によって นางสาววริศรา บุญวงษ์ 2か月前.
117
もっと見る
(๓) ยึดเอกสาร หรือวัตถุใด ๆ ที่อาจใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง ให้บุคคลที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกตามสมควร
(๒) เข้าไปในสถานที่หรือยานพาหนะใด ๆ ที่มีเหตุอันควรสงสัยว่า จะมีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตกหรือในเวลาทำการของสถานที่นั้นเพื่อตรวจค้นเอกสารหรือวัตถุใด ๆ ที่อาจใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการกระทำผิดตามพระราชบัญญัตินี้ประกอบกับกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าหากเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้เอกสารหรือวัตถุดังกล่าวจะถูกยักย้าย ซุกซ่อน ทำลายหรือทำให้เปลี่ยนสภาพไปจากเดิม
(๑) เข้าไปในสถานที่ทำการของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ในเวลาทำการของสถานที่นั้น เพื่อตรวจสอบหรือควบคุมให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้
หาก ปฏิเสธการออกใบอนุญาต
ผู้ขอสามารถยื่นคำขอใหม่ได้อีกครั้ง หลังจาก ๑ ปี นับจากวันที่คณะกรรมการปฏิเสธ
คณะกรรมการพิจารณาคำขอรับใบอนุญาต
ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ สามารถขอรับใบอนุญาตใหม่ได้หลังจาก ๒ ปี นับจากวันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต
คณะกรรมการต้อง เพิกถอนใบอนุญาต นับตั้งแต่วันที่ ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุด
โดยคำพิพากษาถึงที่สุด
ผู้ฝ่าฝืนจะถูก จำคุก ตามมาตรา ๕๓
ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต กระทำการฝ่าฝืนมาตรา ๔๗
ห้ามตั้งแต่วันที่ทราบคำสั่งจากสภาการแพทย์แผนไทย คำสั่งสั่ง พักใช้ใบอนุญาต หรือ เพิกถอนใบอนุญาต
ห้ามผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนไทยประยุกต์ ในระหว่างถูกสั่งหักใช้ใบอนุญาตหรือถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต ห้ามประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือแสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าเป็นผู้มีสิทธิประกอบวิชาชีพ
แจ้งผลการวินิจฉัยชี้ขาดให้ ผู้กล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษ ทราบด้วย
บันทึกข้อความคำสั่งไว้ใน ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือ ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
แจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ถูกกล่าวโทษทราบภายใน ๗ วัน นับจากวันที่คำสั่งออก
เลขาธิการ แจ้งคำสั่งจากสภาการแพทย์แผนไทยตามมาตรา ๔๕
ถือเป็น คำสั่งสุดท้าย
พร้อมเหตุผลในการวินิจฉัย
คำวินิจฉัยชี้ขาดต้องทำเป็น คำสั่ง
คณะกรรมการมีอำนาจชี้ขาดตามตัวเลือกต่อไปนี้
(๕) เพิกถอนใบอนุญาต
(๔) พักใช้ใบอนุญาต (ไม่เกิน ๒ ปี)
(๓) ภาคทัณฑ์
(๒) ว่ากล่าวตักเตือน
(๑) ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษ
หากทำการสอบสวนเพิ่มเติม ต้องใช้ มาตรา ๔๑ วรรคสาม โดยอนุโลม
คณะกรรมการสามารถให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเพิ่มเติมได้
คณะกรรมการต้องพิจารณาให้เสร็จภายใน ๓๐ วัน นับจากวันที่ได้รับสำนวน
คณะกรรมการได้รับสำนวนการสอบสวนและความเห็นจากคณะอนุกรรมการสอบสวน
คณะกรรมการรับสำนวนเพื่อ วินิจฉัยชี้ขาด
ต้องไม่เกินระยะเวลาที่กำหนดไว้ใน มาตรา ๔๑ วรรคสาม
เสนอภายใน ๑๕ วัน นับจากวันที่สอบสวนเสร็จ
เสนอ สำนวนการสอบสวน พร้อมความเห็นต่อคณะกรรมการ
เมื่อคณะอนุกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนเสร็จสิ้น
คณะอนุกรรมการสอบสวนมีอำนาจขยายระยะเวลาการยื่นคำชี้แจงหรือส่งพยานหลักฐานได้
มีสิทธิ
ยื่นคำชี้แจงหรือพยานหลักฐานได้ภายใน ๑๕ วัน
นำพยานหลักฐาน มาใช้ในการแก้ต่าง
ทำคำชี้แจง
แจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๕ วันก่อนเริ่มการสอบสวน
ส่ง สำเนาเรื่องข้อกล่าวหา/ข้อกล่าวโทษ ให้ผู้ถูกกล่าวหา
ประธานอนุกรรมการสอบสวนแจ้งเป็นหนังสือ
บุคคลใด ๆ ที่ได้รับแจ้งต้องส่งมอบเอกสารหรือวัตถุที่เกี่ยวข้อง
การใช้เอกสารหรือวัตถุจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการจรรยาบรรณหรือคณะอนุกรรมการสอบสวน
เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
ออกหนังสือแจ้งให้ส่งเอกสารหรือวัตถุ
สามารถออกคำสั่งเรียกบุคคลใด ๆ เพื่อให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง
เรียกบุคคลมาให้ถ้อยคำ
ทั้งสองคณะถือเป็น เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา
คณะอนุกรรมการสอบสวน
คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณ
นับจากวันที่ครบกำหนดเดิม
ระยะเวลาที่ขยายเพิ่ม = ไม่เกิน ๓๐ วัน
หากมีเหตุจำเป็นไม่แล้วเสร็จ
คณะกรรมการสามารถขยายระยะเวลาได้อีกไม่เกิน ๓๐ วัน
ประธานอนุกรรมการต้องแจ้งให้คณะกรรมการทราบก่อนครบกำหนด
ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนดำเนินการให้เสร็จตามระยะเวลาที่กำหนด
คณะกรรมการสามารถแต่งตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนมากกว่า ๑ คณะได้
เสนอสำนวนการสอบสวนและความเห็นต่อคณะกรรมการ
สรุปผลการสอบสวน
สอบสวน
อนุกรรมการรวมไม่น้อยกว่า ๓ คน
แต่งตั้งโดยคณะกรรมการ
๓.ให้ยกข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวโทษในกรณีที่เห็นว่าข้อกล่าวหาหรือกล่าวโทษนั้นไม่มีมูล
๒.ให้คณะอนุกรรมการสอบสวนทำการสอบสวนในกรณีที่เห็นว่าข้อกล่าวหาหรือกล่าวโทษนั้นมีมูล
๑.ให้คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อเสนอให้คณะกรรมการพิจารณา
หน้าที่สืบสวนหาข้อเท็จจริงในเรื่องที่ได้รับตามมาตรา ๓๘ แล้วทำรายงาทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
สมาชิกประกอบด้วย
อนุกรรมการรวมกันไม่น้อยกว่า ๓ คน
ประธาน ๑ คน
เมื่อสมาชิกภาพของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ผู้ใดสิ้นสุดลงตามมาตรา๑๔ ให้ใบอนุญาตของผู้นั้นสิ้นสุดลง
ให้ผู้ซึ่งสมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๔ (๓) และ (๔) ส่งคืนใบอนุญาตต่อเลขาธิการภายในสิบห้าวันนับแต่วันที่ทราบการสิ้นสุดสมาชิกภาพ
(๗) หมอพื้นบ้าน ซึ่งมีความรู้ความสามารถในการส่งเสริมและดูแลสุขภาพของประชาชนในท้องถิ่นด้วยภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย ตามวัฒนธรรมของชุมชนที่สืบทอดกันมานานไม่น้อยกว่าสิบปีเป็นที่นิยมยกย่องจากชุมชน โดยมีคณะกรรมการหมู่บ้านหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอให้หน่วยงานที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดเป็นผู้รับรอง ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(6) การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญของทางราชการ ทั้งนี้ โดยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด
(๕) บุคคลซึ่งปฏิบัติงานในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาลกระทำการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ในความ ควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๔) บุคคลซึ่งกระทรวง ทบวง กรม เทศบาล องค์การบริหารส่วนจังหวัด องค์การบริหารส่วนตำบล กรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษอื่นตามที่มีกฎหมายกำหนดหรือสภากาชาดไทย มอบหมายให้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยประยุกต์ หรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม ทั้งนี้ ตามระเบียบที่รัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
(๓) นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรม ซึ่งทำการฝึกหัดหรือฝึกอบรมในความควบคุมของสถาบันการศึกษาวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของรัฐหรือที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการให้ จัดตั้งสถาบันทางการแพทย์ของรัฐ หรือสถาบันการศึกษา หรือสถาบันทางการแพทย์อื่นที่สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง ทั้งนี้ ภายใต้ความควบคุมของเจ้าหน้าที่ผู้ฝึกหัดหรือผู้ให้การฝึกอบรมซึ่งเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
(๒) การช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยตามหน้าที่ ตามกฎหมาย ตามหลักมนุษยธรรมหรือตามธรรมจรรยาโดยมิได้รับประโยชน์ตอบแทน
(๑) การกระทำต่อตนเอง
