Foundation of Research (ความรู้พื้นฐานของการวิจัย)

Più simili a questo

การเขียนโครงร่างงานวิจัย

da สุวิจักขณ์ เพชรศรี

ศึกษาลักษณะเม็ดเลือดของมนุษย์ตามทฤษฎีกับตัวอย่างเม็ดเลือด จากห้องแลปเทคนิคการแพทย์ มหา�

da Tanyalak Sopon

สำรวจอาการที่เกิดจากการนอนหลับไม่เพียง ของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 หลักสูตรบัญชีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์

da Thawanrat Na Phatthalung

สติถิพื้นฐานเพื่อการวิจัย

da sirirat phikul

Foundation of Research (ความรู้พื้นฐานของการวิจัย)

ตัวแปรและสมมติฐาน

hypothesis (สมมติฐาน)

คำตอบที่คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าอย่างสมเหตุสมผลต่อปัญหาที่ศึกษา หรือการเดาที่ใช้หลักเหตุผลใช้ปัญญา

variables (ตัวแปร)

คุณสมบัติหรือคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ของสิ่งต่าง ๆ ที่ ผู้วิจัยต้องการจะศึกษาหาความจริง

ประเภทของการวิจัย

3.จำแนกตามระเบียบวิธีวิจัย

Developmental Studies

Interrelationship Studies

Descriptive Research

Survey Research

Historical Research การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์

2. จำแนกตามลักษณะ

Qualitative Research การวิจัยเชิงคุณภาพ

Quantitative Research การวิจัยเชิงปริมาณ

1. จำแนกตามประโยชน์ที่ได้รับหรือเหตุผลในการวิจัย

Applied Research การวิจัยการนำไปใช้

Basic Research or Pure Research การวิจัยพื้นฐานหรือการวิจัยบริสุทธิ

Meaning of Research (ความหมายของการวิจัย)

การศึกษา ค้นคว้า วิเคราะห์หรือทดลองอย่างมีระบบ โดยใช้อุปกรณ์หรือ วิธีการ เพื่อค้นหาข้อเท็จจริง หรือค้นหาหลักการส าหรับน าไปใช้ตั้งกฎ ทฤษฏี หรือแนวทางปฏิบัติ

ขั้นตอนในการวิจัย

7. ขั้นดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล

6. การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล

5. การเขียนเค้าโครงการวิจัย

4. การกำหนดสมมุติฐาน

3 การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

2 การกำหนดขอบเขตของปัญหา

1. เลือกหัวข้อปัญหา

แนวคิดพื้นฐานของการวิจัย

5. Probabilistic Law of Nature

ปรากฏการณ์ใด ๆ นั้น ความรู้ความจริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ จะเป็นผลลัพธ์ของปรากฏการณ์ ที่มีความน่าจะเป็นในการเกิดขึ้นที่ค่อนข้างสูง

4. Principle Component of Nature

ตัวแปรสาเหตุและตัวแปรผลที่เกิดขึ้นนั้น ๆ ไม่ได้เป็นความสัมพันธ์เชิงเดี่ยว แต่จะมีตัวแปรอื่นๆ ที่มักจะมาเกี่ยวข้องอยู่เสมอ

3. Associative Law of Nature

การเกิดปรากฏการณ์ใด ๆ ที่แตกต่างกันนั้น จะมีความมากน้อยของตัวแปรที่เป็นสาเหตุและตัวแปรผลที่แตกต่างกัน

2. Systematic Law of Nature

ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นตามกฎของเหตุและผลของธรรมชาติจะมีรูปแบบของความสัมพันธ์ของตัวแปรที่ค่อนข้างจะชัดเจน

1.Deterministic Law of Nature

ปรากฏการณ์ใด ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นจะสามารถแสวงหาสาเหตุที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์นั้นได้เสมอ ๆ