ความรู้พื้นฐานของการวิจัย
(พื้นฐานการวิจัย)
ตัวแปรและสมมติฐาน
สมมติฐาน
คำตอบที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอย่างสมเหตุสมผลต่อปัญหาที่ศึกษา
ลักษณะของสมมติฐานที่ดี
ตอบคำถามเพียงข้อเดียวหรือประเด็นเดียว
มีขอบเขตพอเหมาะไม่แคบหรือกว้างไป
มีอำนาจในการพยากรณ์
สามารถตรวจสอบได้
ต้องสมเหตุสมผลตามทฤษฎีและความรู้ที่ได้จากการศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
เขียนด้วยถ้อยคำที่อ่านเข้าใจง่ายและมีความชัดเจนภายในตัวของมันเอง
สอดคล้องกับสภาพที่เป็นจริง
อธิบายหรือตอบคำถามได้ ครอบคลุมปัญหาทุกด้าน
สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของการวิจัย
แหล่งที่มาของสมมติฐาน
การสังเกตพฤติกรรม
การได้ร่วมอภิปรายเกี่ยวกับปัญหาที่จะศึกษากับบุคคลอื่น ๆ
ประสบการณ์เบื้องต้นของผู้วิจัย
การสนทนากับผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ
การศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
ประเภทของสมมติฐาน
สมมติฐานทางวิจัย (research hypothesis)
สมมติฐานแบบไม่มีทิศทาง (Nondirectional hypothesis)
ความต้องการใช้เครื่องไฟฟ้าของบุคคลในชุมชนชนบทและชุมชนเมืองแตกต่างกัน
สภาพแวดล้อมทางกายภาพมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลในการทำงาน
สมมติฐานแบบมีทิศทาง (directional hypothesis)
ค่าตอบแทนสวัสดิการมีความสัมพันธ์กับขวัญและกำลังใจในการทำงานทางบวก
การใช้เทคโนโลยีทันสมัยมีความสัมพันธ์กับประสิทธิผลและ ประสิทธิภาพในการทำงานทางบวก
ตัวแปร
การนิยามตัวแปรและการหาข้อมูลหรือข้อเท็จจริง
การนิยามตัวแปร
นิยามในลักษณะปฏิบัติการ (Operational definition)
เกณฑ์ที่เป็นเครื่องชี้บ่งว่าพฤติกรรมที่แสดงออกมานั้น มีความหมาย เช่นใด เป็นที่ต้องการหรือไม่ต้องการ
สถานการณ์ หรือสิ่งเร้าที่เหมาะสม
พฤติกรรมที่แสดงออกเนื่องจากตัวแปรชนิดนี้มักเป็นคุณลักษณะแฝง ไม่สามารถสังเกตได้
คุณลักษณะหรือองค์ประกอบของตัวแปร
การนิยามในลักษณะของการบอกองค์ประกอบ (Constitutive definition)
อาศัยข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ที่ได้จากการเก็บรวบรวมข้อมูล (empirical approach)
ชนิดของตัวแปร
ตัวแปรสอดแทรก (intervening variable)
แปรแทรกซ้อนหรืออาจเรียกว่าตัวแปรเกิน (extraneous variable)
ตัวแปรตาม (dependent variable)
ตัวแปรที่เป็นผลเมื่อตัวแปรอิสระเป็นเหตุ
ตัวแปรอิสระ (independent variable)
ตัวแปรที่เกิดขึ้นก่อนและ เป็นตัวเหตุทำให้เกิดผลตามมา
ลักษณะของตัวแปร
ตัวแปรนามธรรม (Construct)
แรงจูงใจ
ความเป็นผู้นำ
ทัศนคติ
ความเกรงใจ
ความ
วิตกกังวล
ตัวแปรรูปธรรม (Concept)
ระดับการศึกษา
อาชีพ
เชื้อชาติ
ความสูง
อายุ
เพศ
ความหมาย
คุณสมบัติหรือคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาหาความจริง
ประเภทของการวิจัย
จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย(Methodology)
การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์(Historical Research)
การวิจัยเชิงบรรยาย(Descriptive Research)
การวิจัยเชิงสำรวจ(Survey Research)
การศึกษาความสัมพันธ์ (Interrelationship Studies)
การศึกษาพัฒนาการ(Developmental Studies)
การศึกษาความเจริญงอกงาม(Growth Studies)
การศึกษาภาคตัดขวาง(Cross-section Approach)
การศึกษาระยะยาว(Longitudinal Approach)
การศึกษาแนวโน้ม(Trend Studies)
จำแนกตามการจัดกระทำ
การวิจัยกึ่งทดลอง(Quasi Experimental Research)
การวิจัยแบบทดลองที่แท้จริง(True Experimental Research)
การวิจัยแบบทดลองเบื้องต้น(Pre Experimental Research)
จำแนกตามลักษณะ(ความลึก/ความกว้าง)ของข้อมูล
การวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research)
การวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research)
จำแนกประเภทการวิจัยตามเป้าหมายหลักของการวิจัย
การวิจัยที่มุ่งแสวงหาความเป็นเหตุเป็นผลระหว่างตัวแปร(Causal-Oriented
Research)
การวิจัยที่มุ่งอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร(Correlation-Oriented
Research)
การวิจัยที่มุ่งบรรยายตัวแปร(Descriptive-Oriented Research)
จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย
การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ์(Basic Research or Pure Research)
การวิจัยการนำไปใช้(Applied Research)
จำแนกตามเวลาที่ใช้ในการทำวิจัย
การวิจัยแบบต่อเนื่อง (Longitudinal Research)
การวิจัยแบบตัดขวาง/ระยะสั้น(Cross-section Research)
จำแนกตามลักษณะของวิชา หรือศาสตร์
การวิจัยทางสังคมศาสตร์(Social Research)
การวิจัยทางวิทยาศาสตร์(Scientific Research)
การจัดกระทำข้อมูล
การสรุปผลการวิจัยและเขียนรายงาน
ผลการวิจัย สรุปผลการวิจัย อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ
วิธีการดำเนินการวิจัย
วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นตอนการดำเนินการรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูล
วิธีการสุ่ม
ตัวอย่าง
กลุ่มตัวอย่าง
กลุ่มประชากร
การตรวจสอบเอกสาร
บทนำ
Output
นำผลจากการขั้นตอนที่ได้จากขั้น Processing มาเขียนเป็นรายงาน
Processing
การจัดแบ่งประเภทของข้อมูล
การจัดเตรียมข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์
การถ่ายข้อมูลลงคอมพิวเตอร์
การลงรหัสข้อมูล
การบันทึกรอยคะแนน
คุณลักษณะของการวิจัย
มีการกำหนดจุดมุ่งหมายของการวิจัย ในแต่ละครั้งอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไร ที่ผู้วิจัยจะใช้เป็นแนวทางในการแสวงหาคำตอบ เพื่อใช้อธิบาย พยากรณ์ และควบคุมปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ๆ
การวิจัย เป็นวิธีการ ๆ หนึ่งที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ความ
จริง ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีระบบและขั้นตอนชัดเจน
ธรรมชาติของการวิจัย
การวิจัยต้องใช้ศักยภาพของผู้วิจัย
ต้องดำเนินการโดยที่ผู้วิจัยที่มีความรู้ความสามารถ และมีประสบการณ์ในการวิจัย
การวิจัยมีวิธีการที่หลากหลาย
มีวิธีการในการดำเนินการวิจัยที่ให้
ผู้วิจัยได้เลือกใช้อย่างหลายหลายวิธีการ
การวิจัยต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม
การวิจัยในแต่ละครั้งจะต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่เพื่อตอบคำถามตามวัตถุประสงค์ของการวิจัยนั้น ๆ
การวิจัยเป็นการแก้ปัญหา
เริ่มต้นด้วยปัญหาที่เกี่ยวพันกันระหว่างปัญหา(ตัวแปรตาม) กับวิธีการแก้ปัญหา(ตัวแปรต้น)
การวิจัยมีเหตุผล
มีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบ ได้อย่าง
ชัดเจน
การวิจัยมีความเชื่อมั่น
ดำเนินการซ้ำกี่ครั้งด้วยการดำเนินการวิจัยแบบเดิม ๆ ก็จะได้ผลการวิจัย
ที่คล้ายคลึงกัน
การวิจัยมีความเที่ยงตรง
ความเที่ยงตรงภายนอก ที่จะสามารถนำผลการวิจัยที่ได้ไปใช้ในสถานการณ์ที่มีความคล้ายคลึงกันได้อย่างครอบคลุม
ความเที่ยงตรงภายใน ที่สามารถระบุได้ว่าผลการวิจัยที่ได้เกิดจากตัวแปรที่ศึกษา
เท่านั้น หรือผลการวิจัยสามารถใช้อธิบายปรากฏการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การวิจัยมีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน
บรรยาย อธิบาย พยากรณ์ และควบคุม
การวิจัยเป็นกระบวนการเชิงประจักษ์
