arabera Earn Ayumi 5 years ago
276
Honelako gehiago
The part of speech is a category to which a word is assigned according to its syntactic functions. In English the main parts of speech are noun, pronoun, adjective, determiner, verb, adverb, preposition, conjunction, and interjection.
A conjunction is a word like 'if' 'but' or 'and' which is used to connect sentences or clauses together.
Subordinating conjunctions are conjunctions that are used at the beginning of subordinate clauses. Some examples of these conjunctions are: although, after, before, because, how, if, once, since, so that, until, unless, when etc.
Coordinating conjunctions always connect phrases, words, and clauses. They are: for, and, nor, but, or, yet, so.
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บ (ภาษีขาย) = ฐานภาษี x อัตราภาษี / (100 + อัตราภาษี)
ภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บ (ภาษีขาย) = ฐานภาษี x อัตราภาษี
A preposition is one of the most exciting parts of grammar. A preposition is used to describe the location of something in relation to something else.
Compound preposition consists of two or more words.
When a preposition consists of one word it is called single or simple preposition.
An interjection is used to express emotion in a sentence.
Think of other interjections!
ผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นใน ราชอาณาจักร
An adverb is used to describe a verb, but it can also describe an adjective or another adverb.
Adverbs normally help paint a fuller picture by describing how something happens.
การขายสินค้าหรือการให้บริการกรณีอื่นให้ยื่นคําร้องขอคืนภายใน 3 ปีนับแต่วันที่ได้ชําระภาษี (มาตรา 84/1)
การขายสินค้าหรือให้บริการในกรณีที่มีภาษีต้องขอคืน
ผู้ไม่มีหน้าที่เสียภาษีแต่ได้ชําระภาษีไว้ (ใช้แบบ ค.10)
ผู้มีหน้าที่นําส่งภาษีซึ่งนําส่งภาษีไว้เกิน ผิด หรือซํ ้า (ใช้แบบ ค.10)
ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่มไว้เกิน ผิดหรือซํ ้า (ใช้แบบ ค.10)
ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีเครดิตภาษีเหลืออยู่ในแต่ละเดือนภาษี (กรณีที่ไม่ประสงค์ที่จะยกไปชําระภาษีของเดือนถัดไป) (ขอคืนในแบบ ภ.พ. 30)
A numeral is a word or phrase that describes a numerical quantity.
Some theories of grammar use the word 'numeral' to refer to cardinal numbers that act as a determiner to specify the quantity of a noun, for example the 'two' in 'two hats'.
โทษจําคุกตั้งแต่3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
ผู้ประกอบการโดยเจตนานําใบกํากับภาษีปลอมหรือใบกํากับภาษีที่ออกโดย ไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทําการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใดทํานองเดียวกัน
โทษจําคุกไม่เกิน 6เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ในกรณีที่เป็นผู้ขัดขวางหรือไม่อํานวยความสะดวกแก่การปฏิบัติงานของพนักงานประเมินหรือขัดคําสั่งของเข้าพนักงานประเมิน
โทษจําคุกไม่เกิน 1เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ในกรณีที่เป็นผู้ไม่ปฏิบัติตามหมายเรียกหรือคําสั่งของเจ้าพนักงานประเมิน
โทษจําคุกตั ้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั ้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาทในกรณีที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ลงรายการหรือลงรายการเป็นเท็จในรายงาน
ตัวแทนผู้ประกอบการจดทะเบียนที่อยู่นอกราชอาณาจักรไม่จัดทํารายงาน ตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่จัดทํารายงาน (รายงานภาษีซื้อ รายงานภาษีขาย และรายงานสินค้าและวัตถุดิบ เป็นต้น หรือรายงานตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด
โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท ในกรณีที่ตัวแทนผู้ประกอบการจดทะเบียนที่อยู่นอกราชอาณาจักรจัดทํารายงานโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนจงใจไม่เก็บและรักษาใบกํากับภาษีหรือสําเนาใบกํากับภาษี หรือเก็บรักษาเอกสารดังกล่าวโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กําหนด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทํารายงานโดยไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กําหนด หรือตามที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนมีสินค้าเกินจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
โทษจําคุกตั้งแต่ 3เดือน ถึง 7 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 200,000 บาท
ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มไม่ออกใบกํากับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้ หรือใบแทนเอกสารดังกล่าว
ผู้ออกใบกํากับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้โดยไม่มีสิทธิจะออกเอกสารดังกล่าว
ตัวแทนผู้ประกอบการจดทะเบียนที่อยู่นอกราชอาณาจักรโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มออกใบกํากับภาษีโดยไม่มีสิทธิ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนโดยเจตนาหลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่มออกใบกํากับภาษี ใบเพิ่มหนี้ หรือใบลดหนี้โดยไม่มีสิทธิที่จะออกเอกสารดังกล่าว
โทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนใช้เครื่องบันทึกการเก็บเงินโดยไม่ได้รับอนุมัติ
ตัวแทนผู้ประกอบการจดทะเบียนที่อยู่นอกราชอาณาจักรออกใบกํากับภาษี โดยไม่มีสิทธิ
โทษจําคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่ปฏิบัติตามระเบียบเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือ บันทึกการเก็บเงิน
ตัวแทนออกใบกํากับภาษีในนามของผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่เป็นไป ตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด
ผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มชั่วคราวได้ออกใบกํากับภาษี
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่จัดทําใบกํากับภาษีหรือสําเนาใบกํากับภาษี
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่ออกใบแทนใบกํากับภาษี ใบแทนเพิ่มหนี้ หรือ ใบแทนใบลดหนี ้
ผู้ประกอบการจดทะเบียนออกใบกํากับภาษี ใบกํากับภาษีอย่างย่อ ใบเพิ่ม หนี้ หรือใบลดหนี้ โดยมีรายการในส่วนที่เป็นสาระสําคัญไม่ครบถ้วน
ผู้นําเข้าไม่ยื่นใบขนสินค้า
ผู้มีหน้าที่นําส่งเงินภาษีมูลค่าเพิ่มตามที่ประมวลรัษฎากรกําหนดไม่นําส่ง ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผู้มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ผู้ไม่จัดส่งสําเนาสัญญาหรือเอกสาร
โทษจําคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจําทั้งปรับ ในกรณีที่ผู้ประกอบการใดมีหน้าที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มประกอบกิจการโดยไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แจ้งการเลิกกิจการหรือการโอนกิจการทั้งหมด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แจ้งการโอนกิจการบางส่วนหรือการรับโอน กิจการทั้งหมด
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แจ้งการเปิดสถานประกอบการเพิ่มเติมหรือปิด สถานประกอบการ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แสดงใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ตัวแทนละเลยไม่ดําเนินการเกี่ยวกับการจดทะเบียนของผู้ประกอบการที่อยู่ นอกราชอาณาจักร
โทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
ผู้ครอบครองทรัพย์มรดก
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แจ้งการหยุดประกอบกิจชั่วคราว
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แจ้งการย้ายสถานประกอบการ