(๔) การวินิจฉัยชี้ขาดให้พักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาตตามมาตรา ๔๕ วรรคสาม (๔) หรือ (๕)
(๓) การให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา ๑๔ (๔)
(๒) การกำหนดแผนการดำเนินงานและงบประมาณของสภาการแพทย์แผนไทย
(๑) การออกข้อบังคับ
การประชุมคณะที่ปรึกษา ให้เป็นไปตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย
การประชุมคณะอนุกรรมการ ให้นำความในวรรคหนึ่งและวรรคสองมาใช้บังคับโดยอนุโลม
มติของที่ประชุมในกรณีให้สมาชิกพ้นจากสมาชิกภาพตามมาตรา๑๔ (๔) ให้ถือคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนกรรมการทั้งหมดที่มีอยู่ในขณะนั้น
มติของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก ในการลงคะแนนกรรมการคนหนึ่งมีเสียงหนึ่ง เสียง ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
(๙) ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง
(๘) ผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๖
มีอำนาจหน้าที่ตามที่คณะกรรมการกำหนด
(๗) เหรัญญิก
มีอำนาจหน้าที่ควบคุม ดูแล รับผิดชอบการบัญชี การเงิน และ การงบประมาณของสภาการแพทย์แผนไทย
(๖) ประชาสัมพันธ์
มีอำนาจหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ แนะนำ และเผยแพร่ กิจการของสภาการแพทย์แผนไทยแก่ประชาชนและองค์กรอื่น
(๕) รองเลขาธิการ
เป็นผู้ทำการแทนเลขาธิการเมื่อเลขาธิการไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
เป็นผู้ช่วยเลขาธิการในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ เลขาธิการตามที่เลขาธิการมอบหมาย
(๔) เลขาธิการ
มีอำนาจหน้าที่ (ก) ควบคุมบังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาการแพทย์แผนไทย ทุกระดับ (ข) ควบคุมรับผิดชอบในงานธุรการทั่วไปของสภาการแพทย์แผนไทย (ค) รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย ผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์และทะเบียนอื่น ๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย (ง) ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาการแพทย์แผนไทย (จ) เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
(๓) อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที่สอง
เป็นผู้ทำการแทนนายกสภาการแพทย์แผนไทย เมื่อทั้งนายกสภาการแพทย์แผนไทยและอุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที่หนึ่งไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
เป็นผู้ช่วยนายกสภาการแพทย์แผนไทยในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายกสภาการแพทย์แผนไทยตามที่นายกสภาการแพทย์แผนไทยมอบหมาย
(๒) อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที่หนึ่ง
เป็นผู้ทำการแทนนายกสภาการแพทย์แผนไทย เมื่อนายกสภาการแพทย์แผนไทยไม่อยู่ หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
เป็นผู้ช่วยนายกสภาการแพทย์แผนไทยในกิจการอันอยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาการแพทย์แผนไทยตามที่นายกสภาการแพทย์แผนไทยมอบหมาย
(๑) นายกสภาการแพทย์แผนไทย
มีอำนาจจหน้าที่ (ก) บริหารและดำเนินกิจการของสภาการแพทย์แผนไทย ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามมติของคณะกรรมการ (ข) เป็นผู้แทนสภาการแพทย์แผนไทย ในกิจการต่าง ๆ (ค) เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ
(๔) ออกข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยว่าด้วย
(ด) เรื่องอื่น ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์หรืออยู่ในอำนาจหน้าที่ของสภาการแพทย์แผนไทยตามพระราชบัญญัตินี้หรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงความสำคัญในการช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยเพื่อให้สามารถดูแลตนเองได้ ภายใต้บังคับมาตรา๓๐ ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยเมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
(ณ) ข้อจำกัดและเงื่อนไขในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
(ฆ) หลักเกณฑ์การสืบสวนหรือสอบสวนในกรณีที่มีการกล่าวหาหรือการกล่าวโทษผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
