カテゴリー 全て - วิชาการ - การเขียน - ข้อมูล

によって Patcharaya Aiedchoo 5年前.

212

Report Writng

การจัดทำรายงานเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากช่วยพัฒนาทักษะการเขียนรายงานวิชาการ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างผลงานวิชาการในอนาคต นอกจากนี้ การทำรายงานยังช่วยสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ และข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์ ทำให้ผู้จัดทำสามารถรับรู้ข้อมูลที่แท้จริง รวมถึงข้อบกพร่องต่างๆ อันจะนำไปสู่การพัฒนาทางวิชาการในสาขาต่างๆ อีกทั้งยังฝึกฝนให้มีความคิดอย่างมีเหตุผลและทักษะในการแก้ไขปัญหา

ส่วนประกอบของรายงานประกอบด้วย หน้าปกที่มีรายละเอียดต่างๆ สารบัญที่แสดงเนื้อหา ตาราง และภาพ เนื้อหาที่ต้องตรวจสอบคำผิดและรูปแบบตัวอักษร คำนำที่บอกขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการจัดทำ กิตติกรรมประกาศที่ใช้กล่าวขอบคุณผู้สนับสนุน และบรรณานุกรมที่เรียงตามตัวอักษรเพื่ออ้างอิงเอกสารที่ใช้ในการจัดทำรายงาน

Report Writng

Report Writng

ประเภทของรายงาน

4. รายงานการวิจัย (Research)
เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัยของอาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย เป็นการศึกษาค้นคว้าลักษณะเดียวกับการทำวิยานิพนธ์
3. วิทยานิพนธ์ (Thesis/Dissertation)
เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัย ซึ่งเป้นส่วนหนึ่งของการศึกษาในระดับบัณฑิตศึกษา

ปริญญามหาบัณฑิต (Thesis)

ปริญญาดุษฏีบัณฑิต (Dissertation)

2. ภาคนิพนธ์ (Term paper)
ใช้เวลา 1 ภาคการศึกษา
มีรายละเอียดลึกซึ้งมากกว่า
มีลักษณะเช่นเดียวกับรายงาน
1. รายงานวิชาการ (Reports)
ทำเป็นกลุ่มหรือเป็นรายบุคคล
ผู้ทำรายงานอาจเลือกหัวข้อที่สนใจของหรือผู้สอนเป็นผู้กำหนดให้
ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเพื่อเสริมเนื้อหาที่เรียนในรายวิชาใดรายวิชาหนึ่งในแต่ละภาคการศึกษา
ศึกษาค้นคว้าและนำมาเรียบรียงอย่างมีระบบ

ประโยชน์ของการทำรายงาน

เพิ่มพูนทักษะในการเขียนรายงานวิชาการ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการสร้างสรรค์ผลงานวิชาการอื่นๆต่อไป
ทำให้เกิดการรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล และสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหา
ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริง รวมทั้งข้อบกพร่อง
ทำให้มีพัฒนาการทางวิชาการในสาขาวิชาต่างๆ
ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และข้อเท็จจริงใหม่ๆ

ขั้นตอนการทำรายงาน

เรียบเรียงและนำเสนอรายงาน
ประเมิน วิเคราะห์ และสังเคราะห์สารสนเทศ
สืบค้นสารสนเทศในระบบมือ/ใช้ IT เป็นเครื่องมือ
เลือกแหล่งและทรัพยากรสารสนเทศ
คิดคำสำคัญ/คำค้น
วางโครงร่างของเนื้อหา
กำหนดชื่อเรื่อง

ส่วนประกอบของรายงาน

ภาคผนวก (Appendix)
ไม่จำเป็นต้องมีในรายงานทุกฉบับ ส่วนใหญ่จะแนบตัวอย่างต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำรายงานนั้น

code หรือขั้นตอนต่างๆในการทำ project

ตัวอย่างแบบสอบถาม/แบบสำรวจ/แบบสัมภาษณ์ หรือแบบฟอร์มต่างๆ เป็นต้น

ตัวอย่างแบบฝึกหัด

บรรณานุกรม/เอกสารอ้างอิง (Biliography/ reference)
เรียงตามตัวอักษร ก-ฮ หรือ A-Z ภาษาไทยมาก่อนภาษาอังกฤษ
รายชื่อเอกสารดังกล่าวอาจมาจาก

Internet

ฐานข้อมูล (Detabases)

หนังสือ (Books)

บทความ (Article)

เป็นรายชื่อเอกสารที่นำมาเขียนรายงานทั้งหมด
เนื้อหา (Content)
ตรวจสอบคำผิด/ ขนาดตัวอักษร/รูปแบบตัวอักษร
แบ่งย่อหน้าห้เหมาะสม
การขึ้นหัวข้อใหม่ควรทำหัวข้อให้ชัดเจน แต่ต่างจากหัวข้อย่อยอื่นๆ
สารบัญ/สารบาญ (Table of content)
สารบัญตาราง

ทำเช่นเดียวกับสารบัญภาพ

สารบัญภาพ

จะนับภาพแรก ต่อเนื่องจนถึงภาพสุดท้ายในรายงานนั้น

บอกภาพทุกภาพที่ปรากฏในรายงานว่าอยู่หน้าไหนบ้าง

สารบัญเนื้อหา

มีหัวข้อหลักๆ ที่สำคัญๆของแต่ละบทปรากฏด้วย

เริ่มนับตั้งแต่หน้าแรกของเนื้อหา

กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement)
ป.โท/ป.เอก

ส่วนใหญ่พบในรายงานการวิจัย/วิทยานิพนธ์

ขอบคุณ

เป็นหน้าที่ใช้กล่าวขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุน ผู้ที่ให้ข้อมูลต่างๆตลอดจนผู้ที่เป็นกำลังใจในการรายงานชิ้นนั้นๆ

คำนำ (Preface)
ในตอนท้ายจะลงชื่อผู้จัดทำ และวันที่ที่เขียน คำนำ
ส่วนใหญ่มี 2 ย่อหน้า (ย่อหน้าที่ 2 จะกล่าวความคาดหวังในการทำรายงาน)
อาจจะบอกเนื้อหา เป็นตอน/บท อย่างคร่าวๆ
บอกขอบเขตและวัตถุประสงค์ของการจัดทำ
หน้าปก (Cover)
ปีการศึกษาที่ทำ
ชื่อสถาบันการศึกษา
ชื่อสำนักวิชา
ชื่อวิชา
ชื่อ-สกุล และเลขรหัส
ชื่อรายงาน

ความหมายการเขียนรายงานทางวิชาการ

อาจจะเขียนขึ้นเพื่อประกอบการศึกษาค้นคว้าสำหรับวิชาใด วิชาหนึ่ง
สิ่งพิมพ์ที่เรียบเรียงขึ้นอย่างมีระบบระเบียบ จากการศึกษาค้นคว้า การทดลอง การสังเกตการณ์ การสำรวจ การสัมภาษณ์ เป็นต้น