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่คืนใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผู้ประกอบการจดทะเบียนไม่แจ้งการเปลี่ยนแปลงรายการทะเบียน ภาษีมูลค่าเพิ่ม
บุคคลใดไม่ชําระภาษีหรือนําส่งภาษีให้ครบถ้วนภายในกําหนดเวลาตามที่ประมวลรัษฎากรบัญญัติไว้เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่มนี้ จะต้องเสียภาษีเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเดือนภาษีที่ต้องชําระหรือนําส่งโดยไม่รวมเบี้ยปรับ
ความผิดเกี่ยวกับการจัดทํารายงาน และเก็บรักษาเอกสารหลักฐาน
ความผิดเกี่ยวกับการออกใบกํากับภาษี ใบเพิ่มหนี้ และใบลดหนี้
ความผิดเกี่ยวกับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชําระภาษี
ความผิดเกี่ยวกับการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
การเก็บรักษาใบกํากับภาษีและหลักฐานอื่นที่ใช้ประกอบการลงรายงานภาษีซื้อให้จัดเก็บเรียงตามลําดับและตรงตามรายการในรายงานและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนดตามประกาศอธิบดีฯ
ในกรณีที่เห็นสมควร
ให้ผู้ประกอบการเก็บรักษาเอกสาร หลักฐาน และรายงานเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี นับแต่วันที่ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี
ให้ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชําระภาษี
ปริมาณสินค้า วัตถุดิบ
กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนเป็นผู้ค้าปลีกเนื่องจากสินค้าที่ขายแต่ละประเภทมี หลายชนิด หลายขนาด และควบคุมปริมาณเป็นหน่วยได้ยาก
กรณีผู้ประกอบการจดทะเบียนจัดทํารายงานแสดงรายละเอียดสินค้าหรือวัตถุดิบที่รับมาหรือจ่ายไปเป็นรายวัน
กรณีทั่วไปให้ลงรายการตามปริมาณสินค้า
เลขที่ใบสําคัญ
กรณีลงรายการเป็นยอดรวมของการรับหรือจ่ายสินค้าหรือวัตถุดิบเป็นรายวัน
ให้กรอกเลขที่ใบสําคัญรับหรือจ่ายสินค้าหรือวัตถุดิบ
เลขประจําตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ขายสินค้า/ผู้ให้บริการ
ชื่อผู้ขายสินค้า/ผู้ให้บริการ
เลขที่
ลําดับที่
เอกสารหลักฐานอื่นๆ เช่น ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้
ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากร
ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากร
ใบกับภาษีตามมาตรา 86/5 เฉพาะที่มีลักษณะเป็นใบกํากับภาษีแบบเต็มรูป
ใบกํากับภาษีแบบเต็มรูปตามมาตรา 86/4
การลดราคาสินค้าหรือค่าบริการที่ผิดข้อกําหนดที่ตกลงกัน
การส่งคืนสินค้าหรือยกเลิกสัญญาการให้บริการ
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนนําส่งตามแบบแสดงรายการ ภ.พ.36
การเพิ่มราคาสินค้าหรือค่าบริการ หรือการได้รับใบเพิ่มหนี้
การรับบริการ หรือการจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ
การซื้อ หรือเช่าซื้อ หรือนําเข้าซึ่งทรัพย์สิน
การซื้อ หรือการนําเข้าสินค้าหรือวัตถุดิบ
สถานประกอบการ
เลขประจําตัวผู้เสียภาษีอากรของผู้ซื้อสินค้า/ผู้รับบริการ
ชื่อผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ
เล่มที่/เลขที่
วัน เดือน ปี
การลดราคาสินค้าหรือค่าบริการซึ่งผิดข้อกําหนดที่ตกลงกัน
การรับคืนสินค้าที่ชํารุดบกพร่อง ไม่ตรงตามตัวอย่าง ไม่ตรงตามคําพรรณนา
มีสินค้าคงเหลือและทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการ ณ วันเลิกกิจการแต่ไม่รวมถึงสินค้าคงเหลือและทรัพย์สินของผู้ประกอบการ
มีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
หนี้สูญได้รับคืน
การนําสินค้าหรือบริการไปใช้เพื่อการอื่นใด(ไม่ใช่เพื่อการประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม)
การส่งมอบสินค้าให้ตัวแทนเพื่อขาย (ฝากขาย)
การให้เช่าซื้อสินค้า
การขายสินค้าหรือการให้บริการในราชอาณาจักร รวมทั้งการส่งออก
An article is a word used to modify a noun, which is a person, place, object, or idea. Technically, an article is an adjective, which is any word that modifies a noun.
