by Sattaporn Phen 5 years ago
286
More like this
Type in the name of the company you are going to have an interview with.
Do you fully understand what this position implies?
After you've made some research on the company, read the job description thoroughly, and try to fully understand what your responsibilities will be.
What would you do on the first day?
What about the first week(s)? Fill in some of the actions that you are planning to take.
What do you think the main challenges will be?
Type them in.
What will be your main tasks?
Type them in.
How would you describe yourself?
Type in a short description.
What experience have you got from your previous jobs? Make sure you specify all your previous work experience, part-time jobs, vacation jobs, voluntary work, and unpaid work experience that are relevant for the position you are applying for.
Describe a typical work day in your previous/current position.
Why will/did you leave your existing/last job?
1) เลือกหัวข้อปัญหา เป็นการตอบคำถามที่ว่าเราจะทำวิจัยเรื่องอะไร ซึ่งจะต้องพิจารณาให้ รอบคอบด้วยความมั่นใจและเขียนชื่อเรื่องที่จะวิจัยออกมา
2) การกำหนดขอบเขตของปัญหา เมื่อได้ปัญหาที่จะทำการวิจัยแน่นอนแล้วควรจะกำหนด ขอบเขตของปัญหาให้ชัดแจ้ง เนื่องจากการกำหนดปัญหาที่แน่นอนช่วยผู้วิจัยได้ดังนี้
2.1 วางแผนรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เหมาะสม
2.2 รู้ถึงเทคนิคต่างๆ ที่เหมาะสมในการเลือกกลุ่มตัวอย่าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนการแปลผลการวิจัย
2.3 มองเห็นภาพอย่างแจ่มชัดว่าจะต้องทำอะไรบ้าง
3) การศึกษาเอกสารและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยการศึกษาสาระความรู้ แนวคิด ทฤษฎี และผลงานวิจัยที่เกี่ยวกับเรื่องนั้นในตำรา หนังสือ วารสาร รายงานการวิจัยและเอกสาร อื่น ๆ ซึ่งจะ มีประโยชน์ต่อผู้วิจัยในข้อต่อไปนี้
3.1 ช่วยให้ไม่เกิดการซ้ำซ้อนในการวิจัย
3.2 ช่วยให้กำหนดขอบเขตของการทำวิจัยได้ถูกต้องชัดเจน (กรอบแนวคิด)
3.3 ได้แนวทางในการกำหนดสมมุติฐาน (กรณีที่มีสมมุติฐาน)
3.4 ได้แนวทางในการสร้างเครื่องมือเพื่อรวบรวมข้อมูล
3.5 ได้แนวทางในการสุ่มตัวอย่าง
3.6 ได้แนวทางในการใช้ค่าสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล
3.7 ได้แนวทางการแปลผลการวิจัยและการเขียนรายงานการวิจัย
4) การกำหนดสมมุติฐาน หมายถึง การเขียนข้อความที่เป็นข้อคาดหวังเกี่ยวกับความ แตกต่าง ที่อาจเป็นไปได้ ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ ซึ่งสมมุติฐานนั้นไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นจริงเสมอไป
5) การเขียนเค้าโครงการวิจัย การเขียนเค้าโครงการวิจัยเป็นขั้นตอนที่ส าคัญขั้นหนึ่ง เนื่องจาก เค้าโครงการวิจัยนั้นจะเป็นแบบแผนในการดำเนินงานวิจัยอย่างมีระบบ ควรจะประกอบด้วย
5.1 ชื่องานวิจัย
5.2 ภูมิหลังหรือที่มาของปัญหา
5.3 วัตถุประสงค์
5.4 ขอบเขตของการวิจัย
5.5 ตัวแปรต่าง ๆ ที่วิจัย 3Foundation of Research 11
5.6 ค านิยามศัพท์เฉพาะ (ในกรณีที่จำเป็น)
