by Ariya Chaowalit 5 years ago
206
More like this
3.2.1 รายละเอียดของรายการ แต่ละรายการประกอบด้วยส่วนสำคัญ 3 ส่วนคือ 1) ส่วนที่เป็นชื่อผู้แต่ง ได้แก่ ผู้รับผิดชอบในการเขียนหรือผลิตสิ่งพิมพ์ นั้น ซึ่งอาจเป็น ผู้รวบรวม บรรณาธิการ ผู้แปล หรือหน่วยงานต่าง ๆ ก็ได้ 2) ส่วนที่เป็นชื่อเรื่อง ได้แก่ชื่อหนังสือ ชื่อบทความ ชื่อวารสาร และชื่อ ของสิ่งพิมพ์ประเภทนั้น ๆ ที่ผู้เขียนนำมาค้นคว้าอ้างอิง 3) ส่วนที่เป็นการพิมพ์ได้แก่ ครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์สำนักพิมพ์หรือ โรงพิมพ์และปีพิมพ์ของหนังสือ หรือเป็นปีที่ วันเดือนปีของวารสาร หรืออื่น ๆ ที่เป็นรายละเอียด เกี่ยวกับการพิมพ์ของสิ่งพิมพ์แต่ละประเภทนั้น เฉพาะส่วนที่เป็นปีที่พิมพ์จะใส่ไว้ต่อจากชื่อผู้แต่ง
การอ้างอิงระบบชื่อ-ปีเขียนได้2 แบบ คือ
* เขียนระบุชื่อผู้แต่ง และปีพิมพ์ไว้ท้ายข้อความ มีรูปแบบดังนี้ (ชื่อผู้แต่ง, ปีพิมพ์)
* เขียนระบุชื่อผู้แต่ง และปีพิมพ์ไว้หน้าข้อความที่อ้าง มีรูปแบบดังนี้ ชื่อผู้แต่ง (ปีพิมพ์)
2.5) สารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์
2.4) โสตทัศน์
2.3) เอกสารอื่น ๆ เช่น เอกสารการประชุม สัมมนา จุลสาร เป็นต้น
2.2) บทความในหนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์
2.1) หนังสือ
5.3 ขั้นตอนการเขียนรายงาน การเขียนรายงาน หรือการเขียนผลงานทาง วิชาการมีขั้นตอนการด าเนินงาน 10 ขั้นตอน ดังนี
5.3.10 การเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์ (Final Writing)
5.3.9 การเขียนรายการอ้างอิงและบรรณานุกรม (Write the Reference and Bibliography)
5.3.8 การเรียบเรียงรายงาน (Writing and revising)
5.3.7 การจัดทำโครงเรื่องครั้งสุดท้าย (The final outline)
5.3.6 การใช้สารสนเทศจากแหล่งต่างๆ (Using sources of Information)
5.3.5 การอ่านและจดบันทึก (Reading and Notes)
5.3.4 รวบรวมบรรณานุกรม (The working bibliography)
5.3.3 การจัดทำเค้าโครงรายงาน (the Preliminary Outline)
5.3.2 อ่านข้อมูลของเนื้อหาวิชาเพื่อเป็นพื้นความ รู้ (Reading forBackground) และกำหนดวัตถุประสงค์ของการทำรายงาน (Reportobjectives)
5.3.1 เลือกและกำหนดหัวข้อการทำรายงาน (Choose the topics) การเลือกหัวข้อ
5.2. ส่วนประกอบของรายงาน
5.2.3 ส่วนอ้างอิง (Citation) หมายถึง ส่วนที่แสดงหลักฐานประกอบการค้นคว้า และการเขียนรายงานเพื่อให้ทราบว่าผู้ทำรายงานได้ค้นคว้ามาจากแหล่งใดบ้าง ซึ่งประกอบด้วย
5.2.3.2 ภาคผนวก (Appendixes) ภาคผนวกเป็นส่วนที่ให้ รายละเอียดเพิ่มเติมช่วยให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจชัดเจนขึ้น เช่น แบบสอบถามหรือแบบสัมภาษณ์ที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
5.2.3.1 บรรณานุกรม หรือ เอกสารอ้างอิง (References) จะอยู่ต่อ จากส่วนเนื้อหาและก่อนภาคผนวก คือส่วนที่รวบรวมรายชื่อ หนังสือ สิ่งพิมพ์อื่นๆ โสตทัศนวัสดุ ตลอดจนวิธีการที่ได้ข้อมูล มาเพื่อประกอบการเขียนรายงานเรื่องนั้นๆ ก าหนดให้ใช้คำว่า “บรรณานุกรม” หรือ “เอกสารอ้างอิง”
5.2.2 ส่วนเนื้อเรื่อง (Body of contents) หมายถึงส่วนที่อยู่ต่อจากส่วนนำ เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของรายงานส่วนเนื้อเรื่องจะประกอบด้วยบทนำ เนื้อเรื่อง และสรุป ดังรายละเอียดต่อไปนี้
5.2.2.3สรุป (Conclusion) คือ ส่วนที่เขียนยำ้ หรือนำเสนอประเด็น สำคัญของเนื้อเรื่อง ส่วนสรุปนี้ จะอยู่ในย่อหน้าสุดท้ายของเนื้อ เรื่อง
5.2.2.2เนื้อเรื่อง (Content) คือ ส่วนที่เสนอเรื่องราวสาระทั้งหมดของรายงานตามลำดับของหัวข้อที่ระบุไว้ในหน้าของสารบัญ ในการนำเสนอเนื้อเรื่อง ต้องไม่ใช่เป็นการคัดลอกข้อความจากเอกสารต้นเรื่องที่อ่านมาทุกประโยคทุกตอน
5.2.2.1 บทนำ (Introduction) ต่างจากคำนำ คือการเขียนบทนำ จะต้องอธิบายเนื้อหาอย่างกว้างๆ เป็นการนำผู้อ่านเข้าสู่ เนื้อเรื่อง หรือเนื้อหาของรายงานให้ผู้อ่านเข้าใจในเบื้องต้น
5.2.1 ส่วนนำ หมายถึง ส่วนที่อยู่ต้นเล่มของรายงาน ก่อนถึงเนื้อเรื่อง ส่วนนำ ประกอบด้วย ปกนอก หน้าปกใน คำนำ และสารบัญ ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้
5.2.2.5สารบัญ หรือสารบาญ (Table of contents) คือส่วนที่อยู่ ต่อจากหน้าคำนำ ในหน้าสารบัญ จะมีลักษณะคล้ายโครงเรื่อง ของรายงานท าให้ผู้อ่านได้ทราบว่า ขอบเขต เนื้อหา ของ รายงานคลอบคลุมเรื่องใดบ้าง ในหน้านี้ให้เขียนคำว่าสาร สารบัญไว้ตรงกลางหน้าข้อความในหน้าสารบัญจะเริ่มต้นจาก คำนำ หัวข้อใหญ่ หัวข้อรอง
5.2.2.4 คำนำ (Preface) คือส่วนที่อยู่ถัดจากหน้าปกใน ผู้เขียน รายงานเป็นผู้เขียนเอง โดยกล่าวถึงวัตถุประสงค์และขอบเขต ของรายงาน ตลอดจนคำขอบคุณผู้ที่ให้ความช่วยเหลือในการ รวบรวมข้อมูล หรือการเขียนรายงาน (ถ้ามี) ให้ลงท้าย ด้วยชื่อ ผู้จัดทำรายงาน หากมีหลายคนให้ลงว่าคณะผู้จัดทำ และลง วันที่กำกับ
5.2.2.3กิตติกรรมประกาศ (Acknowledgement) เป็นข้อความ แสดงความขอบคุณผู้ช่วยเหลือ สนับสนุนและให้ความร่วมมือใน การค้นคว้าเพื่อท ารายงาน แสดงถึงจรรยาบรรณทางวิชาการที่ ผู้ท ารายงานท างวิชาการควรถือปฏิบัติโดยพิมพ์ค าว่า “กิตติกรรมประกาศ”อยู่กลางหน้ากระดาษ มีความยาวไม่เกิน 1 หน้า ท้ายกิตติกรรมประกาศให้พิมพ์ชื่อและชื่อสกุลของ ผู้เขียนโดยพิมพ์เยื้องไปทางด้านขวามือของข้อความ (อาจมี หรือไม่ก็ได้)
5.2.2.2 หน้าปกใน (Title page) คือส่วนที่อยู่ต่อจากหน้าปกนอก นิยมเขียนเหมือนปกนอก
5.2.2.1 ปกนอก (Cover) คือ ส่วนที่เป็นปกหุ้มรายงานทั้งหมดมีทั้งปก หน้าและปกหลัง กระดาษที่ใช้เป็นปกควรเป็นกระดาษแข็ง พอสมควรสีสันไม่ฉูดฉาด ข้อความที่ปรากฏบนหน้าปก
5.1 ประโยชน์ของการทำรายงาน
ดังนั้นการทำรายงานจึงมีประโยชน์หลายประการ ดังนี้ 1. ทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ และข้อเท็จจริงใหม่ๆทั้งในด้านทฤษฎีและปฏิบัติ 2. ทำให้มีพัฒนาการทางวิชาการในสาขาวิชาต่างๆ 3. ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริง รวมทั้งข้อบกพร่อง เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาหรือ น ามาใช้พัฒนาการปฏิบัติงาน 4. ทำให้เกิดการรู้จักใช้ความคิดอย่างมีเหตุผล และสร้างทักษะในการแก้ไขปัญหา 5. เพิ่มพูนทักษะในการเขียนรายงานทางวิชาการ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานในการ สร้างสรรค์ผลงานวิชาการอื่นๆ ต่อไป