カテゴリー 全て - เครือข่าย - คอมพิวเตอร์ - ข้อมูล

によって Aim Jubpoi 6年前.

597

unit6

unit6

รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่ายและ ระบบเครือข่ายท้องถิ่น (LAN)

ลักษณะการเชื่อมโยงเครือข่าย

แบบจุดต่อจุด

ไม่เหมาะกับการส่งข้อมูลครั้งละมากๆ

หากสายส่งข้อมูลขาดจะส่งผลกระทบต่อเครือข่าย

ต้องมีกลไกควบคุมการส่งข้อมูล

เป็นการเชื่อมโยงเครือข่ายที่ใช้เส้นทาง หรือลิงค์เพื่อการสื่อสารร่วมกัน

สามารถเพิ่มโหนดได้ทันที

แบบหลายจุดต่อจุด

จำนวนโหนดมากต้องใช้สายมากขึ้น

ไม่เหมาะกับเครือข่ายขนาดใหญ่

เป็นการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เท่านั้น

ความเร็วสูง

มีความปลอดภัยในข้อมูล

รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่าย(topology)

โทโปโลยีแบบวงแหวน (Ring Topology)

เสียเวลาจากการที่รีพีตเตอร์(Repeater) จะต้องทำการตรวจสอบตำแหน่งปลายทางของข้อมูลทุกข้อมูล

ถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหายข้อมูลจะไม่สามารถส่งผ่านไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปได้

เป็นรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทั้งเครื่องที่เป็นผู้ให้บริการ( Server) และ เครื่องที่เป็นผู้ขอใช้บริการ(Client) ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม ข้อมูลข่าวสารที่ส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ในเครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน

ส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน

ไม่มีการชนกันของสัญญาณ

ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้หลายๆ เครื่องพร้อมๆ กัน

โทโปโลยีแบบเมช (Mesh Topology)

มีข้อจำกัดในการนำไปต่อกับโทโปโลยีอื่น ๆ

ต้องใช้สายเคเบิลจ านวนมากในการต่อ

ยากต่อการติดตั้ง

เป็นรูปแบบที่ถือว่าป้องกันการผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุดมีการทำงานโดยเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีช่องสัญญาณจำนวนมาก เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ทุกเครื่อง

ตรวจสอบความถูกต้องได้ง่าย

มีความปลอดภัยสูง

ถ้ามีสายเส้นหนึ่งเส้นใดเสียหาย จะไม่ส่งผลต่อระบบ

ลดปัญหาการจราจรภายในเครือข่าย

โทโปโลยีแบบบัส (Bus Topology)

ตรวจสอบจุดเสียค่อนข้างยาก

หากสายแกนหลักขาด เครือข่ายทั้งระบบจะหยุดการทำงาน

แต่ละโหนดที่เชื่อมต่อบนเครือข่ายจะต้องอยู่ห่างกันตามข้อกำหนด

เป็นรูปแบบที่คอมพิวเตอร์จะถูกเชื่อมต่อกันโดยผ่านสายสัญญาณแกนหลัก ที่เรียกว่าบัส (BUS) หรือ แบ็คโบน (Backbone)คือ สายรับส่งสัญญาณข้อมูลหลัก
ใช้เป็นทางเดินข้อมูลของทุกเครื่องภายในระบบเครือข่าย และจะมีสายแยกย่อยออกไปในแต่ละจุด เพื่อเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ

มีรูปแบบโครงสร้างไม่ซับซ้อน

การเพิ่มโหนดสามารถเพิ่มเข้ากับสายแกนหลักได้ทันที

ประหยัดสายส่งข้อมูล

โทโปโลยีแบบดาว (Star Topology)
ข้อเสีย

สิ้นเปลืองสายเคเบิล

พอร์ตเชื่อมต่อบนฮับมีจำนวนจำกัด

หากอุปกรณ์ฮับเสียหาย เครือข่ายจะหยุดทำงานทันที

โทโปโลยีแบบดาว (Star Topology) เป็นรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งที่เรียกว่า ฮับ (HUB)
ข้อดี

มีความคงทนสูงกว่าแบบบัส

การวิเคราะห์จุดเสียบนเครือข่ายทำได้ง่ายกว่า

ระบบเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Networks: LAN)

ไอบีเอ็มโทเคนริง (Token Ring)
ภายในวงแหวนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงโหนดปลายทางที่ต้องการ
ในช่วงเวลาหนึ่งจะมีเพียงโหนดเดียวที่สามารถส่งข้อมูลในขณะนั้น นั่นก็คือโหนดที่ครอบครองโทเค็น โดยโทเค็นจะไปพร้อมกับข้อมูลที่ส่งไปยังโหนดภายในวงแหวน หากโหนดใดได้รับข้อมูลพร้อมรหัสโทเค็น แล้วตรวจสอบพบว่าไม่ใช่ข้อมูลที่ส่งมายังตน ก็จะส่งทอดไปยังโหนดถัดไป
ไม่ก่อให้เกิดการชนกันของกลุ่มข้อมูลเลย
อีเทอร์เน็ต (Ethernet)
10Base2