ในกรณีนําเข้าสินค้าให้คํานวณราคา C.I.F ของสินค้านําเข้าที่เป็นเงินตราต่างประเทศ เป็นเงินตราไทยตามอัตราที่กรมศุลกากรใช้คํานวณเพื่อเรียกเก็บอากรขาเข้าตามกฎหมายว่าด้วยศุลกากร
ในกรณีได้รับเงินตราต่างประเทศจากการขายสินค้า
การขายสินค้าในกรณีผู้ประกอบการมีสินค้าคงเหลือ
การขายสินค้าที่ได้เสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 และภายหลังได้มีการ โอนกรรมสิทธิ์ในสินค้าอันทําให้ผู้รับโอนสินค้ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
การขายสินค้าหรือการให้บริการในกรณีที่ผู้ประกอบการนําสินค้าไปใช้หรือได้ ใช้บริการไม่ว่าโดยตนเองหรือบุคคลอื่น
การขายสินค้าหรือการให้บริการโดยไม่มีค่าตอบแทนหรือมีค่าตอบแทนตํ่ากว่า ราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร มูลค่าของฐานภาษีให้ถือตามราคาตลาดของสินค้า
สําหรับการขายน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
สําหรับการนําเข้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
สําหรับการขายยาสูบในราชอาณาจักร
สําหรับการนําเข้ายาสูบ
Indefinite articles are the words 'a' and 'an.' Each of these articles is used to refer to a noun, but the noun being referred to is not a specific person, place, object, or idea. It can be any noun from a group of nouns.
ในกรณีรับขนสินค้า
ในกรณีรับขนคนโดยสาร
It refers directly to a specific noun or groups of nouns.
การจําหน่าย
มูลค่าของทรัพย์สินที่ใช้ในการประกอบกิจการ
มูลค่าของทรัพย์สินหรือสินค้า ซึ่งผู้ประกอบการจดทะเบียนบริจาคให้แก่ส่วน ราชการตามโครงการของทางราชการ
มูลค่าการให้บริการขนส่งก๊าซทางท่อที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนให้บริการแก่ ผู้รับบริการซึ่งเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศ
มูลค่าการให้บริการรับประกันวินาศภัยตามกฎหมายว่าด้วยการประกันวินาศภัย ของผู้ประกอบการจดทะเบียน เฉพาะการให้บริการแก่บรรษัทประกันต่อแห่งเอเชียที่กระทําตั ้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2542 เป็นต้นไป
มูลค่าของนํ ้ามันดีเซลที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ผลิตและขายตั ้งแต่วันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2544
มูลค่าของทองรูปพรรณ
มูลค่าของสลากวินโต๊ดและเปร๊สโต๊ดที่ประกอบการสนามแข่งม้าขายให้แก่ผู้ เล่นพนันแข่งม้าเป็นจํานวนเท่ากับจํานวนเงินรางวัลที่จะต้องจ่ายคืนให้แก่ผู้เล่นพนันแข่งม้าดังกล่าว
มูลค่าของสินค้าหรือบริการที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนได้ขายหรือให้บริการแก่ ผู้ซื้อหรือผู้รับบริการซึ่งเป็น
(ข) ผู้ขายสินค้าหรือให้บริการซึ่งได้ทําสัญญาเป็นหนังสือโดยตรงกับผู้ทําสัญญา แบ่งปันรายงานตามหลักเกณฑ์ที่อธิบดีกําหนด
(ก) ผู้ทําสัญญาแบ่งปันผลผลิตกับองค์การร่วมไทย-มาเลเซีย
มูลค่าของเครื่องแบบที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนซึ่งเป็นนายจ้างได้มอบให้แก่ ลูกจ้างในจํานวนคนละไม่เกินสองชุดต่อปี และเนื ้อนอกจํานวนคนละไม่เกินหนึ่งตัวต่อปี
(ค) สินค้าที่มอบให้ลูกค้าทดลองใช้ก่อนซื้อนั้น
(ข) ระยะเวลาที่ให้ลูกค้าทดลองใช้สินค้านั้น
