UI (User Interface) หน้าผู้ใช้งาน
UI ต้องสามารถตอบ 3 คำถาม
1) ด้านการมองเห็น (Visual)
UI มีหน้าตาอย่างไร สวยงามหรือไม่ อย่างไร
2) ด้านการรับรู้และความเข้าใจ (Cognitive)
UI สามารถทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจว่า UI สื่อถึงอะไรได้หรือไม่ อย่างไร
3) How it works ? (Interactive)
UI สามารถทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจวิธีการปฏิสัมพันธ์กับ UI หรือไม่ อย่างไร
การโต้ตอบของ UI จะมี 3 ประเภท
1) การโต้ตอบด้วยภาษามนุษย์ (Natural Language Interaction: NLI)
เป็นการโต้ตอบโดยผู้ใช้งานจะใช้ภาษามนุษย์ หรือภาษาธรรมชาติส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ในเ ท ค โ น โ ล ยี ด้ า น ปั ญ ญ า ป ระ ดิ ษ ฐ์ ( ArtificialIntelligent: AI)
ข้อดี
1) ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
2) ผู้ใช้งานทุกประเภทสามารถใช้งานได้
ข้อเสีย
1) การพัฒนาต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง
2) การโต้ตอบด้วยคำสั่ง (Command Language Interaction: CLI)
การโต้ตอบด้วยคำสั่ง หรือ Command เป็นการโต้ตอบโดยผู้ใช้งานจะต้องใช้คำสั่งที่เป็นตัวอักษร (String) ผ่านคีย์บอร์ดส าหรับเป็น input เข้าสู่ระบบและระบบจะแสดง output ผ่านหน้าจอ
ข้อดี
1) ประมวลผลเร็ว
2) ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
ข้อเสีย
1) ต้องใช้ค าสั่งเฉพาะ
2) ภาพลักษณ์ไม่ดึงดูดผู้ใช้งาน
3) การโต้ตอบด้วยกราฟิก (Graphics User Interfaces: GUI)
การโต้ตอบด้วยกราฟิก เป็นการโต้ตอบที่ผู้ใช้งานจะมีปฏิสัมพันธ์กับวัตถุ(Objects) ที่สามารถมองเห็น ได้ยิน หรือสัมผัสได้
ข้อดี
1) ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
2) สวยงาม น่าใช้งาน
3) เป็นภาษาสากลที่เป็นเชิงสัญลักษณ์
ข้อเสีย
1) ออกแบบยาก
WEB USER INTERFACE
ส่วนติดต่อผู้ใช้งานส าหรับเว็บ เริ่มมีการใช้กราฟิก
มากขึ้นเรื่อย ๆWeb UI คือ การออกแบบการนำทาง(Navigation) การออกแบบ Web UI ที่ดีจะต้องออกแบบให้วัตถุแต่ละอย่างในหน้าเว็บนั้นเกิดความสมดุล ไม่ว่าจะเป็นเมนู เนื้อหา เอกสาร และกราฟิกอื่น ๆเป้าหมายของการออกแบบ Web UI คือการสร้างระดับชั้นของเมนูแต่ละ
เพจที่เป็นธรรมชาติตามความต้องการดูข้อมูลของผู้ใช้งานจริง ๆ
ความเหมาะสมในการใช้งาน User Interface นั้นจะต้องสามารถใช้งานได้ง่าย เเละสามารถเป็นมิตรกับผู้ใช้งานเเละความง่ายต่อการใช้งาน
ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ในทางคอมพิวเตอร์ นั้นโดยมากจะหมายถึง การแสดงภาพกราฟิก หรือข้อความ หรือเสียง ให้ผู้ใช้ได้รับทราบและช่วยในการควบคุมขั้นตอนการใช้งานของผู้ใช้ต่อโปรแกรมที่กำลังใช้งานอยู่ ผ่าน แป้นพิมพ์หรือคีย์บอร์ด หรือ เมาส์
ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งาน กล่าวคือสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว
สิ่งที่มีไว้ให้ผู้ใช้ใช้ในการกระทำกับระบบหรือสิ่งของต่างๆ ซึ่งอาจจะเป็นคอมพิวเตอร์ เครื่องจักร เครื่องกล อุปกรณ์ใช้ไฟฟ้าใดๆ หรือระบบที่มีความซับซ้อนอื่นๆ เพื่อให้สิ่งๆนั้นทำงานตามความต้องการของผู้ใช้
การใช้งานระบบใดๆที่มีความสลับซับซ้อน จะมีหลักการทำงานพื้นฐานอยู่ 3 ส่วนคือ ส่วนอินพุท (input) ส่วนการประมวล (process) และส่วนเอาต์พุต (output) ซึ่งส่วนการนำเข้าและส่วนแสดงผลลัพธ์เป็นส่วนที่ใช้ติดต่อกับผู้ใช้โดยตรงจึงเรียกว่า ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้
รถยนต์ จะมีพวงมาลัยและคันเร่งไว้ให้ผู้ขับสามารถใช้บังคับทิศทางและเร่งความเร็ว ซึ่งส่วนนี้คือส่วนของอินพุท ส่วนหน้าปัดบอกความเร็วหน้าปัดบอกน้ำมันคงเหลือคือส่วนของเอาต์พุต ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับได้รู้ถึงสถานะของรถยนต์ที่ตนเองขับขี่อยู่
ตัวอย่าง
ตัวอย่างของส่วนต่อประสานกับผู้ใช้เช่น เครื่องคิดเลข จะมีส่วนอินพุทคือแป้นตัวเลข 0-9 และเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ ผู้ใช้จะต้องกดหมายเลขที่ต้องการคำนวณผลผ่านแป้นตัวเลขนั้น และเมื่อเครื่องคิดเลขทำการประมวลผลเสร็จสิ้น ก็จะแสดงผลลัพธ์ออกมาบนหน้าจอ LED ซึ่งเป็นส่วนของเอาต์พุต
ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้สามารถจัดได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ได้แก่
ส่วนที่นำข้อมูลเข้า หรือส่วนสั่งงาน เรียกว่า อินพุต (input)
ส่วนที่ใช้แสดงผลลัพธ์ หรือส่วนที่ไว้รอคำสั่งจากผู้ใช้ เรียกว่า เอาต์พุต (output)
