อารยธรรมญี่ปุ่น

ยุคแรก (ยุคโบราณ)

ยุคหิน(Paleolithic Age)

พบว่ามีผู้อาศัยอยู่บนหมู่เกาะญี่ปุ่นกว่า 100,000 ปีมาแล้ว

ญี่ปุ่นยังเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่

หาเลี้ยงชีพด้วยการล่าสัตว์ และเก็บของป่ามาเป็นอาหาร

ยุคนี้ยังคงดำรงเรื่อยมากระทั่งสิ้นสุดยุคน้ำแข็งสุดท้าย

ยุคโจมง (Jomon period)

เกิดในช่วงประมาณ 10,000 - 300 ปีก่อนคริสตกาล

เกิดหมู่เกาะญี่ปุ่น

มีการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากหินด้วยความประณีต

ล่าสัตว์โดยใช้คันธนูและลูกธนู

มีการผลิตภาชนะเครื่องปั้นดินเผาโจมงจะมีเอกลักษณ์ตรงที่มีลวดลายเป็นเชือกที่สวยงาม

ก่อนคริสต์ศักราชเรียกว่า สมัยโจมง ตามรูปแบบเครื่องปั้นดินเผาที่มีลวดลายดังกล่าว

ยุคยะโยอิ (Yayoi period)

คำว่ายะโยอินั้นได้มาจากแขวงหนึ่งในเขตบุงเกียว กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่ค้นพบร่องรอยเกี่ยวกับยุคนี้

ช่วงเวลาประมาณ 300 ก่อน ค.ศ. – ค.ศ. 250

การอพยพเข้ามาของคนจากผืนแผ่นดินใหญ่ ทำให้ชาวญี่ปุ่นเริ่มเรียนรู้การเพาะปลูกข้าว
เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยทองสัมฤทธิ์และเหล็ก

ชาวจีนเรียกแผ่นดินญี่ปุ่นว่า แผ่นดินของวา (วา แปลว่า แคระ) ในบันทึกของราชสำนักจีนสมัยราชวงศ์ฮั่น

เจ้าเมืองแผ่นดินวา ได้รับตราประจำตำแหน่งทำด้วยทอง เขียนไว้ว่า “เจ้าเมืองแผ่นดินวาของฮั่น”
หลังจากส่งเครื่องบรรณาการให้แก่ฮ่องเต้เมืองฮั่น

ศาสนาสมัยแรกของชาวญี่ปุ่นคือ ชินโต หรือ “ทางของเทพเจ้า” เป็นศาสนาที่สักการบูชาเทพเจ้า

พระนางฮิมิโกะ ผู้ครองอาณาจักรยามาไท ส่งเครื่องบรรณาการไปยังเมืองเว่ย ของจีน

ยุคที่สอง (ยุคกลาง)

การปกครองแบบโชกุนเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้นนและลดทอนอำนาจของจักรพรรดิลง เป็นยุคเริ่มสมัยระบบศักดินาของญี่ปุ่น

ยุคคลาสสิก

ยุคโคะฟุง

ตั้งชื่อตามสุสานที่นิยมสร้างขึ้นกันในยุคนี้

มีศูนย์กลางอยู่ที่ที่ราบยะมะโตะ (ใกล้จังหวัดนะระในปัจจุบัน)

วัฒนธรรมจีนรวมทั้งลัทธิขงจื๊อและศาสนาพุทธได้เผยแพร่เข้ามาในประเทศญี่ปุ่นผ่านทางเกาหลี

ญี่ปุ่นได้รับเอาตัวอักษรแบบจีนซึ่งมีรากฐานมาจากอักษรภาพมาใช้ เป็นตัวกลางในการสื่อสาร

ความรู้เบื้องต้นทางการแพทย์ การใช้ปฏิทินและดาราศาสตร์

มีการติดต่อระหว่างญี่ปุ่นกับอาณาจักรบนคาบสมุทรเกาหลี

ยุคอาสึกะ

ค.ศ. 538-710

ศูนย์กลาง ตั้งอยู่ในอะซึกะ จังหวัดนะระ

ถือระบบการปกครองของจีนเป็นแนวทางในการสร้างระบบการปกครองของตน

ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 6 ส่งทูตไปจีนในช่วงราชวงศ์สุ่ย ญี่ปุ่นจึงได้รับถ่ายทอดนวัตกรรมจากแผ่นดินใหญ่มามาก