(ก) สินค้าที่มอบให้ลูกค้าทดลองใช้ก่อนซื ้อนั ้นจะต้องเป็นสินค้าที่ผู้ขายมีไว้ สําหรับให้ทดลองใช้โดยเฉพาะเท่านั ้นและเมื่อลูกค้าตกลงซื ้อสินค้าผู้ขายต้องมอบสินค้าตัวใหม่ที่เป็นชนิดเดียวกันให้ลูกค้า
มูลค่าของสินค้าที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่มิใช่ผู้ประกอบการจดทะเบียน
มูลค่าของอาหารและเครื่องดื่มที่นายจ้างจัดหาให้กับพนักงานหรือลูกจ้างใน ระหว่างเวลาปฏิบัติงานตามระเบียบเกี่ยวกับสวัสดิการพนักงานหรือลูกจ้างโดยมูลค่าของอาหารและเครื่องดื่มดังกล่าวต้องมีราคาไม่เกินสมควร
มูลค่าของสินค้าตัวอย่างที่แจก เนื่องจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย
มูลค่าของสินค้าที่แจกหรือให้เป็นของขวัญ
มูลค่าของการขายสินค้าของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกแก่ผู้ซื้อสินค้าในราชอาณาจักร และมีการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนําเข้าแล้ว
มูลค่าของการให้บริการเนื่องจากการเป็นนายหน้าตัวแทนให้แก่ผู้ประกอบการใน ต่างประเทศ
มูลค่าของสินค้าที่แจกหรือให้เป็นรางวัลที่ผู้ซื ้อได้ซื ้อสินค้าแต่ละวัน
มูลค่าของสินค้าที่แถมพร้อมกับการขายสินค้า
ภาษีขาย
ค่าชดเชยหรือเงินอุดหนุนตามที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติจากรัฐมนตรี
ส่วนลดหรือค่าลดหย่อน
ใบลดหนี้
ใบเพิ่มหนี้
ใบกํากับภาษีของสินค้าหรือบริการอื่นตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
ใบกํากับภาษีที่อธิบดีอนุมัติให้ทําเป็นภาษาต่างประเทศ
ใบกํากับภาษีของยาสูบ หรือน้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
ใบกํากับภาษีของสินค้าหรือบริการเฉพาะอย่างมาตรา 79/1 (การขายสินค้าโดยการส่งออกการให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ)
ใบกํากับภาษีอย่างย่อที่ออกโดยเครื่องบันทึกการเก็บเงิน
รายการของใบกํากับภาษีอย่างย่อ
ผู้มีสิทธิออกใบกํากับภาษีอย่างย่อ
วิธีการจัดทําใบกํากับภาษีแบบเต็มรูป
รายการของใบกํากับภาษีเต็มรูป
A pronoun is a word that can be used in place of a noun, typically after the noun itself has already been stated.
A reflexive pronoun ends with ...self or ...selves and refers to another noun or pronoun in the sentence (usually the subject of the sentence). The reflexive pronouns are myself, yourself, herself, himself, itself, ourselves, yourselves, and themselves.
Demonstrative pronouns are used to demonstrate (or indicate). This, that, these, and those are all demonstrative pronouns.
Possessive pronouns are used to show possession. The possessive pronouns are mine, yours, his, hers, ours, and theirs.
The personal pronouns are I, you, he, she, it, we, they. More often than not (but certainly not always), they replace nouns representing people.
โอนกรรมสิทธิ์สินค้า
วันที่นําสินค้าเข้าไปในเขตอุตสาหกรรมส่งออก
ชําระ อากรขาออก วางหลักประกันอากรขาออก หรือจัดให้มีผ้คํ้าประกันอากรขาออก
ส่งมอบสินค้าให้แก่ผ้ซื้อ
กําหนดชําระราคาแต่ละงวด
ส่งมอบสินค้า
An adjective is a word that's used to describe a specific noun and to provide more detail to the listener.
