แสง

แสงเคลื่อนที่จากแหล่งกำเนิดทุกทิศทางในทางตรง

1.วัตถุที่มีแสงในตัวเอง

Ex.การส่องเปลวเทียนผ่านท่อกระดาษ
ได้ผลสรุปว่า แหล่งกำเนิดแสงคือเปลวเทียน การมองเห็นคือการที่แสงเดินทางเป็้นเส้นตรงมาเข้าตาเรา

2.วัตถุที่ไม่มีแสงในตัวเอง

-เวลากลางคือนใช้ไฟฉายส่อง
เมื่อแสงจากไฟฉายส่องกระทบกับทางมาเข้าตาจะทำให้เรามองเห็น
-ดวงจันนทร์และดวงดาวที่ไม่มีแสงในตนเองแต่สามารถมองเห็นในตอนกลางคืน
แสงจากดวงอาทิตย์จะกระทบกับดวงจันทร์และดาวเคราะห์ทำให้เรามองเห็นได้

แสงจากแหล่งกำเนิดกระทบวัตถุเข้าจะสามารถมองเห็นแหล่งกำเนิดแสงได้

โปร่งใส

ตัวกลางของแสงทำได้จากการมองผ่านวัตถุไปยังแหล่งกำเนิดแสงถ้ามองเห็นแหล่งกำเนิดแสงชัดเจน เรียกวัตถุนั้นว่าตัวกลางโปร่งใส เช่น แผ่นพลาสติกใส แผ่นพลาสติกใสสี แก้วน้ำ กระจกใส

โปร่งแสง

ตัวกลางของแสงที่มองเห็นแหล่งกำเนิดแสงไม่ชัดเจน เช่นแผ่นพลาสติกขุ่น กระดาษไข กระจกฝ้า บางเกล็ดหน้าต่างที่ไม่ต้งการให้แสงเข้ามาก ฯลฯ

ทึบแสง

ตัวกลางที่มองวัตถุที่กั้นแสงแล้วไม่เห็นแหล่งกำเนิดแสง แสดงว่าแสงไม่ผ่านวัตถุ เรียกวัตถุนั้นว่า วัตถุทึบแสง เช่น แผ่นกระดาษ แผ่นไม้ กระเบื้องใช้มุงหลังคา ไม้ทำฝาบ้าน

วัตถุมากั้นทางเดินแสง

เงามืด

เงาในบริเวณที่ไม่มีแสงผ่านไปถึง ทำให้บริเวณนั้นมืดสนิท

เงามัว

เงาบริเวณที่มีแสงบางส่วนผ่านไปถึง และทำให้บริเวณนั้นมืดไม่สนิท

การหักเหของแสง

แสงเดินทางผ่านตัวกลางโปร่งใสที่ต่างกัน 2 ชนิด เมื่อเครื่อนที่ผ่านตัวกลางที่ 1 ไปตัวกลางที่ 2 ขนาดจะเปลี่ยนแปลงไปจากแนวเดิมเรียกว่า การหักเหของแสง

แสงจากวัตถุตกกระทบกับกระจกเงาสะท้อนเข้าตา จะทำให้เห็นภาพของวัตถุในกระจกเงา

การเกิดภาพจากกระจกเงาราบ

เมื่อวัตถุอยู่หน้ากระจก จะเกิดภาพเสมือน
อยู่ด้านหลังกระจก ภาพหัวตั้งเหมือนกับวัตถุ

ภาพที่เกิดจะกลับขวาเป็นซ้าย กลับซ้ายเป็นขวา เมื่อเทียบกับวัตถุ

ภาพจากการสะท้อนของกระจกเว้า

เกิดภาพได้ทั้งภาพจริงและภาพเสมือน

ภาพจริงมีทั้งขนาดเล็กกว่าวัตถุ ขนาดเท่าวัตถุ และขนาดใหญ่กว่าวัตถุ
ภาพจริงอยู่หน้ากระจก แต่เกิดภาพเสมือนขนาดใหญ่กว่าวัตถุ อยู่หลังกระจกเท่านั้น

การเกิดภาพจากการสะท้อนของกระจกนูน

เกิดภาพเสมือน ขนาดเล็กกว่าวัตถุ อยู่หลังกระจกเท่านั้น กระจกนูนสะท้อนกับวัตถุได้ในมุมกว้าง

แสงขาวแยกออกเป็นแถบสีต่างๆเรียงกัน เรียกว่า สเปกตรัมของแสง

ถ้าให้แสงอาทิตย์ซึ่งเป็นแสงขาวส่องผ่านปริซึม แสงขาวจากดวงอาทิตย์จะแยกออกเป็นแสงสีรุ้งต่อเนื่องกัน เรียกว่า “สเปกตรัมของแสงขาว”

สเปกตรัมของแสงขาวเกิดจากการที่เมื่อแสงซึ่งมีความยาวคลื่นต่าง ๆ กันผ่านไปยังปริซึม แสงจะหักเหได้ไม่เท่ากัน เกิดเป็นแถบสีรุ้งต่อเนื่องกัน โดยมีความยาวคลื่นในช่วงต่าง ๆ ดังนี้ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด และแดง

แสงขาวจากดวงอาทิตย์ที่ส่องผ่านละอองน้ำในอากาศปริมามณมากจะเกิดการกระจายแสงเป็นแถบสีต่างๆ เกิิดเป็นรุ้ง

รุ้งปฐมภูมิ

เกิดจากแสงแดดตกกระทบเข้าทางด้านบนของหยดน้ำ

รุ้งทุติยภูมิ

เกิดจากแสงแดดตกกระทบเข้าทางด้านล่างของหยดน้ำ

การสะท้อนของแสง

- มุมตกกระทบมีค่าเท่ากับมุมสะท้อน
- รังสีตกกระทบ รังสีสะท้อนและเส้นปกติ จะอยู่ในระนาบเดียวกัน