5.7 สมมุติฐาน (ถ้ามี)
5.8 วิธีด าเนินการวิจัย
5.9 รูปแบบของงานวิจัย
5.10 การสุ่มตัวอย่าง
5.11 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
5.12 การวิเคราะห์ข้อมูล
5.13 แผนการทำงาน
5.14 งบประมาณ
6) การสร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูล ก่อนที่จะดำเนินการรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยจะต้องทราบว่า จะใช้เครื่องมืออะไรในการเก็บรวบรวมข้อมูล และเครื่องมือนั้นมีหรือยัง ถ้ายังไม่มีต้องดำเนินการ สร้างและนำเครื่องมือนั้นไปทดลองใช้ เพื่อหาคุณภาพของเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม ผู้วิจัยไม่จำเป็นต้อง สร้างเครื่องมือรวบรวมข้อมูลเองเสมอไป กรณีที่ทราบว่ามีเครื่องมือที่สร้างขึ้นอย่างเป็นมาตรฐาน เหมาะสมกับการที่จะนำไปใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ก็อาจยืมเครื่องมือดังกล่าวมาใช้ได้ถ้าสงสัยใน เรื่องคุณภาพของเครื่องมือ เนื่องจากสร้างไว้นานแล้วก็อาจนำมาทดลองใช้และวิเคราะห์หาคุณภาพ ใหม่อีกครั้งหนึ่งเมื่อพบว่ามีคุณภาพเข้าเกณฑ์ก็น ามาใช้เก็บรวบรวมข้อมูลได้ (การวิจัยบางเรื่องอาจไม่ ใช้เครื่องมือรวบรวมข้อมูลที่เป็นแบบแผนก็จะตัดขั้นตอนนี้ออกไป)
7) ขั้นดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ในการดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้วิจัยจะต้องทราบว่า ในการทำการวิจัยนั้นสามารถจะรวบรวมข้อมูลจากกลุ่ม ประชากรทั้งหมด หรือสุ่มตัวอย่าง ซึ่งในการ สุ่มตัวอย่างนั้นก็ต้องทราบว่าจะต้องสุ่มตัวอย่างโดยวิธีการใดที่จะให้ได้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนที่ดี ของกลุ่มประชากร ข้อมูลที่ผู้วิจัยจะทำการรวบรวมนั้นมาจากไหน ปฐมภูมิ (Primary Source) หรือ ทุติยภูมิ (Secondary Source) วิธีการรวบรวมข้อมูลที่นิยมใช้ในการวิจัยทางการศึกษา ได้แก่
7.1 การใช้แบบทดสอบ
7.2 การใช้แบบวัดเจตคติ
7.3 การส่งแบบสอบถาม
7.4 การสัมภาษณ์
7.5 การสังเกต
7.6 การใช้เทคนิคสังคมมิติ
7.7 การทดลอง
7.8 การจัดกระทำข้อมูล (Data Processing) การจัดกระทำข้อมูลเป็นวิธีการดำเนินการ อย่างมีระบบตามลำดับขั้นกับข้อมูลต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมาย
เบสส์และคาน(Best and Khan,1998 :18-25)และไวร์มา(Wiersma,2000:3) ได้นำสนอ คุณลักษณะของการวิจัยที่คล้ายกัน มีดังนี้
4.1 การวิจัย เป็นการแก้ปัญหาที่ช่วยให้สามารถบรรลุเป้าหมายสุดท้าย ที่เป็นการค้น ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ อย่างมีเหตุผล
4.2 การวิจัย เป็นการพัฒนาข้อสรุป หลักเกณฑ์และทฤษฎีที่สามารถนำไปใช้อ้างอิงหรือ คาดการณ์โดยเฉพาะในกรณีที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
4.3 การวิจัย มีแนวคิดพื้นฐานของการได้รับข้อมูลที่สรุปจากประสบการณ์ที่ได้จากการสังเกต หรือข้อมูลเชิงประจักษ์ (Empirical) ดังนั้นในบางคำถามที่น่าสนใจไม่สามารถที่จะนำมาดำเนินการ วิจัยได้ เพราะไม่สามารถสังเกตหรือแสวงหาข้อมูลเชิงประจักษ์ได้
4.4 การวิจัยจำเป็นจะต้องมีกระบวนการสังเกตที่ถูกต้อง ชัดเจน และบรรยายปรากฏการณ์ที่ เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน โดยใช้เครื่องมือในการวิจัยเชิงปริมาณหรือวิธีการของการวิจัยเชิงคุณภาพ