Superlative adjectives demonstrate a higher level of comparison between entities.
Expresses a comparison between two entities or groups of entities in quality or degree.
A noun is defined as a person, place, thing or idea. Proper nouns always begin with a capital letter. Common nouns, which are general words, such as 'cars,' are not capitalized.
Countable nouns are nouns that can be counted, even if the number might be extraordinarily high.
Uncountable nouns are nouns that come in a state or quantity which is impossible to count; liquids are uncountable, as are things which act
like liquids.
Proper nouns are the names of specific people or places. They should always begin with a capital letter.
A verb is an action word or 'doing' word that signifies movement in some way.
A modal is a type of auxiliary (helping) verb that is used to express: ability, possibility, permission or obligation. The main modal verbs in the English language are: can, could, may, might, must, shall, should, will, would.
A linking verb connects the subject with a word that gives information about the subject, such as a condition or relationship.
A verb with its own meaning: a verb that is not an auxiliary verb.
การให้บริการที่จะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ข) การให้บริการที่ทําในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั ้นในราชอาณาจักร โดยไม่คํานึงว่าการใช้บริการนั ้นจะอยู่ในต่างประเทศหรือในราชอาณาจักร
(ก) การให้บริการที่ทําในราชอาณาจักร โดยไม่คํานึงถึงว่าการใช้บริการนั ้นจะอยู่ ในต่างประเทศหรือในราชอาณาจักร
การขายสินค้าที่จะอยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มจะต้องเป็นการขายสินค้า ในราชอาณาจักรเท่านั้น
การให้บริการ
กรณีที่กฎหมายไม่ถือว่าการกระทําในบางกรณีเป็น “บริการ” ซึ่งไม่ต้องเสีย ภาษีมูลค่าเพิ่ม มีบัญญัติไว้ตามมาตรา 77/1(10)(ก)(ข) และ (ค)
การกระทําตามที่อธิบดีกําหนดโดยอนุมัติรัฐมนตรี ปัจจุบันยังไม่มีการกําหนด
การนําเงินไปหาประโยชน์โดยการฝากธนาคาร หรือซื ้อพันธบัตรหรือหลักทรัพย์
การใช้บริการหรือการนําสินค้าไปใช้เพื่อประกอบกิจการของตนเองตาม หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกําหนด
(ข) บริการที่นําไปใช้กับรถยนต์นั่ง หรือรถยนต์โดยสารที่มีที่นั่งไม่เกิน 10 คน
(ก) บริการที่นําไปใช้เพื่อการรับรอง หรือเพื่อการอันมีลักษณะทํานองเดียวกัน
การกระทําใดๆ อันอาจหาประโยชน์อันมีมูลค่า ซึ่ง ไม่ใช่การขายสินค้า
การขายสินค้า
สินค้า
ทรัพย์สินที่มีรูปร่างและไม่มีรูปร่างที่อาจมีราคาและถือเอาได้ได้ว่า จะมีไว้เพื่อขายเพื่อใช้ หรือเพื่อการใดๆ และให้หมายความรวมถึงสิ่งของทุกชนิดที่นําเข้า (มาตรา 77/1(9))
ขาย
(ฉ) มีสินค้าคงเหลือและหรือทรัพย์สินที่ผู้ประกอบการ
(จ) มีสินค้าขาดจากรายงานสินค้าและวัตถุดิบ
(ง) การนําสินค้าไปใช้ไม่ว่าประการใดๆ
(ค) การส่งสินค้าออกนอกราชอาณาจักร
(ข) การส่งมอบสินค้าให้ตัวแทนเพื่อขาย
(ก) การให้เช่าซื ้อสินค้า
จ่าย โอนสินค้า ไม่ว่าจะมีประโยชน์หรือ ค่าตอบแทนหรือไม่ (มาตรา 77/1(8))
นิติบุคคล
คณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
บุคคลธรรมดา