การศึกษาทักษะการเสริปหลังมือกีฬาแบดมินตัน

Więcej takich

การเปรียบเทียบการฝึกทักษะการตีลูกโด่งหลัง โดยใช้อุปกรณ์ริบบิ้นกับการฝึกแบบปกติในกีฬาแบดมินตัน

przez nattasit sripao

พฤติกรรมการเลือกซื้อสิ้นค้าภายในหอพักของนักศึกษาชั้นปีที่1 สาขาอุตสาหกรรมการบริการ

przez ชนนิกานต์ สะอาดใส

การเปรียบเทียบการฝึกทักษะการตีลูกโด่งหลัง โดยใช้อุปกรณ์ริบบิ้นกับการฝึกแบบปกติในกีฬาแบดมินตัน

przez nattasit sripao

Club house social media

przez บุศรา กิ้มลั่น

การศึกษาทักษะการเสริปหลังมือกีฬาแบดมินตัน

สมมติฐานในการวิจัย

ความสามารถในการเสริฟลูกแบดมินตันของกลุ่มควบคุมและกลุ่มทดลองดีขึ้นกว่าเดิม แต่ทั้ง 2 กลุ่มภายหลังการฝึกไม่แตกต่างกัน

วัตุประสงค์ของการวิจัย

เพื่อศึกษาผลการใช้กิจกรรมการพัฒนาทักษะการเสริฟหลังมือกีฬาแบดมินตัน

เพื่อพัฒนาบุคลิกท่าทางการเล่นกีฬาแบดมินตันของนักศึกษา

เพื่อให้การศึกษาการพัฒนาทักษะของกีฬาแบดมินตัน

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

ทราบผลการใช้กิจกรรมการพัฒนาทักษะการเล่นกีฬาแบดมินตันของนักศึกษาประกาศยนีบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

บุคลิกท่าทางการเล่นแบดมินตันในการเสริฟแบดมินตันของนักศึกษาระดับประกาศยนีบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 สาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ

ทราบว่านักศึกษารัดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 1 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจการพัฒนาทักษะของแบดมินตัน(การเล่นลูกหลังมือ)

หลักในการฝึก

แบบฝึกควรมีมาตรฐานจัดให้เหมาะสมให้ตรงตามความจ้องการของผู้เรียน

การฝึกให้ผลดีต้องเป็นรายบุคคล

ในการฝึกไม่ควรให้ซ่ำซากน่าเบื่อ ควรจะฝึกเพื่อให้เกิดทักษะหรือความชำนาญใช้เวลาในการฝึกทักษะพอสมควร

การทำแบบฝึกนั้น ควรฝึกเฉพาะเรื่องและให้จบเรื่องนั้นๆก่อนจึงจะฝึกเรื่องต่อไป

การฝึกควรฝึกให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน

ฝึกทักษะตามความต้องการของผู้เรียน ให้ผู้เรียนที่เห็นคุณค่าและประโยชน์ในการฝึก

ในการฝึกทักษะควรทำหลังจากนักเรียนมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องต่างๆแล้ว

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ความเปลี่ยนแปลงและความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นส่วนสำคัญให้คนในสังคมต้องปรับปรุงและพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการศึกษาต้องปรับปรุงเพื่อให้คนมีความรู้ความสามารถให้สอดคล้องกับสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นด้วยเหตุนี้การศึกษาจึงได้พยายามปรับปรุงหลักสูตรในระดับต่างๆให้ได้มาตรฐานเพื่อเป็นหลักในการนำไปใช้แก้ปัญหาและให้สอดคล้องกับการพัฒนาทักษะของผู้เรียนซึ่งวิชาพลศึกษาเพื่อพัฒนาสุขภาพเป็นวิชาหนึ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับมนุษย์มากโดยเฉพาะในส่วนที่จะนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินการชีวิตเพราะวิชาพลศึักษาเพื่อพัฒนาสุขภาพ เป็นวิชาที่สร้างสรรค์จิตใจของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับความคิดตลอดจนกระบวนการทางร่างกาย ตลอดจนทำให้ผู้เรียนมีความเจริญเติบโตทั้งกายและสติปัญญา

ขอบแขตการวิจัย

ในกาวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ใช้ประชากรเป็นนักศึกษาระดับ