ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ผู้มีหน้าที่

บุคคลธรรมดา

เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทุกคน

ถึงแก่ความตายต้องเสียภาษี

เกิดมาแล้วยังมีชีวิตอยู่

ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี

คนที่มีรายได้น้อยต้องเสียภาษี

ถึงแก่ความตายก่อนยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีหรือในระหว่างปีภาษี

ระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคม

กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง

ทรัพย์สินของผู้ตายในปีถัดจากปีที่ถึงแก่ความตาย แต่ยังไม่ได้แบ่งให้ทายาท

ผู้จัดการมรดกหรือทายาท หรือผู้ครอบรองทรัพย์มรดก เป็นผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีในนามกองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง

วิสาหกิจชุมชน

ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล

ห้างหุ้นส่วนสามัญ

จะต้องมีสมาชิก ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปถึงจะตั้งบริษัทได้

วัตถุประสงค์ในการที่จะแบ่งปันผลกำไรที่พึงได้

คณะบุคคล

จะต้องมีสมาชิก ตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปถึงจะตั้งบริษัทได้

ไม่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ในการที่จะแบ่งปันผลกำไรที่พึงได้

การส่งเสริมวิสากิจชุมชน

กลุ่มที่ชาวบ้านมาร่วมตัวทำกิจกรรม

บุคคลที่ได้รับการยกเว้นภาษี

บุคคลตามข้อผูกพักที่ประเทศมีอยู่ตามสัญญาว่าด้วยความร่วมมือทางเศรษฐกิจ

องค์การสหประชาชาติ

สถานเอกอัครราชทูต สถานทูต

บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติอเมริกัน

เงินได้ที่ว่าการ ผู้ว่าการสำรอง กรรมการ

คนที่อยู่ในประเทศที่มีอนุสัญญาว่าด้วยการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่รัฐบาลไทย

คนที่อยู่ในประเทศที่มีอนุสัญญาว่าด้วยการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนที่รัฐบาลไทย

ยกเว้นให้บุคคลตามที่กำหนดไว้ในความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ฐานภาษีเงินได้

คำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ต้องชำระ

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา = ฐานภาษี(เงินได้สุทธิ) . อัตราภาษี

เงินได้สุทธิ = เงินได้พึงประเมิน - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน

ฐานภาษีและอัตราภาษี

เงินได้พึงประเมิน

เงินที่ได้รับในประเทศจะต้องเสียภาษีตามมาตรา 39

ที่ได้รับเงินจริง(เกณฑ์เงินสด)

เงิน

ทรัพย์สินซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน

ประโยชน์ซึ่งอาจคิดคำนวณได้เป็นเงิน

เงินค่าภาษีอากรที่ผู้จ่ายเงินหรือผู้อื่นออกแทนให้

เครดิตภาษีตามที่กฎหมายกำหนด

แหล่งเงินได้

ตามมาตรา 41

เงินได้เกิดจากแหล่งในประเทศ

หน้าที่งานที่ทำในประเทศไทย

กิจการที่ทำในประเทศไทย

กิจการของนายจ้างในประเทศไทย

ทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทย

เงินได้จากแหล่งนอกประเทศ

หน้าที่งานที่ทำในต่างประเทศ

กิจการที่ทำในต่างประเทศ

ทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ

เสียภาษีเงินได้ให้แก่ประเทศไทย(ตามหลักถิ่นฐานที่อยู่)

ผู้ที่อยู่ในประเทศไทยครบ 180 วัน

ผู้ที่นำเงินได้เข้ามาในประเทศไทยอยู่ครบ 180 วัน

ปีปฏิทิน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 31 ธ.ค.

เงินได้ที่ได้รับการยกเว้นภาษี

ตามมาตรา 42 แห่งประมวลรัษฎากร

ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126

ตามพระราชกฤษฎีกา

ตามกฎหมายอื่น

ประเภทเงินได้พึ่งประเมินและการหักค่าใช้จ่าย

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 (มาตรา 40(1))

เงินได้จากการจ้างแรงงาน

หักค่าใช้จ่าย 50% ไม่เกิน 100,000

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 2 (มาตรา 40(2))

กลุ่มรับทำงานให้ ค่านายหน้า

หักค่าใช้จ่าย 50% ไม่เกิน 100,000

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 3 (มาตรา 40(3))

ค่าแห่งลิขสิทธิ์

หักค่าใช้จ่ายจ่าย 50% ไม่เกิน 100,000

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 4 (มาตรา 40(4))

40(4)(ก)

ดอกเบี้ย

40(4)(ข)

เงินปันผล

หักค่าใช้จ่ายไม่ได้

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 5 (มาตรา 40(5))

40(5)(ก)

การให้เช่าทรัพย์สิน

การหักค่าใช้จ่าย

หักตามจ่ายจริง

หักเป็นการเหงาในอัตราที่กำหนด

บ้าน โรงเรือน สิ่งปลูกสร้างอย่างอื่น หรือแพ หัก 30%

ที่ดินที่ใช้ในการเกษตรกรรม หัก 20%

ที่ดินที่มิได้ใช้ในการเกษตรกรรม หัก 15%

ยานพาหนะ หัก 30%

ทรัพย์สินอื่นๆ หัก 10%

40(5)(ข)

การผิดสัญญาเช่าซื้อทรัพย์สิน

การหัดค่าใช้จ่าย 20%

40(5)(ค)

การผิดสัญญาซื้อเขายเงินผ่อน

ผู้ขายได้รับคืนทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้น โดยไม่ต้องคืนเงินหรือประโยชน์ที่ได้รับ