ยุคนะระ

ค.ศ. 710-794

ตั้งเมืองหลวงถาวรแห่งแรกของญี่ปุ่น เฮโจเกียว (ซึ่งเป็นเมืองที่สร้างเลียนแบบมาจากเมืองฉางอาน
เมืองหลวงของประเทศจีน)

เกิดบันทึกประวัติศาสตร์เล่มแรกชื่อ“โคะจิคิ”

เกิดบันทึกประวัติศาสตร์เล่มต่อมาชื่อ“นิฮอนโชะคิ”

สร้างพระพุทธรูปไดบุซซึทึี่วัดโทไดจิ

ยุคเฮอัน

ค.ศ. 794-1185

การล่มสลายของยุคนะระ อำนาจในการบริหารประเทศ มาสู่ขุนนางในราชสำนัก โชกุน ทหาร
และนายกรัฐมนตรีในปัจจุบันในที่สุด

ย้ายเมืองหลวงไปเฮอันเกียว (เกียวโต ในปัจจุบัน)

สิ่งญี่ปุ่นรับมาจากภายนอกค่อยๆ กลายเป็นรูปแบบของญี่ปุ่นไปโดยปริยาย
อารยธรรมญี่ปุ่นเริ่มที่จะมีลักษณะและรูปแบบเป็นของตนเอง เป็นยุคคลาสสิคของประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นโดยแท้

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 11 อำนาจการปกครองตกไปอยู่ในมือของตระกูลฟุจิวะระ
เกิดการต่อสู้ของตระกูลนักรบต่างๆเพื่อแย่งชิงอานาจ

ยุคศักดินาญี่ปุ่น

ยุคคามาคุระ

ค.ศ. 1185-1333

อำนาจการปกครองตกอยู่ในตระกูลมินะโมะโตะ(Minamoto)
เป็นจุดเริ่มต้นของการปกครองโดยระบอบศักดินา ภายใต้การปกครองของโชกุน

แนวคิดเรื่องความกล้าหาญและการรักในเกียรติยศ (bushido) ซึ่งเป็นวิถีชีวิตของซามูไร
เป็นยุคที่ซามูไรเฟื่องฟู

ค.ศ. 1213 อำานาจการปกครองก็ตกไปอยู่ในมือของตระกูลโฮโจแทน

กองทัพมองโกลได้บุกตอนเหนือของเกาะคิวชูถึง 2 ครั้ง เจอพายุใหญ่ซัดกองเรือจมทะเล
พายุดังกล่าวได้รับการขนานนามจากผู้คนว่า “Kamikaze” ความหมายคือ “ลมแห่งพระเจ้า”

ยุคมุโรมาจิ (นัมโบคุและเซ็นโกคุ)

ค.ศ. 1333-1568

ตระกูลอะชิคะงะได้ขึ้นเป็นตระกูลโชกุน ตั้งรัฐบาลทหารมูโรมาจิ

ชาวโปรตุเกส เป็นชาวตะวันตกกลุ่มแรกได้เริ่มเข้ามาสู่ญี่ปุ่น
พร้อมกับการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และเทคโนโลยี “ปืน”

ค.ศ. 1441 เกิดการลอบสังหารโชกุนขึ้น ทำให้การปกครองระบอบโชกุน
เสื่อมถอยลง และเกิดเป็นสงครามกลางเมื่องที่กินระยะเวลาถึง 100 ปี

ยุคอาสึจิ-โมยามะ

ค.ศ. 1568-1600

สงครามเซคิกาฮาระ (ผลพวงจากยุคเซนโกกุที่แม่ทัพทั้งหลายรบกัน)

ยุคที่สาม (ยุคใหม่)

ยุคนี้ประเทศญี่ปุ่นมีการติดต่อค้าขายกับชาวต่างชาติมากขึ้น โชกุนและไดเมียวถือเป็นผู้ที่ไม่มีอำนําจทางการปกครอง

ยุคใกล้

ยุคเอโดะ

ค.ศ. 1600-1868

อิเอยาสึชนะในศึกสงครามก็ได้รวบรวมประเทศเป็นปึกแผ่นอีกครั้ง

ย้ายเมืองหลวงจาก เกียวโต มาเอโดะ(Edo) หรือโตเกียวในปัจจุบันนี้

เป็นจุดแห่งการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ญี่ปุ่นปิดประเทศ 265 ปี โชกุนโทะกุงะวะได้ออกคำสั่งห้ามเผยแพร่ศาสนาคริสต์ในญี่ปุ่น ห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศญี่ปุ่น
คงเหลือแต่ให้ค้าขายได้เล็กน้อยที่เกาะเดจิมะเท่านั้น