(ฑ) หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการสอบความรู้หรือการประเมินตามมาตรา ๑๒ (๒)
(ฐ) การจัดตั้ง การดำเนินการ และการเลิกสถาบันที่ทำการฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการของวิชาชีพการแพทย์แผนไทย รวมทั้งการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการศึกษาต่อเนื่องของการแพทย์แผนไทยเพื่อเพิ่มพูนความรู้และเสริมทักษะการประกอบวิชาชีพ
(ฏ) จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
(ฎ) หลักเกณฑ์การพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(ญ) หลักเกณฑ์การออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความร้ ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ รวมทั้งหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
(ฌ) แบบและประเภทใบอนุญาต หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขึ้นทะเบียนการออกใบอนุญาต อายุใบอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาติ และการออกใบแทนใบอนุญาต
(ซ) คุณสมบัติของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกติตามมาตรา๓๕
ซ) การกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหนงอื่นตามมาตรา ๑๗ วรรคสอง
(ฉ) การกำหนดอำนาจหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาตามมาตรา ๑๖
(จ) การประชุมคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ และคณะที่ปรึกษา
(ง) การเลือก การเลือกตั้งกรรมการ การเลื่อนผู้มีคุณสมบัติขึ้นเป็นกรรมการแทนการแต่งตั้งที่ปรึกษา และการเลือกกรรมการเพื่อดำรงต่ำแหน่งต่าง ๆ ตามมาตรา ๑๘
(ค) การกำหนดค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุงและค่าธรรมเนียมอื่น นอกจากที่กำหนดไว้ในอัตราค่าธรรมเนียมท้ายพระราชบัญญัตินี้
(ข) การกำหนดโรคตามมาตรา ๑๒ (๕)
(ก) การเป็นสมาชิก
(๓) กำหนดแผนการดำเนินงานและงบประมาณของสภาการแพทย์แผนไทย
(๒) แต่งตั้งคณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยคณะอนุกรรมการการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ คณะอนุกรรมการจรรยาบรรณคณะอนุกรรมการสอบสวนและคณะอนุกรรมการอื่น เพื่อทำกิจการหรือพิจารณาเรื่องต่าง ๆ อันอยู่ในขอบเขตแห่งวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสภาการแพทย์แผนไทย
(๑) บริหารและดำเนินกิจการสภาการแพทย์แผนไทยตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ที่กำหนดในมาตรา ๘ และมาตรา ๙ รวมทั้งการบริหารเงินรายได้ตามมาตรา ๑๐
(๑) พ้นจากตำแหน่งคณบดีหรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชาที่ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาของเอกชนที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
(๓) ลาออก
(๒) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๙
(๑) สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามมาตรา ๑๔
(๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
(๒) เป็นผู้ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
(๑) เป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
เมื่อดำรงตำแหน่งนายกสภาการแพทย์แผนไทยพ้นจากหน้าที่ ให้เลขาธิการ รองเลขาธิการ ประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก และผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามวรรคสองพ้นจากตำแหน่งด้วย
ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทย อุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที่หนึ่งและอุปนายกสภาการแพทย์แผนไทยคนที่สอง ดำรงตำแหน่งตามวาระของกรรมการตามมาตรา ๑๕ (๕)
ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยมีอำนาจถอดถอนเลขาธิการ รองเลขาธิการประชาสัมพันธ์ เหรัญญิก และผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามวรรคสองออกจากตำแหน่งได้ ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการ รองเลขาธิการประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก ตำแหน่งละหนึ่งคน และอาจเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งอื่นได้ตามความจำเป็น ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