ใช้เทอร์มิเนเตอร์ที่มีความต้านทานทางไฟฟ้า 50 โอห์ม

ใช้การ์ดเครือข่ายที่มีซอกเก็ตแบบ BNC

ภายในหนึ่งเซกเมนต์เชื่อมต่อโหนดได้ไม่เกิน 30 เครื่อง และหากใช้รีพีตเตอร์เพื่อเพิ่มระยะทาง ก็จะสามารถขยายได้สูงสุด 5 เซกเมนต์ รวมระยะทางประมาณ 1,000 เมตร

แต่ละโหนดที่ติดตั้งต้องห่างกันอย่างน้อย 0.5 เมตร

ระยะไกลสุดในการเชื่อมต่อหนึ่งเซกเมนต์คือ 185 เมตร

ใช้สายโคแอกเชียลแบบบาง รหัส RG-58 A/U

10Base5

ใช้เทอร์มิเนเตอร์แบบ N-Series ที่มีความต้านทานทางไฟฟ้า 50 โอห์ม

ภายในหนึ่งเซกเมนต์ เชื่อมต่อโหนดได้ไม่เกิน 100 เครื่อง และหากใช้รีพีตเตอร์เพื่อเพิ่มระยะทาง ก็จะสามารถขยายได้สูงสุด 5 เซกเมนต์ รวมเป็นระยะทาง 2,500 เมตร

Subtopic

ระยะไกลสุดในการเชื่อมโยงต่อหนึ่งเซกเมนต์คือ 500 เมตร

ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 เมกะบิตต่อวินาที

ใช้สายโคแอกเชียลแบบหนา รหัส RJ-8

แต่ละโหนดที่ติดตั้งบนสาย ต้องห่างกัน 2.5 เมตร

ใช้การ์ดเครือข่ายที่มีซ็อกเก็ตแบบ AUI

10BaseT

ส่งข้อมูลแบบเบสแบนด์

ความเร็วในการส่งข้อมูล 10 เมกกะบิตต่อวินาที ส่งข้อมูลแบบเบสแบนด์

ใช้สายเคเบิลชนิดยุทีพี รหัส CAT-3 หรือ CAT-5

มีอุปกรณ์ฮับเป็นศูนย์กลางรับส่งข้อมูลบนเครือข่าย

ระยะสูงสุดในการเชื่อมโยงต่อหนึ่งเซกเมนต์ หรือจากฮับไปยังโหนดยาวได้ไม่เกิน 100 เมตร

ภายในหนึ่งเซกเมนต์เชื่อมต่อโหนดได้หลายร้อยเครื่อง

ใช้การ์ดเครือข่ายที่มีซอกเก็ตแบบ RJ-45

เอฟดีดีไอ (Fiber Distributed Data Interface: FDDI)
วงแหวนทุติยภูมิ (Secondary Ring)

วงแหวนสำรองที่อยู่ด้านในโทเค็นที่อยู่วงแหวนด้านในจะวิ่งในทิศทางตรงกันข้ามกับวงแหวนด้านนอก โดยวงแหวนทุติยภูมิจะถูกใช้งานเมื่อวงแหวนปฐมภูมิเกิดปัญหา

วงแหวนปฐมภูมิ (Primary Ring)

วงแหวนหลักด้านนอก ซึ่งเป็นสายส่งข้อมูลหลักภายในเครือข่าย โดยรหัสโทเค็นจะวิ่งรอบวงแหวนทิศทางใดทิศทางหนึ่ง

ไวเลสแลน (Wireless LAN)
เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ มีความคล่องตัวสูง คลื่นวิทยุมีคุณสมบัติในการทะลุทะลวงสิ่งกีดขวาง
เป็นระบบที่ใช้การรับส่งข้อมูลผ่านทางคลื่นวิทยุโดยส่งผ่านทางอากาศ ไม่ต้องใช้สายสัญญาณใดๆ เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการความสะดวกในการเคลื่อนย้ายคอมพิวเตอร์ มีความคล่องตัวสูง คลื่นวิทยุมีคุณสมบัติในการทะลุทะลวงสิ่งกีดขวาง
มาตรฐาน IEEE

มาตรฐาน 802.11g

รับส่งข้อมูลสูงถึง 54 เมกกะบิตต่อวินาทีใช้คลื่นความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ (GHz)

มาตรฐาน 802.11b

รับส่งข้อมูลได้สูงถึง 11 เมกกะบิตต่อวินาที ใช้คลื่นความถี่ 2.4 กิกะเฮิรตซ์ (GHz)

มาตรฐาน 802.11a

รับส่งข้อมูลได้สูงถึง 54 เมกกะบิตต่อวินาทีใช้คลื่นความถี่ที่ 5 กิกะเฮิรตซ์