ค.ศ. 1853 พลเรือจัตวา แมทธิว ซี เพอร์รี แห่งสหรัฐอเมริกา นำกองเรือ 4 ลำ “เรือดำ (คุโระฟุเนะ)” เข้ามาในอ่าวโตเกียว
และประสบความสำเร็จในการชักจูงให้ญี่ปุ่นลงนามในสนธิสัญญาสัมพันธไมตรีกับประเทศสหรัฐอเมริกา

ความกดดันแห่งกระแสทางสังคมและการเมือง ซึ่งกัดกร่อนรากฐานของโครงสร้างระบบศักดินาทีละน้อย จนกระทั่งระบบศักดินาของโชกุนโตกุงาวะ
ได้สิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1867 และได้ถวายอำนาจอธิปไตยทั้งมวลคืนพระจักรพรรดิในการปฏิรูปเมจิ (Meiji Restoration)

ยุคปัจจุบัน

ยุคเมจิ

ค.ศ. 1868-1912

สมเด็จพระจักรพรรดิเมจิขึ้นครองราชย์

ญี่ปุ่นทำการปรับปรุงตนเองขนานใหญ่ให้ทัดเทียมประเทศตะวันตก การสร้างสรรค์ประเทศให้เข้าสู่ยุคใหม่ด้วยอุตสาหกรรม
พัฒนาสถาบันทางการเมืองและรูปแบบของสังคมแบบใหม่ โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ทศวรรษ

ย้ายเมืองหลวงจากกรุงเกียวโตไปอยู่ที่เมืองเอโดะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลระบบศักดินาที่ผ่านมา

เปลี่ยนชื่อเมืองหลวงเป็นโตเกียว ซึ่งแปลว่า "เมืองหลวงตะวันออก"

มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ค.ศ.1889) ตลอดจนตั้งคณะรัฐมนตรี และสถาบันนิติบัญญัติระบบสองสภา
ยกเลิกการแบ่งชนชั้นแบบเก่าของสมัยศักดินา (ค.ศ.1867)

ค.ศ. 1894 สงครามจีน-ญี่ปุ่น (นิชชินเซ็นโซ) ทําให้ญี่ปุ่นยึดครองไต้หวัน

ค.ศ. 1904 สงครามญี่ปุ่น-รัสเซีย (นิจิโรเซ็นโซ) และสามารถยึดครองเกาะแซคคาลินตอนใต้มาครอบครอง

ญี่ปุ่นได้จัดการให้เกาหลีเป็นดินแดนในอารักขา และผนวกเกาหลีในปี ค.ศ. 1910

ยุคไทโช

ค.ศ. 1912-1926

สมเด็จพระจักรพรรดิไทโช ได้เสด็จขึ้นครองราชย์

ญี่ปุ่นได้เข้าร่วมสงครามโลกเนื่องจากได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับประเทศอังกฤษไว้เมื่อปี ค.ศ. 1902 และได้รับชัยชนะในที่สุด

ยุคโชวะ

ค.ศ. 1926-1989

สมเด็จพระจักรพรรดิฮิโรฮิโต ได้เสด็จครองราชย์

ค.ศ. 1931 กบฏแมนจู(แมนจูจิเฮ็น)

ค.ศ. 1937สงครามญี่ปุ่น-จีน (นิจจูเซ็นโซ)

ค.ศ. 1941 เกิดสงครามแปซิฟิก

ญี่ปุ่นเข้าร่มสงครามโลกครั้งที่ 2 ฝ่ายอักษะ และเป็นประเทศผู้แผ้สงคราม

ยุคเฮย์เซย์

ค.ศ. 1989-2019

สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต้ขึ้นครองราชย์

กลายเป็นประเทศชั้นนำด้านเทคโนโลยีและการท่องเที่ยว

ค.ศ. 2018
จักรพรรดิผู้ครองราชย์ได้ประกาศความกังวลเรื่องสุขภาพที่ลดลงและเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่มีการออกกฎหมายอนุญาตให้สละราชสมบัติ

ค.ศ. 2019 จักรพรรดิอะกิฮิโตะ ได้ทรงสละราชสมบัติ

ยุคเรวะ

ค.ศ. 2019-ปัจจุบัน

จักรพรรดินารุฮิโตะ ขึ้นครองราชย์

การแพร่ระบาดของ COVID-19