da Lixaa 8369 manca 1 mese
92
Più simili a questo
ความเร็วอากาศร้อนสูง=เร็ว
เพิ่มความสามารถในการรับไอน้ำ
วัตถุอุณหภูมิสูงขึ้น
มีผลต่อการทำแห้งช่วงลดอัตราการทำแห้ง
มีผลต่อการทำแห้งช่วงคงที่
น้อย=เร็ว
วัตถุประกอบด้วยตัวทำละลายสูง
อัตราการเคลื่อนที่น้ำช้าลง (ความหนืด)
ส่งผลต่อการกำจัดน้ำ
พื้นที่ขนาดเล็ก
ความชื้นเคลื่อนที่เร็ว
ช่วงอัตราการทำแห้งลดลง
อัตราการระเหยน้ำสูง
ช่วงพื้นที่มีพื้นผิวมาก
ช่วงลช่วงคงที่และช่วงลดอัตราการทำแห้งลดลง
อุณหภูมิสูง
การเคลื่อนที่น้ำผิวหน้าต่ำกว่าการเคลื่อนที่ของน้ำไปอากาศ
ชั้นระเหยจะเลื่อนลงในเนื้อของวัตถุ
อุณหภูมิทางวัตถุจะใกล้ลมร้อน
อุณหภูมิผิวหน้าสูง
อัตราลดลง การระเหย : พื้นที่ : เวลา
*ความร้อนที่ะเอาไปใช้ับการระเหยทั้งหมด*
น้ำมากเคลื่อนที่ไปผิวหน้าทันน้ำที่ระเหยไป
อัตราคงที่ การระเหย : พื้นที่ : เวลา
จนถึงควมาชื้นที่จุดวิกฤต
อุณหภููมิคงที่
วัตถุผิวหน้าเปียก
ได้รับความร้อนสูงประมาณนึง
น้ำระเหยเป็นไอ
อุณหภูมิเริ่มคงที่
เพิ่มอัตราการทำแห้ง
แผ่นฟิล์มหนา
อัตราการระเหยลดลง
อัตรากาารทำแห้งน้อยลง
ลดอัตราการทำแห้ง
การเกิดแรงแบบเกรเดียนต์
จากวัตถุ>>>ลมร้อน
(ความเข้มข้น)
(วัตถุมีรูพรุน)
ดเป็นแรงแบบเกรเดียนต์
3.การทำแห้ง ระยะที่2 (secondary drying)
น้ำที่อยู่ในพันธะสารอื่นๆ
ที่ไม่ตกผลึกไม่แข็งตัวกับน้ำอิสระ
Desorption
ต่อจากระยะที่ 1
อุณหภูมิสูงขึ้น
เพราะถ่ายเทความร้อนแฝงให้น้ำแข็งหมดแล้ว
ความร้อนถ่ายเทสู่ product โดยตรง
2.การทำแห้ง ระยะที่1 (primary drying)
ถ่ายเทความร้อนแฝงให้กับการระเหิดของชั้นผลึกน้ำแข็งระเหยออก
การระเหิด
1.การแช่เยือกแข็ง
แบบช้า
ช่องว่างระหวา่งเซลล์เบียด
เหมาะกับของเหลว
เกิดผลึกนาน ขนาดใหญ่
แบบเร็ว
น้ำระหว่างเซลล์แข็ง
เหมาะกับวัตถุชิ้นเล็ก
ผลึกเล็กโครงสร้างไม่เสียหาย
เปลืองพลังงาน
เปลืองเวลา
เครื่องมือราคาแพงสุด
มีรูมากเคลื่อนที่เร็ว
product เสียหายน้อย
หัวฉีด
จานหมุน
หมุนรอบตัวเอง
ฉีดออกทางูเล็กๆ
ทำให้สารเป็นละอองฝอย
ภาชนะทำแห้ง
ส่วนที่มีการถ่ายเทความร้อนกับละอองฝอยของสารละลาย
สัมผัสคความร้อน
เพิ่มพื้นที่การพาความร้อน
น้ำระเหยออกเร็ว
ผงแห้งถูกแยกออกโดยระบบไซโคลน
ตกลงขวดหรือภาชนะ
ไออกทางช่องลม
เคลื่อนที่ตลอดเวลา
ใช้ลมร้อนเป็นตัวพาให้แขวนลอย
ใช้กับของเหลวไม่ถูกทำลายด้วยความร้อน
ต้นทุนเชื้อเพลิงต่ำ
อัตราการระเหยสูง
splash
dip
top
ลูกกลิ้งคู่
ลูกกลิ้งเดี่ยว
ในลูกกลิ้งมีความดันสูญญาอากาศ
หมุนรอบตัวเองในแนวนอน
แผ่กระจายเป็นฟิล์มบางๆ
แนวขนานชั้นถาด/แนวดิ่งที่อากาศทะลุชั้นถาด
4.ความร้อนจากกระแสไฟฟ้า/ไมโครเวหสนามไฟฟ้าควมาถี่สูง
ความร้อนวัตถุเปียก
3.การแผ่รังสี
ลมร้อนพื้นผิวที่ร้อน
2.การพาความร้อน
ลมร้อนที่สัมผัสกับผิว
1.การนำความร้อน
จากการสัมผัส
เรียกว่า hycroscopic
มีการดูดซับน้ำและอุ้มน้ำในตัว
ความชื้นสัมพัทธ์มาก= ความชื้นสารชีวภาพมาก
มากน้อยขึ้นอยู่กับความชื้นสัมพันธ์ของอากาศ
ด้วยแรงแคปปิลารี่
ขึ้นอยู่กับชนิดของวัตถุ
ใกล้เคียงกับความดันไอน้ำทั้งหมด
ความจุความร้อน
เซลล์หนาแน่น
ความหนืด