da PLOY JINDARUT mancano 5 anni
1059
Più simili a questo
ทฤษฎีการมีกิจกรรมร่วมกัน (The Activity theory)
ยอมรับบาบาทหน้าที่ ของตัวเองที่เป็นอยู่
เป็นที่ปรึกษาให้ คนภายในครอบครัว
อารมณ์ดี
ยิ้มแย้ม แจ่มใส
ไม่มีความวิตกกังวล
ไม่มีความคิดที่หมกมุ่น เกี่ยวกับอดีต
มีความคิดที่สมกับวัย
เจ็บป่วยเล็กน้อยจะหายากินเอง
ไม่ค่อยออกกำลังกาย
ทานอาหารไม่ครบ 5 หมูบางมื้อ
ทฤษฎีความเสื่อมโทรม (Wear and tear theory) เกิดจากการที่กระดูกอ่อนซึ่งทำหน้าที่ปกป้องและดูดซับแรงกระแทกภายในข้อเข่ามีการสึกหรอและเสื่อมสภาพลง หากกระดูกอ่อนนี้เสียหายเป็นพื้นที่กว้าง กระดูกในข้อเข่าจะเสียดสีกันเอง ทำให้เกิดการอักเสบและมีอาการปวด ผู้สูงอายุจึงมีอาการปวดข้อเข่า
ผู้สูงอายุไม่สุขสบาย เนื่องจากปวดข้อเข่า ข้อมูลสนับสนุน S -ผู้สูงอายุบอกว่า “ปวดหัวเข่า” -ผู้สูงอายุบอกว่า “เวลาเดินจะปวด” O -จากการตรวจประเมินข้อเข่าเสื่อม ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม -จากการประเมินความปวดด้วย Pain score อยู่ที่ 4 คะแนน
เป้าหมาย -ผู้สูงอายุมีความสุขบาย เกณฑ์การประเมินผล -ผู้สูงอายุมีความปวดลดลง -คะแนนPain score ลดลงจากเดิม หรืออยู่ที่ 0 คือไม่ปวดเลย
กิจกรรมการพยาบาล -ประเมินความปวดด้วย Pain score เพื่อนำมาทำกิจกรรมทางกายพยาบาล -แนะนำผู้สูงอายุ เมื่อมีอาการปวดข้อเข่าให้ทายานวด เพื่อบรรเทาอาการปวดของข้อเข่า -แนะนำท่าให้ผู้สูงอายุ ลุง นั่ง เดินอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้การปวดข้อเข่าเป็นมากขึ้น -แนะนำท่าให้ผู้สูงอายุ ลุง นั่ง เดินอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้การปวดข้อเข่าเป็นมากขึ้น -แนะนำให้ผู้สูงอายุหลีกเลี่ยงการใช้ข้อเข่า เพื่อไม่ให้เกิดการปวดข้อเพิ่มมากขึ้น -การปรับเปลี่ยนท่าทางหรืออิริยาบถในชีวิตประจำวัน ลักษณะงานที่ทำ เพื่อลดการบาดเจ็บและแรงเค้นซ้ำๆ ต่อข้อเข่า -แนะนำให้ผู้สูงอายุไปพบแพทย์เมื่อมีอาการปวดมากขึ้น เพื่อเข้ารับการรักษาอาการปวด
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะข้อเข่าเสื่อม เนื่องจากกระดูกผิวข้อมีการเสื่อมตามอายุ ข้อมูลสนับสนุน S -ผู้สูงอายุบอกว่าปวดข้อเข่า -เจ็บที่กระดูกข้อเข่า O -จากการตรวจประเมินข้อเข่าเสื่อม ผู้ป่วยมีโอกาสที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม -จากการประเมินความปวดด้วย Pain score อยู่ที่ 4 คะแนน
เป้าหมาย -ผู้สูงอายุไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิด ภาวะข้อเข่าเสื่อม เกณฑ์การประเมินผล -การปวดข้อเข่าของผู้สูงอายุลดลง -ข้อเข่ามีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น -การประเมินความปวดด้วย Pain Score ลดลงจากเดิม หรือได้ 0 คือ ไม่ปวดเลย
กิจกรรมการพยาบาล -ประเมินการปวดข้อเข่าของผู้สูงอายุ เพื่อจะได้ให้การพยาบาลอย่างถูกวิธี -แนะนำผู้สูงอายุ เมื่อมีอาการปวดข้อเข่าให้ทายานวด เพื่อบรรเทาอาการปวดของข้อเข่า -แนะนำให้ผู้สูงอายุจำกัดการเดิน เพื่อลดอาการปวดของข้อเข่า -แนะนำท่าให้ผู้สูงอายุ ลุง นั่ง เดินอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้การปวดข้อเข่าเป็นมากขึ้น -การปรับเปลี่ยนท่าทางหรืออิริยาบถในชีวิตประจำวัน ลักษณะงานที่ทำ เพื่อลดการบาดเจ็บและแรงเค้นซ้ำๆต่อข้อเข่า -แนะนำหลีกเลี่ยงการนั่งคุกเข่า การนั่ง ขัดสมาธิ การนั่งพับเพียบ เพราะการนั่งในท่าที่งอเข่ามากๆ จะทำให้เพิ่มแรงดันภายในข้อเข่า และกระดูกที่งอกจากโรคข้อเข่าเสื่อมจะกดทับเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อเข่าจะทำ ให้มีอาการปวดมากขึ้น -แนะนำให้ผู้สูงอายุทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของข้อเข่าเพิ่มขึ้น -แนะนำให้ผู้ป่วยไปพบแพทย์กระดูกเมื่อมีการปวดข้อมากขึ้น เพื่อรักษาข้อเข่าไม่ให้ดีขึ้น