การหัดค่าใช้จ่าย 20%

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 6 (มาตรา 40(6))

วิชาชีพอิสระ

โรคศิลป

วิศวกรรม

สถาปัตยกรรม

การบัญชี

ประณีตศิลปกรรม

หักค่าใช้จ่าย

หักตามความเป็นจริง

หักตามอัตราเหมา

เฉพาะแพทย์เท่านั้นที่หัก 60% แต่ต้องเกี่ยวกับคนเท่านั้น

อาชีพอิสระนอก ที่ไม่ใช่แพทย์รักษาเกี่ยวกับคนเท่านั้น หัก 30%

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 7 (มาตรา 40(7))

รับเหมาก่อสร้าง

การหักค่าใช้จ่าย

หักตามความเป็นจริง

หักตามอัตราเหมาในปัจจุบัน 60%

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 8 (มาตรา 40(8))

ถ้าไม่ได้จัดอยู่ในประเภทที่ 1-7 จะอยู่ในประเภทที่ 8

ความผิดทางภาษี

ความผิดทางแพ่ง

ความผิดทางอาญา

การอุทธรณ์

ถ้าผู้ต้องเสียภาษีอากรไม่ปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานประเมิน

เมื่อมีการอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์แล้ว ถ้ามีการออกหมายเรียกผู้อุทธรณื หรือมีคำสั่งให้ปฏิบัติเพื่อการวินิจฉัยอุทธรณ์แต่ผู้อุทธรณ์ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียก

วิธีการเสียภาษี

การเสียภาษีโดยการประเมินตนเอง

เกณฑ์ของเงินได้พึงประเมินที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการ (มาตรา 56) ใช้ทั้งกรณีภาษีสิ้นปีและครึ่งปี

ผู้มีหน้าที่ในการื่นแบบแสดงรายการ (มาตรา 56, 57, 57ทวิ และ 57 เบญจ)

แบบแสดงรายการที่ใช้

กำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการ

สถานที่ยื่นแบบแสดงรายการ

การชำระภาษี

การขอผ่อนชำระภาษี

การเสียภาษีโดยการประเมินของเจ้าพนักงาน

มีบางกรณีที่เจ้าพนักงานทำการประเมิน แลเวให้ผู้มีเงินได้ยื่นเสียภาษี

การเสียภาษีโดยการหักภาษี ณ ที่จ่าย

เป็นวิธีการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอีกวิธีหนึ่งโดยกฎหมายได้กำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้ในบางกรณีทำหน้าที่คำนวนหักเงิน

เงินได้ที่แยกคำนวณได้

ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในอัตรา 15% ของเงินได้ได้โดยไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ

ดอกเบี้ยพันธบัตร

ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงิน

ผลประโยชน์ที่ได้จากโอนพันธบัตร หุ้นกู้

คนต่างด้าวซึ่งทำงานประจำในสำนักงานปฏิบัติการภูมิภาค

ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในอัตรา 10% ของเงินได้ได้โดยไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่นๆ

เงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) ที่ได้รับจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย กองทุนรวม

เงินได้ส่วนแบ่งกำไรจากกองทุนรวมตามที่จัดตั้งตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

เงินได้พึงประเมินประเภทที่ 1 และ 2

ผู้มีเงินได้ที่เป็นนักแสดงภาพยนตร์หรือโทรทัศน์ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ

การคำนวณภาษี

การคำนวนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี

การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสิ้นปี

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

หากผู้มีเงินได้มีเงินได้ตามมาตรา 40(2)-(8) ตั้งแต่ 60,000 บาทขึ้นไป จะต้องเสียภาษีเงินได้อย่างน้อย 0.5%

ค่าลดหย่อน

ผู้มีเงินได้ 60,000 บาท

คู่สมรสของผู้มีเงินได้ 60,000 บาท

บุตร คนละ 30,000 บาท

บิดามารดาของผู้มีเงินได้หรือคู่สมรส คนละ 30,000 บาท

อุปการะเลี้ยงดูคนพิการหรือคนทุพพลภาพ คนละ 60,000 บาท

เบี้ยประกันชีวิต

เบี้ยประกันชีวิต หักได้ตามจ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท

เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ หักลดย่อนได้ 15% แต่ไม่เกิน 200,000 บาท

เบี้ยประกันสุขภาพของผู้มีเงินได้ หักลดหย่อนได้ตามจ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท

เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดาของผู้มีเงินได้และคู่สมรส หักลดหย่อนได้ตามจ่ายจริงไม่เกิน 15,000 บาท

เงินสะสมจ่ายเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หักได้ตามจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท เงินที่จ่ายสะสมเข้ากองทุนจะต้องไม่ต้ำกว่า 3% แต่ไม่เกิน 15% ของค่าจ้าง

ค่าซื้อหน่อยลงทุนในกองทุนรวมสำรองเลี้ยงชีพ(RMF) หักได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้พึงประเมินที่ได้รับ แต่ต้องไม่เกิน 500,000 บาท

ดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อที่อยู่อาศัย ตามจำนวนเงินที่ได้จ่ายไปจริงแต่ไม่เกิน 100,000 บาท

เงินสมทบกองทุนประกันสังคม ตามจริงที่จ่ายจริง แต่ต้องจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมไม่เกิน 9,000 บาท

เงินสะสมกองทุนการออมแห่งชาติ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 500,000 บาท

เงินบริจาค ต้องบริจาคเป็นเงินสดเท่านั้น