การศึกษาประสิทธิภาพของการเล่นแบดมินตันกับการพัฒนาสมองส่วนหน้า และทักษะการประสานมือและตาในเด็กสมาธิสั้น โรงพยาบาลสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์

การศึกษาเชิงพรรณนาแบบศึกษาที่จุดเวลาใด
เวลาหนึ่ง

การวิจัยในรูปแบบ Pre–test และ Post–test

แบบทดสอบประเมินการทำงานของสมองสมองส่วนหน้าโดยใช้ Strooptest

ประเมินทักษะการประสานมือและตาโดยการโยนรับลูกเข้าผนังก่อนและหลังการฝึกกีฬาแบดมินตัน

1 ชั่วโมงต่อวัน

ช่วงเวลา13.00–14.00

เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นและรักษาในโรงพยาบาลสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จำนวน 32 คน

เกณฑ์การคัดอาสาสมัครเข้าร่วมศึกษา

อายุ 7-12 ปี

ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคสมาธิสั้น

รับยาปรับสมาธิสั้นจนอยู่ในระดับที่ควบคุมอาการได้

รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ

อ่านคำอ่านเกี่ยวกับสีได้

ได้รับการยินยอมในการเข้าร่วมวิจัยจากผู้ปกครอง

Stroop word

พิมพ์คำอ่านด้วยสีดำทั้งหมด

Stroop color

พิมพ์คำอ่านด้วยสีที่ตรงกัน

Stroopcolor–word

พิมพ์คำอ่านด้วยสีที่ไม่ตรงกัน

บันทึกข้อมูลโดยวัดเวลาจากการอ่านบัตรคำอย่างถูกต้องจำนวน 25 บัตรคำออกมาเป็นหน่วยเวลา (วินาที)

การโยนลูกเข้าผนัง

ผู้เข้าร่วมวิจัยยืนห่างจากผนังเรียบเป็นระยะทาง 2 เมตร

โยนลูกบอลเข้าผนังด้วยมือที่ถนัดและให้รับด้วยมือที่ไม่ถนัด

จับเวลา 30 วินาทีและบันทึกจำนวนครั้งที่รับได้

ข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง

ผู้ป่วยที่เข้าหลักเกณฑ์ในการศึกษาจำนวน 32 คน

ผู้ชาย 24 คน (75%)

ผู้หญิง 8 คน (25%)

กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดรับประทานยา methylphenidate

กลุ่มตัวอย่างไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมบบำบัดมาก่อนหน้านี

ประสิทธิภาพของการเล่นกีฬาแบดมินตันกับการพัฒนาสมองส่วนหน้า

ผลการทดสอบ Stroop word

ก่อนเล่นแบดมินตันเท่ากับ 17.81+3.03 วินาที

หลังเล่นแบดมินตันเท่ากับ 20.84+2.52 วินาที

ผลการทดสอบ Stroop color

ก่อนเล่นแบดมินตันเท่ากับ 20.28+3.16 วินาที

หลังเล่นแบดมินตันเท่ากับ 22.03+2.68 วินาที

ผลการทดสอบ Stroopcolor–word

ก่อนเล่นแบดมินตันเท่ากับ 17.69+3.25 วินาที

หลังเล่นแบดมินตันเท่ากับ 19.56+3.13 วินาที

ประสิทธิภาพของการเล่นแบดมินตันกับการพัฒนาทักษะการประสานมือและตา

ผลการโยน–รับลูกบอลเข้าผนังในเวลา 30 วินาที

ก่อนเล่นแบดมินตันเท่ากับ 11.40+2.39 ครั้ง

หลังเล่นแบดมินตันเท่ากับ 14.34+3.05 ครั้ง

ให้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกีฬาแบดมินตัน
และอุปกรณ์ที่ใช้ในการเล่นแบดมินตัน

กายบริหารเบื้องต้น

แบบฝึกทักษะการใช้อุปกรณ์ความสัมพันธ์ระหว่างการใช้มือและการมอง

เรียนรู้วิธีการใช้ไม้แบดมินตัน

แบบฝึกทักษะการมองการใช้มือ ระบบการรับรู้กล้ามเนื้อ และการทรงท่า

เดาะลูกด้วยไม้แบดมินตันต่อเนื่องกันจำนวน 10 ครั้ง

ปาลูกแบดมินตันใส่ตะกร้า

ผู้ฝึกสอนปล่อยลูกแบดมินตันให้ผู้เข้าร่วมวิจัยยืนตีลูกแบดมินตันกลับมา
หาผู้ฝึกสอน

ฝึกทักษะการจับไม้แบดมินตันตีลม

ฝึกการใช้แบคแฮนด์โฟร์แฮนด์ในท่าต่างๆ โดยเพิ่มการตีโต้ให้เร็วขึ้น

คนอื่นๆ ที่เหลือจะเป็นผู้ที่คอยเก็บและเรียงลูกแบดมินตันเป็นแถวส่งให้ผู้ฝึกสอนเพื่อรอเวลาตนเองตี

ฝึกวิ่งพร้อมกับตีแบดมินตัน

แบบฝึกทักษะการเคลื่อนที่โดยการวิ่งในรูปแบบต่างๆ

ผู้เข้าร่วมวิจัยฝึกตีโต้กับผู้ฝึกสอน

จับคู่ตีโต้ข้ามตาข่าย

จัดการแข่งขันแบบพบกันหมด
เพื่อให้ผู้เข้าร่วมงานวิจัยแสดงความสามารถที่ได้ผ่านการฝึกฝน

การพัฒนาของสมองส่วนหน้าในด้านสมาธิดีขึ้น

ทักษะการ
ประสานมือและตาในเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นดีขึ้น

ปัจจัยอายุและเพศ ไม่มีผลต่อความสามารถ
ในการเล่นแบดมินตัน