ให้นายกสภาการแพทย์แผนไทยเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งเลขาธิการ รองเลขาธิการประชาสัมพันธ์ และเหรัญญิก ตำแหน่งละหนึ่งคน และอาจเลือกกรรมการเพื่อดำรงตำแหน่งอื่นได้ตามความจำเป็น ทั้งนี้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
๕) กรรมการซึ่งได้รับเลือกตั้งโดยสมาชิกมีจํานวนเท่ากับจำนวนกรรมการใน (๑) (๒) (๓) และ (๔) รวมกันในขณะเลือกตั้งแต่ละคราว , ทั้งนี้ ให้ค่านึงถึงสัดส่วนของวิชาชีพการแพทย์ แผนไทยตามมาตรา ๔
(๔) หัวหน้าสถาบันหรือสถานพยาบาลที่สภาการแพทย์แผนไทยรับรอง โดยมีผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้เป็นผู้ให้การอบรม เลือกกันเอง ให้เหลือจำนวนสามคน
(๓) กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนสมาคมหรือมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพการแพทย์แผน ไทยแห่งละหนึ่งคน เลือกกันเองให้เหลือสามคน
(๒) กรรมการซึ่งเป็นคณบดี หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะหรือหัวหน้าภาควิชาที่ผลิตบัณฑิตสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทย ประยุกต์ในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและสถาบันอุดมศึกษาของเอกซนที่จัตั้งขึ้ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งละหนึ่งคน เลือกกันเองให้เหลือสาขาละสามคน
(๑) กรรมการโดยตำแหน่ง ได้แก่ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงสาธารณสุข อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา
สมาชิกภาพของสมาชิกสิ้นสุดลงเมื่อ
ในกรณีที่สมาชิกผู้ใดมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ (๕) แต่ยังไม่ถึงขนาดที่ สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามวรรคหนึ่ง (๕) คณะกรรมการอาจมีมติให้พักใช้ใบอนุญาตของสมาชิกผู้นั้นได้ โดยมีกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควรแต่ไม่เกินสองปี และให้นำความในมาตรา ๓๑ มาใช้บังคับโดยอนุโลม
(๕) มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๒ (๕) และผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมจำนวน ไม่น้อยกว่าสามคน ซึ่งคณะกรรมการกำหนด ลงความเห็นว่าไม่สามารถบำบัดรักษาให้หายเป็นปกติได้ หรือต้องใช้ระยะเวลาในการบำบัดรักษาเกินกว่าสองปี
(๔) คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากสมาชิกภาพ เพราะเห็นว่าเป็นผู้นำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพตามมาตรา ๑๒ (๓) หรือ (๔)
(๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๑๒ (๒)
(๒) ลาออก
(๑) ตาย
สิทธิเเละหน้าที่ของสมาชิก มีดังต่อไปนี้
(๔) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพและปฏิบัติตนตามพระราชบัญญัตินี้
(๓) เลือก รับเลือก หรือรับเลือกตั้งเป็นกรรมการ เฉพาะสมาชิกที่มีใบอนุญาต
(๒) แสดงความเห็นเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาการแพทย์แผนไทยส่งไปยัง คณะกรรมการเพื่อพิจารณา และในกรณีที่สมาชิกร่วมกันตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไปเสนอให้คณะกรรมการ พิจารณาเรื่องใดที่เกี่ยวกับกิจการของสภาการแพทย์แผนไทย คณะกรรมการต้องพิจารณาและแจ้งผล ษฎีกา การพิจารณาให้ผู้เสนอทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันได้รับเรื่อง
(๑) ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยหรือผู้ ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ขอหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญ ในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทย หรือการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์หรือ ขอหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย โดยปฏิบัติตามข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทยษฎีกา ว่าด้วยการนั้น
สมาชิกสภาการแพทย์แผนไทย ต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้