ทฤษฎีการสะสม (Accumulative theory) เกิดจากการรับประทานอาหารจำพวกไขมัน(มันหมู) ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในรูปต่างๆ และไม่ได้มีการเผาผลาญไขมันจึงทำให้ผู้สูงอายุรายนี้มีรูปร่างที่อ้วน
ผู้สูงอายุมีภาวะอ้วน เนื่องจากค่า BMI เกิน ข้อมูลสนับสนุน S -ผู้สูงอายุบอกว่าอ้วน O -ผู้สูงอายุมีลักษณะรูปร่างอ้วน -ค่า BMI ของผู้สูงอายุเท่ากับ 25.56 แปลผล อยู่ในเกณฑ์อ้วน -ไม่ออกกำลังกาย
เป้าหมาย -ผู้สูงอายุไม่อยู่ในภาวะอ้วน เกณฑ์การประเมินผล -ค่า BMI ลดลงจากเดิม -ค่า BMI อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (18.5-22.9 กก./ตร.เมตร) -ลักษณะรูปร่างผอมลงจากเดิม
กิจกรรมการพยาบาล -บอกให้ผู้สูงอายุทราบถึงโรคแทรกซ้อนที่จะตามมา เพื่อให้ผู้สูงอายุตะหนักถึงภาวะอ้วน -แนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายที่เหมาะสมกับวัย เพื่อป้องกันอันตรายจากการออกกำลังกายไม่เหมาะสมกับวัย -แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่ไม่มีไขมันหรือจำกัดการบริโภคไขมัน เพื่อลดภาวะอ้วนในผู้สูงอายุ -แนะนำออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการเคลื่อนไหวและเพิ่มการทรงตัวของผู้สูงอายุทำให้ไม่ล้มง่าย -แนะนำออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อช่วยทำให้ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนจากการที่กระดูกถูกสลายได้น้อยลง
พูดเสียงปกติไม่ค่อยได้ยิน
ทฤษฎีความเสื่อมโทรม (Wear and tear theory) เนื่องจากประสาทรับเสียงในหูชั้นในเสื่อมจากอายุที่มากขึ้น จึงทำให้ผู้สูงอายุรายนี้มีการได้ยินที่ไม่ค่อยชัดเจน
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมี มีปัญหาด้านการได้ยิน ข้อมูลสนับสนุน S -ผู้สูงอายุบอกว่าพูดคุยกับคนอื่นไม่ ค่อยได้ยิน -ผู้สูงอายุบอกว่าพูดคุยกับคนอื่นไม่ ค่อยรู้เรื่อง O -พูดด้วยน้ำเสียงปกติ ได้ยินไม่ชัดเจน
เป้าหมาย -ผู้สูงอายุไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เกณฑ์การประเมินผล -ผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพการฟังที่ดีขึ้น -ได้ยินเสียงผู้อื่นมากขึ้น -พูดคุยกับคนอื่นได้ดีขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล -อธิบายเกี่ยวกับการได้ยินไม่ชัดเจนของผู้สูงอายุให้ครอบครัวและคนรอบข้างของตัวผู้สูงอายุได้เข้าใจ เพื่อให้ครอบครัวและคนรอบข้างจะได้เข้าใจตัวผู้สูงอายุมากขึ้น -แนะนำให้ใช้ความระมัดระวังเวลาอยู่นอกบ้าน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ -แนะนำเกี่ยวกับการใช้น้ำเสียงในการพูดคุยกับผู้สูงอายุ เพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิดกันเกิดขึ้นเนื่องจากการพูดเสียงดังจนเกินไป จนทำให้ผู้สูงอายุคิดว่าตะคอกใส่ -ประสานงานกับ อสม. หรือครอบครัวจัดหาเครื่องช่วยฟัง เพื่อให้ผู้สูงอายุมีการได้ยินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น -แนะนำให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิคสูง เช่น ผักใบเขียว เช่น ผักบุ้ง ผักโขม ผักกาด ผลไม้ประเภทส้ม มะเขือเทศ และอาหารประเภทถั่ว เพื่อชะลอการสูญเสียการได้ยินในผู้สูงอายุได้ -แนะนำให้ควรออกกำ ลังกายสม่ำเสมอ เพื่อเสริมระบบการไหลเวียนโลหิต ทำให้เลือดไปเลี้ยงประสาทหูได้ดีขึ้น -ถ้าพบภาวะขี้หูอุดตันควรส่งต่อไปพบแพทย์หรือพยาบาลผู้ชำนาญการ ทั้งนี้แพทย์อาจให้สารที่ออกฤทธิ์ละลายขี้หู (cerumenolytics) เพื่อสามารถทำให้การได้ยินดีขึ้นและเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้ดีขึ้น