4.5 การวิจัย เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลใหม่จากแหล่งปฐมภูมิ หรือใช้ข้อมูลที่มีอยู่แล้วใน การตอบคำถามตามจุดประสงค์ใหม่ ไม่ใช่เป็นการจัดระบบใหม่ (Reorganizing) โดยการนำข้อมูล ที่ ผู้อื่นค้นพบแล้วมาสรุปอีกครั้งหนึ่ง เพราะทำให้ไม่ได้รับความรู้ใหม่ ๆ
4.6 การวิจัยจะต้องมีระบบ มีวิธีการ แบบแผนการวิจัย และการวิเคราะห์ที่ถูกต้อง ชัดเจน ที่ จะทำให้ได้ข้อสรุปการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
4.7 การวิจัย จะต้องเป็นการดำเนินการโดยใช้ความรู้ความช านาญของผู้วิจัยที่จะต้องรับรู้ ปัญหาที่ตนเองจะทำวิจัย และปัญหาดังกล่าวมีบุคคลใดประเด็นใดที่ได้ทำวิจัยไปแล้วบ้าง รวมทั้ง เรียนรู้ คำศัพท์เฉพาะที่ใช้ ความคิดรวบยอดและทักษะทางเทคนิค ที่จะสามารถนำมาใช้ใน การ วิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
4.8 การวิจัย จะต้องกำหนดวัตถุประสงค์ โดยใช้เหตุผลตามหลักความเป็นจริงที่จะสามารถ ทดสอบได้และวิธีการที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่เป็นจริง มีเหตุผล และจะต้องไม่มีอคติของผู้วิจัย มาเกี่ยวข้อง 3Foundation of Research 5
4.9 งานวิจัย จะต้องเป็นการดำเนินการแสวงหาค าตอบที่นำมาใช้ตอบค าถามของปัญหาที่ ยัง ไม่สามารถแก้ไขได้
4.10 การวิจัย เป็นกิจกรรมที่จะต้องดำเนินการด้วยความอดทน ไม่เร่งรีบ และจะต้อง ยอมรับ/เผชิญอุปสรรคในวิธีการได้มาของคำตอบในการวิจัย
4.11 การวิจัย จะต้องมีการจดบันทึกข้อมูล และจัดทำรายงานการวิจัยด้วยความระมัดระวัง ในการใช้คำที่มีความหมาย วิธีการดำเนินการวิจัย หรือการอ้างอิงข้อมูลที่ได้นำมากล่าวอ้างอิงอย่าง ถูกต้อง
How ambitious are you?
What are your short-term goals ?
Type them in.
Are you qualified for this position?
Interviewers will want to know whether or not you are able to do the job.
Answer the questions from this section and see if you are the right person for this position.
เป็นการวิจัยที่ไม่สามารถ ดำเนินการในกระบวนการวิจัยได้อย่างครบถ้วน อาทิ การสุ่มตัวอย่าง หรือการนำกลุ่มตัวอย่างมา ศึกษาในห้องปฏิบัติการเนื่องจากปัญหาจริยธรรมในการวิจัย เป็นต้น
เป็นการวิจัยที่ ศึกษาปรากฏการณ์ที่เป็นธรรมชาติ โดยไม่ได้มีการจัดกระทำสิ่งทดลองให้ในการทดลองเนื่องจาก อาจจะมี ปัญหาจริยธรรมในการวิจัย ได้แก่ การวิจัยสหสัมพันธ์ การวิจัยเชิงสำรวจ การวิจัยเชิง อนาคต หรือ การวิจัยเชิงประวัติศาสตร์ เป็นต้น
เป็นการวิจัยที่แสวงหาความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่อาจจะเป็น การศึกษา ท่ีสืบหาสาเหตุย้อนหลังระหว่างตัวแปรภายใต้สภาวะธรรมชาติ การจัดกระทาเพื่อทดสอบ ความเป็นเหตุ และเป็นผลระหว่างตัวแปรภายใต้สภาพการทดลองที่จัดขึ้น
เป็นการวิจัยเพื่อค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร 2 ตัวหรือมากกว่า การทำนายค่าของ ตัวแปรที่สนใจ
เป็นการวิจัยที่ มีจุดมุ่งหมายสำคัญเพื่อบรรยายลักษณะของตัวแปรในประชากร ที่อาจเป็นเฉพาะกรณี การสำรวจ ปรากฏการณ์ในอดีต หรือปัจจุบัน หรือการเปรียบเทียบหรือประเมินความแตกต่างระหว่างประชากร
เป็นการวิจัยที่ใช้เวลาอย่าง ต่อเนื่องในการเก็บรวบรวมข้อมูล ทำให้ได้ผลสรุปของข้อมูลที่ชัดเจน ละเอียด และได้เห็นกระบวนการ การเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ผู้วิจัยจะต้องใช้ค่าใช้จ่าย/เวลาที่ค่อนข้างสูง
เป็นการวิจัยท่ีใช้ เวลาในการวิจัยช่วงใดช่วงหน่ึงที่ผู้วิจัยสนใจแล้วนำมาสรุปผลในภาพรวมของปรากฏการณ์นั้น ๆ ใน อนาคตมากกว่าสภาพในปัจจุบันหรืออดีต มีข้อดี คือ ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่อาจจะไม่เห็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อ ศึกษาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของมนุษย์ ขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม การเมือง การ ปกครอง และการศึกษา เป็นต้น
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่เกี่ยวกับสิ่งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต หรือใน สถานการณ์จำลองในการทดลองที่สามารถควบคุมความแปรปรวนที่เกิดขึ้นได้ โดยใช้เครื่องมือ ที่เป็น มาตรฐาน หรือใช้กฎเกณฑ์มาตรฐานในการพิจารณาตัดสินผลที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ
การวิจัยใดๆจำเป็นต้องมีความเที่ยงตรง ใน 2 ลักษณะ
Which qualities were easily observed by your colleagues and/or your former/existing boss?
Type them in.
การศึกษาพัฒนาการ(Developmental Studies)
การศึกษาแนวโน้ม(Trend Studies)
การศึกษาความเจริญงอกงาม(Growth Studies)
การศึกษาความสัมพันธ์ (Interrelationship Studies)
เป็นการวิจัยที่มี วัตถุประสงค์เพื่อใช้บรรยายความสัมพันธ์ของคุณลักษณะ หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น อาทิ การศึกษา เฉพาะกรณี(Case Study) การศึกษาสหสัมพันธ์(Correlation) การศึกษาเปรียบเทียบสาเหตุ การศึกษา ติดตามผล หรือ การวิเคราะห์เอกสาร เป็นต้น
การวิจัยเชิงสำรวจ(Survey Research)
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ เพื่อใช้ บรรยายคุณลักษณะหรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร อาทิ การสำรวจโรงเรียน/ชุมชน/ ประชามติ เป็นต้น
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ ใช้ ข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีตที่มีหลักฐานปรากฏอยู่ อาทิ รูปภาพ สิ่งพิมพ์ บันทึกเหตุการณ์ หรือซากวัสดุ ต่าง ๆ เป็นต้น
What are your weaknesses?
Examples:
เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล จากตัวแปรท่ีมีลักษณะเป็นตัวเลขที่ระบุระดับความมาก/น้อยของปรากฏการณ์ตามเกณฑ์ที่กำหนดให้ ค่อนข้างชัดเจน
เป็นการวิจัยที่เก็บรวบรวมข้อมูล จากตัวแปรที่มีลักษณะเป็นข้อความท่ีบรรยายลักษณะ เหตุการณ์หรืออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เป็นอย่างไรตามสภาพแวดล้อม
What strengths qualify you for this job?
Example:
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหาความรู้ความจริงเชิงทฤษฎี/ปรากฏการณ์ ที่นำมาใช้ใน การสนับสนุน หรือขัดแย้งกับกฎเกณฑ์ หรือทฤษฎีท่ีมีอยู่
เป็นการวิจัยที่มีวัตถุประสงค์ใน การนำผลการวิจัยจากการวิจัยพื้นฐานมาใช้ประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ได้ในปัจจุบัน