(๕) ไม่เป็นผู้วิกลจริต จิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ หรือไม่เป็นโรคที่กำหนดไว้ใน ข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย
(๔) ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะ นำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
(๓) ไม่เป็นผู้ประพฤติเสียหายซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสีย เกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
(๒) มีความรู้ในวิชาชีพการแพทย์แผนไทยดังต่อไปนี้
(ค) เป็นผู้ที่ส่วนราชการรับรองความรู้การแพทย์พื้นบ้านไทย โดยผ่านการ ประเมินหรือการสอบตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย
(ข) ได้รับปริญญาหรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาสาขาการแพทย์แผนไทยหรือสาขาการแพทย์แผนไทยประยุกต์จากสถาบันการศึกษาที่สภาการแพทย์แผนไทยรับรองและ ต้องสอบผ่านความรู้ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย หรือ
(ก) ได้รับการฝึกอบรมจากสถาบันหรือสถานพยาบาลที่สภาการแพทย์แผนไทย รับรองโดยมีผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยซึ่งได้รับอนุญาตให้ถ่ายทอดความรู้เป็นผู้ให้การ อบรมและต้องสอบผ่านความรู้ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับสภาการแพทย์แผนไทย หรือ
(๑) มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
นายกสภาการแพทย์แผนไทยอาจมอบหมายเป็นหนังสือให้กรรมการอื่นปฏิบัติหน้าที่แทนตามที่เห็นสมควร
(๕) ดอกผลของเงินและทรัพย์สินตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔)
(๔) เงินและทรัพย์สินซึ่งมีผู้ให้แก่สภาการแพทย์แผนไทย
(๓) ผลประโยชน์ที่ได้จากการจัดการทรัพย์สินและกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดในมาตรา ๘
(๒) ค่าจดทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ
(๑) เงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน
(๙) บริหารกิจการใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ และอำนาจหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ตลอดจนกิจการใด ๆ ของสภาการแพทย์แผนไทย
(๘) ดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของสภาการแพทย์แผนไทย
(๗) จัดทำแผนการดำเนินงานและรายงานผลการดำเนินงานเสนอต่อสภานายกพิเศษอย่างน้อยปีละครั้ง
(๖) ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ชำนาญในการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์ และออกหนังสือแสดงวุฒิอื่นในวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
(๕) รับรองวิทยฐานะของสถาบันที่ทำการฝึกอบรมใน (๔)
(๔) รับรองหลักสูตรสำหรับฝึกอบรมเป็นผู้ชำนาญการในด้านต่าง ๆ ของวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของสถาบันที่ทำการฝึกอบรมดังกล่าว
(๓) รับรองปริญญา ประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตรในวิชาชีพการแพทย์แผนไทยของสถาบันต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิก
(๒) ออกคำสั่งตามมาตรา ๕
(๑) รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์
(๘) เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์ของประเทศไทย
(๗) ผดุงไว้ซึ่งสิทธิ ความเป็นธรรม และส่งเสริมสวัสดิการให้แก่สมาชิก
(๖) ส่งเสริมความสามัคคีและผดุงเกียรติของสมาชิก
(๕) ให้คำปรึกษาหรือข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
(๔) ช่วยเหลือ แนะนำ เผยแพร่ และให้การศึกษาแก่ประชาชนและองค์กรอื่นในเรื่องที่เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย
(๓) ควบคุมความประพฤติ จริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนไทยประยุกต์ ให้เป็นไปตามจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพการแพทย์แผนไทย
(๒) ควบคุม กำกับ ดูแล และกำหนดมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและผู้ประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประยุกต์
(๑) ส่งเสริมการศึกษา พัฒนา วิจัย การประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยและการประกอบวิชาชีพการแพทย์แผนไทยประประยุกต์