ย่น
ขุย
กละ
แห้ง
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง (Cross-linking theory) เมื่ออายุมากขึ้นเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอิลาสตินจะมีการเชื่อมตามขวางมากขึ้นทําให้สูญเสียความยืดหยุ่น มีลักษณะแข็งแตกและฉกขาดง่ายขึ้น ก่อให้เกิดผลต่อการซึมผ่านของสารที่เยื่อเอ็นจะแข็งและแห้งผิวหนังแหงเหี่ยว
ผู้สูงอายุเสี่ยงต่อการเกิดบาดแผล เนื่องจากผิวหนังแห้ง ข้อมูลสนับสนุน S -ผู้สูงอายุบอกว่าผิวแห้ง O –ทบสอบดู ผู้สูงอายุมีผิวแห้ง เป็นขุยๆเล็กน้อย
เป้าหมาย -ผู้สูงอายุไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิด บาดแผล เกณฑ์การประเมินผล -ความชุ่มชื้นของผิวหนังเพิ่มขึ้น -ผิวหนังไม่เป็นขุยๆ
กิจกรรมการพยาบาล -แนะนำให้ผู้สูงอายุใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่ไม่ทำลายผิว เพื่อป้องกันผิวหนัง -แนะนำให้ผู้สูงอายุทาออยด์หรือโลชั่นหลังจากอาบน้ำเสร็จ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น -แนะนำให้ผู้สูงอายุดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว เพื่อทำให้ผิวชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน -แนะนำการดูแลผิวหนังและการบำรุงผิว เพื่อผิวหนังคงความสมบูรณ์และแข็งแรงมากขึ้น -การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการดูแลและบำรุงผิวหนัง ได้แก่ โลชั่นหรือครีม ใช้ทาบริเวณผิวหนัง โดยเป้าหมาย เพื่อป้องกันหรือบรรเทาความแห้งของผิวหนังเนื่องจากสามารถเพิ่มปริมาณน้ำแก่ผิวหนังชั้น สตาตัมคอร์เนียม ทำให้ผิวหนังมีความเนียนนุ่ม ชุ่มชื้น เป็นการช่วยส่งเสริมความแข็งแรงและความยืดหยุ่นของ ผิวหนัง -แนะนำให้รับประทานอาหารประเภทโปรตีนจากเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะสัตว์ จำพวกปลา และปลา ทะเลน้ำลึก เพื่อ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ส่งเสริมการสร้างเซลล์ผิวใหม่ -แนะนำให้ทานผักผลไม้ มีวิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี จะมีส่วนช่วยในการสังเคราะห์คอลลาเจน เพื่อทำให้ผิวหนังมีความนุ่มเต่งตึง รวมถึงมีสารต้านอนุมูลอิสระ เพื่อช่วยในเรื่องการป้องกันการเสื่อมอายุของผิวหนัง ซ่อมแซมผิวหนังที่เสียไป และยังมีความสำคัญต่อกระบวนการเติบโตของผิวหนังให้มีการทำงานอย่างปกติ เพื่อช่วยให้ผิวหนังไม่แห้ง และยังสดใสเปล่งปลั่งอยู่เสมอ
4 แปลผล ค่าปกติในผู้สูงอายุไทย ไม่มีความเศร้า
6 แปลผล ไม่มาการของโรคซึมเศร้าหรือมีอาการของโรคซึมเศร้าระดับน้อยมาก
ผู้สูงอายุใช้เวลาในการเดินตั้งแต่ 30 วินาทีขึ้นไป ถือว่า มีความเสี่ยงต่อภาวะหกล้ม
-2.2 แปลผล มีความเสี่ยงปานกลาง
ปวดเข่า และ ตอบใช่ 1 ข้อ แปลผล มีโอกาสที่จะเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม
12 แปลผล ภาวะโภชนาการปกติ
25.56 แปลผล อ้วน
ไม่มี delirium
19 แปลผล การรู้คิดปกติ
22 (ผู้สูงอายุเรียนระดับประถมศึกษา) แปลผล ไม่มีภาวะสมองเสื่อม
0 แปลผล ไม่มีภาวะการกลืนลำบาก
ไม่มีปัญหาเกี่ยวกับช่องปาก
20 แปลผล ผู้สูงอายุกลุ่มที่ 1(กลุ่มติดสังคม) พึ่งตนเองได้ ช่วยเหลือผู้อื่น ชมชน และสังคมได้
มีการทรงตังที่ดี มีการใช้ไม้เท้าในการเดินบางครั้ง
การได้ยินไม่ปกติ มีอาการหูตึงเล็กน้อย เมื่อพูดคุยต้องพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าปกติเล็กน้อย
ใช้แว่นสายตายาวในการช่วยมองเห็น สายตาไม่พร่ามัว