ความรู้พื้นฐานของการวิจัย
ความหมายของการวิจัย
เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ที่มีระบบ
มีขั้นตอนที่ชัดเจนปราศจากอคติส่วนตัว
สามารถตรวจสอบได้ที่ผู้วิจัยนำมาใช้ศึกษา ค้นคว้าข้อเท็จจริง
เพื่อนำไปใช้อธิบายปรากฏการณ์ ทางสังคมหรือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและเชื่อถือได้
ขั้นตอนในการวิจัย
เลือกหัวข้อปัญหา
กำหนดขอบเขตของปัญหา
วางแผนรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม
รู้ถึงเทคนิคต่างๆ ที่เหมาะสมในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
มองเห็นภาพอย่างแจ่มชัดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ตำรา หนังสือ วารสาร รายงานการวิจัยและเอกสาร อื่น ๆ
กำหนดสมมุติฐาน
เขียนเค้าโครงการวิจัย
ชื่องานวิจัย, ภูมิหลังหรือที่มาของปัญหา,วัตถุประสงค์,รูปแบบของงานวิจัย เป็นต้น
สร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล
ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล
ใช้แบบทดสอบ
ใช้แบบวัดเจตคติ
ส่งแบบสอบถาม เป็นต้น
ธรรมชาติของการวิจัย
เป็นกระบวนการเชิงประจักษ์
เป็นการดำเนินการที่เป็นระบบ
มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
มีความเที่ยงตรง
มีความเชื่อมั่น
มีเหตุผล
เป็นการแก้ปัญหา
มีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม
มีวิธีการที่หลากหลาย
ต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย
แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย
กฎเหตุและผลของธรรมชาติ
ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถแสวงหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นั้นได้เสมอ ๆ
กฎความเป็นระบบของธรรมชาติ
ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามกฎของเหตุและผลของธรรมชาติจะมีรูปแบบของความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ค่อนข้างจะชัดเจน
กฎความสัมพันธ์ของธรรมชาติ
ในการเกิดปรากฏการณ์ใด ๆ ที่แตกต่างกันนั้น จะมีความมากน้อยของตัวแปรที่เป็นสาเหตุและตัวแปรผลที่แตกต่างกัน
กฎองค์ประกอบหลักของธรรมชาติ
ตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเดี่ยว แต่จะมีตัวแปรอื่นๆ ที่มักจะมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ๆ
กฎความน่าจะเป็นของธรรมชาติ
ความรู้ความจริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะเป็นผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ ที่มีความน่าจะเป็นในการเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง
ประเภทของสมมติฐาน
สมมติฐานทางวิจัย
สมมติฐานแบบมีทิศทาง
สมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง
ตัวแปรและสมมติฐาน
ความหมายของตัวแปร
คุณสมบัติหรือคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ เช่น คน วัตถุสิ่งของสัตว์ พืช ครอบครัว ขนาดธุรกิจ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นต้น
ลักษณะและชนิดของตัวแปร
ลักษณะของตัวแปร
ตัวแปรรูปธรรม
เช่น เพศ อายุ ความสูง เชื้อชาติ อาชีพ ระดับการศึกษา
ตัวแปรนามธรรม
เช่น ความวิตกกังวล ความเกรงใจ ทัศนคติ
ชนิดของตัวแปร
ตัวแปรอิสระ
เป็นตัวเหตุทำให้เกิดผลตามมา
ตัวแปรตาม
เป็นตัวแปรที่เป็นผลเมื่อตัวแปรอิสระเป็นเหตุ
แปรแทรกซ้อนหรืออาจเรียกว่าตัวแปรเกิน
มีลักษณะเหมือนตัวแปรอิสระ
ตัวแปรสอดแทรก
มีลักษณะต่างกันตรงที่ว่าตัวแปรชนิดนี้ ผู้วิจัยไม่สามารถคาดการณ์
ได้ว่า มีอะไรบ้างและจะเกิดขึ้นเมื่อใด จึงไม่สามารถหาทางควบคุมได้
การนิยามตัวแปรและการหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
หาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
เลือกกลุ่มตัวอย่างที่คาดว่ามีคุณลักษณะสอดคล้องกับลักษณะของตัวแปร
หาคุณลักษณะที่สำคัญจากการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก กลุ่มตัวอย่าง
นำคุณลักษณะที่ราบรวมได้มาวิเคราะห์เนื้อหาเพื่อหาองค์ประกอบสำคัญของตัวแปรนั้น
การนิยามตัวแปร
นิยามในลักษณะของการบอกองค์ประกอบ
นิยามในลักษณะปฏิบัติการ
สถานการณ์ หรือสิ่งเร้าที่เหมาะสม
เกณฑ์ที่เป็นเครื่องชี้บ่งว่าพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้น มีความหมาย เช่นใด
ลักษณะของสมมติฐานที่ดี
สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการวิจัย
อธิบายหรือตอบคำถามได้ ครอบคลุมปัญหาทุกด้าน
ตอบคำถามเพียงข้อเดียวหรือประเด็นเดียว
สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง
สมเหตุสมผลตามทฤษฎีและความรู้ที่ได้จากการศึกษา
เขียนด้วยถ้อยคำที่อ่านเข้าใจง่ายและมีความชัดเจน
สามารถตรวจสอบได้ มีข้อมูลหรือหลักฐานที่จะนำมาสนับสนุน
มีขอบเขตพอเหมาะไม่แคบหรือกว้างไป
มีอำนาจในการพยากรณ์
การจัดกระทำข้อมูล
Input เป็นการจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์
Processing เป็นขั้นตอนของการจัดแบ่งประเภทของข้อมูล
Output เป็นขั้นตอนที่นำผลจากการขั้นตอนที่ได้จากขั้น Processing มาเขียนเป็นรายงาน
สรุปผลการวิจัยและเขียนรายงาน
ประเภทของการวิจัย
จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย
วิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์
แสวงหาความรู้ความจริงเชิงทฤษฎี/ปรากฏการณ์ ที่นำมาใช้ใน การ
สนับสนุน หรือขัดแย้งกับกฎเกณฑ์ หรือทฤษฎีที่มีอยู่
วิจัยการนำไปใช้
นำผลการวิจัยจากการวิจัยพื้นฐานมาใช้ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ในปัจจุบัน ตัดสินใจ หรือแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
จำแนกตามลักษณะ(ความลึก/ความกว้าง)ของข้อมูล
วิจัยเชิงปริมาณ
วิจัยเชิงคุณภาพ
จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย
วิจัยเชิงประวัติศาสตร์
อาทิ รูปภาพ สิ่งพิมพ์ บันทึกเหตุการณ์ หรือซากวัสดุ
ต่าง ๆ
วิจัยเชิงบรรยาย
บรรยายคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นตามสภาพการณ์ธรรมชาติของปรากฏการณ์นั้น ๆในปัจจุบัน
จำแนกตามลักษณะของวิชา หรือศาสตร์
วิจัยทางวิทยาศาสตร์
ปรากฏการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เกี่ยวกับสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต
วิจัยทางสังคมศาสตร์
พฤติกรรมของมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม การเมือง
จำแนกตามเวลาที่ใช้ในการทำวิจัย
วิจัยแบบตัดขวาง/ระยะสั้น
วิจัยแบบต่อเนื่อง
จำแนกประเภทการวิจัยตามเป้าหมายหลักของการวิจัย
วิจัยที่มุ่งบรรยายตัวแปร
วิจัยที่มุ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร
วิจัยที่มุ่งแสวงหาความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปร
ประเภทของการวิจัยจำแนกตามการจัดกระทำ
วิจัยแบบทดลองเบื้องต้น
การวิจัยสหสัมพันธ์ การวิจัยเชิงสำรวจ
วิจัยกึ่งทดลอง
เช่น การสุ่มตัวอย่าง
วิจัยแบบทดลองที่แท้จริง
มีการควบคุมตัวแปรอย่างเคร่งครัด และใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างที่ปราศจากความลำเอียงหรือใช้แบบแผนการสุ่มที่สมบูรณ์
จรรยาบรรณของนักวิจัย
ซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในทางวิชาการ
ตระหนักถึงพันธกรณีในการทำงานวิจัย ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับหน่วยงานที่สนับสนุนการวิจัย
มีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัย นักวิจัยต้องมีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการ ที่ทำวิจัยอย่างเพียงพอ
มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ศึกษาวิจัย ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่มีชีวิตหรือไม่มีชีวิต นักวิจัยต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และเที่ยงตรงในการทำวิจัย
ต้องเคารพศักดิ์ศรีและสิทธิของมนุษย์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัย
ต้องมีอิสระทางความคิด โดยปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทำวิจัย
พึงนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบ เพื่อ
ประโยชน์ทางวิชาการและสังคม
พึงเคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น นักวิจัยพึงมีใจกว้าง พร้อมที่จะเปิดเผยข้อมูลและขั้นตอนการวิจัย ยอมรับฟังความ คิดเห็นและ เหตุผลทางวิชาการของผู้อื่น
มีความรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ นักวิจัยพึงมีจิตสำนึกที่จะอุทิศ
กำลังสติปัญญาในการทำวิจัยเพื่อความกาวหน้าทางวิชาการ เพื่อความเจริญและประโยชน์สุขของสังคมและมวลมนุษยชาติ
คุณลักษณะของการวิจัย
เป็นการแก้ปัญหาที่ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้าย
เป็นการพัฒนาข้อสรุป หลักเกณฑ์และทฤษฎีที่สามารถนำไปใช้อ้างอิง
มีแนวคิดพื้นฐานของการได้รับข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ที่ได้จากการสังเกต
จะต้องมีกระบวนการสังเกตที่ถูกต้อง ชัดเจน และบรรยายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน
เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่จากแหล่งปฐมภูมิ
จะต้องมีระบบ มีวิธีการ แบบแผนการวิจัย และการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ชัดเจน
ใช้ความรู้ความชำนาญของผู้วิจัยที่จะต้องรับรู้ปัญหาที่ตนเองจะทำวิจัย
กำหนดวัตถุประสงค์ โดยใช้เหตุผลตามหลักความเป็นจริงที่จะสามารถทดสอบได้และวิธีการที่เหมาะสม
ดำเนินการแสวงหาคำตอบที่นำมาใช้ตอบคำถามของปัญหาที่ ยัง
ไม่สามารถแก้ไขได้
เป็นกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการด้วยความอดทน ไม่เร่งรีบ และ
ยอมรับวิธีการได้มาของคำตอบ
มีการจดบันทึกข้อมูล และจัดทำรายงานการวิจัยด้วยความระมัดระวัง และมีการอ้างอิงข้อมูลอย่างถูกต้อง
แหล่งที่มาของสมมติฐาน
ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
สนทนากับผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ
ประสบการณ์เบื้องต้นของผู้วิจัย ที่ได้ทำงานคลุกคลีกับเรื่องนั้นมาก่อน
ได้ร่วมอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาที่จะศึกษากับบุคคลอื่น ๆ
สังเกตพฤติกรรม สังเกตความสัมพันธ์ของตัวแปรต่าง ๆ ของพฤติกรรมนั้น
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
เป้าหมายของการวิจัย
มุ่งหาคำตอบเพื่อนำมาใช้แก้ปัญหา
การวิจัยเป็นการสรุปผล หลักเกณฑ์ และทฤษฏีที่ใช้ในการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
การวิจัยเป็นการเก็บรวบรวมข้อมูล
สมมติฐาน
คำตอบที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอย่างสมเหตุสมผลต่อปัญหาที่ศึกษา หรือการเดาที่ใช้หลักเหตุผลใช้ปัญญา และเขียนอยู่ในลักษณะของข้อความที่กล่าวถึงความสัมพันธ์ของตัวแปรตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไป