ลักษณะเด่นของภาษาไทย
การเรียงคำในประโยค
ภาษาไทยเรียงเป็นประโยคแบบ ประธาน + กริยา + กรรม
มีลักษณะนาม
ก. คำลักษณะนามจะอยู่ข้างหลังคำวิเศษณ์บอกจำนวนนับ เช่น ฉันรักแมวทั้ง 10 ตัว เข้าได้รับบ้าน 1 หลัง ที่ดิน 2 แปลงเป็นมรดก *ถ้าใช้คำว่า "เดียว" เป็นจำนวนนับ คำลักษณะนามจะอยู่หน้าคำว่าเดียว เช่น ขวดเดียวก็เกินพอ
ข. คำลักษณะนามตามหลังคำนามเพื่อลักษณะของนามนั้น เช่น ปลาตัวใหญ่นี้แพงมาก, ที่ดินแปลงนี้สวยจริง ๆ ,เทียนเล่มแดงหายไปไหน
ภาษาไทยมีการแบ่งวรรคตอนเป็นจังหวะ
ส่วนการพูดภาษาไทยก็จำเป็นต้องเว้นจังหวะให้ถูกต้อง เพื่อความชัดเจนของข้อความ
ภาษาไทยมีคำเลือกใช้ตามกาลเทศะ
การเลือกใช้คำให้ถูกต้องเหมาะสมกับบุคคล
ใช้ตามฐานะของบุคคลเพื่อแสดงถึงความยกย่องกันและกัน
มี "คำราชาศัพท์" ใช้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของภาษาไทย
แสดงถึงลักษณะของวัฒนธรรมทางภาษา สังคมไทยเป็นสังคมที่นับถืออาวุโส
เป็นคำโดด
มีคำใช้โดยอิสระ ไม่ต้องเปลี่ยนรูป
คำไทยแท้ มีพยางค์เดียว
เป็นคำที่มีความหมายสมบูรณ์ในตัว เข้าใจได้ทันที
ย่า
มีด
ตู้
โต๊ะ
แขน
สะกดตามมาตราตัวสะกดทั้ง 8 มาตรา
ไม่มีคำใช้ทัณฑฆาต หรือตัวการันต์
มาตราแม่ กก
มาตราแม่ กด
มาตราแม่ กบ
มาตราแม่ กง
มาตราแม่ กน
มาตราแม่ กม
มาตราแม่เกย
มาตราแม่ เกอว
เสียงวรรณยุกต์
ทำให้ระดับเสียงต่างกัน มีคำใช้กันมากขึ้น เกิดความไพเราะดังเสียง ดนตรีและสามารถเลียนเสียงธรรมชาติได้อย่างไกล้เคียง
เสียงสามัญ
อยู่ในระดับเสียงกึ่งสูง-กลาง
เสียงเอก
อยู่ในระดับเสียงกึ่งต่ำ-ต่ำ
เสียงโท
อยู่ในระดับเสียงสูง-ต่ำ
เสียงตรี
อยู่ในระดับเสียงกึ่งสูง-สูง
เสียงจัตวา
อยู่ในระดับเสียงกึ่งต่ำ-ต่ำ-กึ่งสูง
การสร้างคำ
มีการยืมคำภาษาต่างประเทศมาใช้และมีการสร้างคำใหม่ ซ้ำคำ,ซ้อนคำ,การสมาส-สนธิ
การประสมคำ
ซ้ำคำ
ซ้อนคำ
การสมาส-สนธิ