เป็นกระบวนการแสวงหาคำตอบที่ต้องใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์ที่มีความถูกต้อง เชื่อถือได้ และมีความชัดเจนที่สามารถตรวจสอบได้
การวิจัยเป็นการดำเนินการที่เป็นระบบ
ดำเนินการตามขั้นตอน
วิธีการทางวิทยาศาสตร์
แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย
Probabilistic Law of Nature
ในปรากฏการณ์ ใดๆนั้น ความรู้ความจริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะเป็นผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ ที่
มีความน่าจะเป็นในการเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง
Principle Component of Nature
ตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเดี่ยว แต่จะมีตัวแปร
อื่นๆ ที่มักจะมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ ๆ
Associative Law of Nature
การเกิดปรากฏการณ์ใด ๆ ที่แตกต่างกันนั้น จะมีความมากน้อยของตัวแปรที่เป็นสาเหตุและตัวแปร
ผลที่แตกต่างกัน
Systematic Law of Nature
ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามกฎของเหตุและผลของธรรมชาติจะมีรูปแบบของความสัมพันธ์ของ
ตัวแปรที่ค่อนข้างจะชัดเจน
Deterministic Law of Nature
ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถแสวงหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นั้นได้เสมอ ๆ
การเขียนคำถามวิจัย
นบ่งบอกให้ทราบถึงประเด็นที่ผู้วิจัยต้องการทราบ
ข้อความที่เป็นประโยคคำถาม ซึ่งแสดงให้เห็นสิ่งที่ผู้วิจัย
ต้องการค้นหาค าตอบ
เป็นจุดเริ่มต้นในการทำวิจัยที่มีความสำคัญช่วยเป็นแนวทางในการทำวิจัย
ขั้นตอนในการวิจัย
การเขียนเค้าโครงการวิจัย
ตัวแปรต่าง ๆ ที่วิจัย
ขอบเขตของการวิจัย
วัตถุประสงค์
ภูมิหลังหรือที่มาของปัญหา
ชื่องานวิจัย
การกำหนดสมมุติฐาน
การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
การกำหนดขอบเขตของปัญหา
มองเห็นภาพอย่างแจ่มชัดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
รู้ถึงเทคนิคต่างๆ ที่เหมาะสมในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง
วางแผนรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม
เลือกหัวข้อปัญหา
Meaning of Research
เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้ที่มีระบบ มีขั้นตอนที่ชัดเจนปราศจากอคติส่วนตัว สามารถตรวจสอบได้ที่ผู้วิจัยนำมาใช้ศึกษา ค้นคว้าข้อเท็จจริง เพื่อนำไปใช้อธิบายปรากฏการณ์ ทางสังคม หรือพัฒนาเป็นกฎ ทฤษฏี หรือนำไปใช้ในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง แม่นยำและเชื่อถือได้
จรรยาบรรณของนักวิจัย
มีความรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ
เคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น
นำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบ
มีอิสระทางความคิด โดยปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทำวิจัย
เคารพศักดิ์ศรีและสิทธิของมนุษย์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัย
มีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ศึกษาวิจัย
มีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัย
ตระหนักถึงพันธกรณีในการทำงานวิจัย ตามข้อตกลงที่ทำไว้กับหน่วยงานที่สนับสนุนการวิจัย และต่อหน่วยงานที่ตนสังกัด
ซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในทางวิชาการและการจัดการ
จุดมุ่งหมายของการวิจัย
เก็บรวบรวมข้อมูล หรือปรากฏการณ์ที่สังเกตได้มาใช้ในการสรุปผล
การวิจัยเป็นการสรุปผล หลักเกณฑ์ และทฤษฏีที่ใช้ในการคาดคะเนเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
เป้าหมายของการวิจัย
มุ่งหาคำตอบเพื่อนมาใช้แก้ปัญหา