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะไว้แล้ว
2. หน้าที่ในการออกใบรับ
ผู้ประกอบกิจการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะซึ่งได้รับเงิน หรือรับชําระราคาจากการขายสินค้า
3. หน้าที่ในการจัดทํารายงาน
ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ มีหน้าที่จัดทํารายงานแสดงรายรับก่อนหักรายจ่ายที่ต้องเสียภาษีและรายรับที่ไม่ต้องรวมคํานวณเพื่อเสียภาษี
4. หน้าที่ในการเก็บรักษารายงานและเอกสารหลักฐาน
ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะต้องเก็บและรักษารายงาน พร้อมทั้งเอกสารประกอบ
5. หน้าที่ในการยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ
5.1) ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ
(1) บุคคลซึ่งประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
(2) ผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในการประกอบกิจการในราชอาณาจักรของผู้ประกอบกิจการ
(3) ลูกจ้าง ตัวแทน หรือผู้ทําการแทนซึ่งมีอํานาจในการจัดการแทนโดยตรง
5.2) แบบแสดงรายการที่ใช้และกําหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการ
5.3) สถานที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีธุรกิจเฉพาะ
การขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
1. ผู้มีสิทธิขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
(1) ผู้ประกอบกิจการที่มีหน้าที่เสียภาษี ซึ่งได้ชําระภาษีไว้เกิน หรือผิด หรือซํ้า
(2) ผู้ไม่มีหน้าที่เสียภาษีแต่ได้ชําระภาษีไว้
2. แบบคําร้องขอคืนเงินภาษีอากร
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะมีสิทธิขอคืนเงินภาษีได้โดยใช้คําร้ องขอคืนเงินภาษีอากรคือแบบ ค.10
3. เอกสารที่ต้องแนบพร้อมคําร้องขอคืนภาษีธุรกิจเฉพาะ
การยื่นคําร้ องขอคืนเงินภาษีเงินธุรกิจเฉพาะ แบบ ค.10 จะต้องแนบเอกสารที่เกี่ยวข้องไปพร้อมกับคําร้องด้วย
(1) หนังสือรับรองการจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล กรณีผู้ขอคืนเป็นนิติบุคคล
(2) ใบเสร็จรับเงินภาษีธุรกิจเฉพาะ
(3) หลักฐานอื่นที่เกี่ยวจ้องกับประเด็นที่ขอคืน
4. กําหนดเวลายื่นคําร้อง
ให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ยื่นคําร้องขอคืนเงินภาษีภายใน 3 ปี นับแต่วันพ้นกําหนดเวลายื่นแบบแสดงรายการภาษี