การเขียนรายงานวิชาการ

ขั้นตอนการเขียนรายงาน

เลือกและกำหนดหัวข้อการทำรายงาน

อ่านข้อมูลของเนื้อหาเพื่อเป็นพื้นฐานความรู้ + กำหนดวัตถุประสงค์

จัดทำเค้าโครงรายงาน

รวบรวมบรรณานุกรม

อ่านและจดบันทึก

การใช้สารสนเทศจากแหล่งต่างๆ

จัดทำโครงเรื่องครั้งสุดท้าย

การเรียบเรียงรายงาน

การเขียนรายการอ้างอิงและบรรณานุกรม

การเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์

ความหมาย

สิ่งพิมพ์ที่เรียบเรียงขึ้นอย่างมีระบบระเบียบจากการศึกษาค้นคว้า การทดลอง การสังเกตการณ์ การสำรวจ การสัมภาษณ์ เป็นต้น อาจจะเขียนขึ้นเพื่อการศึกษาค้นคว้า สำหรับวิชาใดวิชานึ่ง

ประเภทของรายงาน

รายงานวิชาการ (Reports) - มีลักษณะเช่นเดียวกับรายงาน - มีรายละเอียดลึกซึ้งมากกว่า - ใช้เวลา 1 ภาคการศึกษา

ภาคนิพนธ์(Term paper) - เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา

ปริญญา
มหาบัณฑิต
(Thesis)

ปริญญาดุษฎี
บัณฑิต
(Dissertation)

วิทยานิพนธ์(Thesis/Dissertation) - เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัยของอาจารย์นักวิชาการ นักวิจัย เป็นการศึกษาค้นคว้าลักษณะเดียวกับการทำวิทยานิพนธ์

รายงานการวิจัย (Research)

ประโยชน์ของกาทำรายงาน

1.ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และข้อเท็จจริงใหม่ ๆ 2.ทำให้มีพัฒนาการทางวิชาการในสาขาวิชาต่างๆ 3.ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริง รวมทั้งข้อบกพร่อง
4.ทำให้เกิดการรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล และสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหา 5.เพิ่มพูนทักษะในการเขียนรายงานทางวิชาการ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์งานวิชาการอื่น ๆ ต่อไป

- ศึกษาค้นคว้าและนำมาเรียบเรียงอย่างมีระเบียบ - ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อเสริมเนื้อหาที่เรียนในรายวิชาใดรายวิชาหนึ่งในแต่ละภาคการศึกษา - ผู้ทำรายงานอาจเลือกหัวข้อที่สนใจเองหรือผู้สอนเป็นผู้กำหนดให้ - ทำเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคล

ขั้นตอนการทำรายงาน

กำหนดชื่อเรื่อง

วางโครงร่างของเนื้อหา

คิดคำสำคัญ/คำค้น

เลือกแหล่งและทรัพยากรสารสนเทศ

สืบค้นสารสนเทศในระบบมือ / ใช้ IT เป็นเครื่องมือ

ประเมิน วิเคราะห์ และสังเคราะห์สารสนเทศ

เรียบเรียงและนำเสนอรายงาน

ส่วนประกอบของรายงาน

หน้าปก
(Cover)

ชื่อ-นามสกุล
และเลขรหัส

ชื่อของรายงาน

ชื่อวิชา

ชื่อสำนักวิชา

ชื่อสถาบันการศึกษา

ปีการศึกษาที่ทำ

ใบรองปกนอก

ใบรองปกใน

คำนำ (Preface)

บอกขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการจัดทำ

อาจจะบอกเนื้อหา(เป็นตอน/บท)อย่างคร่าวๆ

ส่วนใหญ่มี 2 ย่อหน้า (ย่อหน้าที่2 จะกล่าวความคาดหวังในการทำรายงาน)

ในตอนท้ายจะลงชื่อผู้จัดทำ และวันที่ ที่เขียนคำนำ

กิตติกรรมประกาศ (acknowledgement)

- เป็นหน้าที่ใช้กล่าวขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุน ผู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆ ตลอดจนผู้ที่เป็นกำลังใจ ในการทำรายงานชิ้นนั้น ๆ - ส่วนใหญ่พบในรายงาน
การวิจัย/วิทยานิพนธ์

สารบัญ (Table of Content)

สารเนื้อหา

- นับตั้งแต่หน้าแรกของเนื้อหา - มีหัวข้อหลักๆ/ที่สำคัญๆ ของแต่ละบทปรากฎด้วย

สารบัญภาพ

- บอกภาพทุกภาพที่ปรากฏในรายงานว่าอยู่หน้าไหนบ้าง
- จะนับภาพแรกต่อเนื่องจนถึงภาพสุดท้ายในรายงานนั้น

สารบัญตาราง

- ทำเช่นเดียวกับสารบัญภาพ

เนื้อหา (Content)

ความหมายหรือนิยาม

ประวัติความเป็นมาหรือภูมิหลัง

องค์ประกอบ/ส่วนประกอบ

โครงสร้าง/การทำงาน

เรื่องที่นำมาประยุกต์ใช้

บทสรุปในแต่ละหัวข้อ

*ข้อสังเกตุ หน้าแรกของทุกบทจะไม่ปรากฏเลขหน้า

แต่ละบทควรมีโครงเรื่องและโดยการลำดับหัวข้อที่ชัดเจน

การขึ้นหัวข้อใหม่ควรทำให้ชัดเจน แต่ต่างจากหัวข้อย่อยอื่น ๆ

แบ่งย่อหน้าให้เหมาะสม

ตรวจสอบคำผิด / ขนาดตัวอักษร /รูปแบบตัวอักษร

บรรณารุกรม (bibliography/reference)

เป็นรายชื่อเอกสารที่นำมาเขียนรายงานทั้งหมด

รายชื่อเอกสารดังกล่าวอาจมาจาก - บทความ (Article)
- หนังสือ (books)
- ฐานข้อมูล (Databases)
- Internet - - - -- - -- ในเรื่องที่เกี่ยวข้อง

เรียงตามตัวอักษร ก-ฮ หรือ A-Z (ภาษาไทยจะเรียงก่อนภาษาอังกฤษ)

ภาคผนวก (Appendix)

ไม่จำเป็นต้องมีในรายงานทุกฉบับ ส่วนใหญ่จะแนบ ตัวอย่างต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับรายงานนั้น เช่น - ตัวอย่างแบบฝึกหัด
- ตัวอย่างแบบสอบถาม/แบบสำรวจ/แบบสัมภาษณ์หรือแบบฟอร์มต่างๆ เป็นต้น
- code หรือขั้นตอนในการทำ project

ใบรองปกหลัง

ปกหลัก