по นิชานันท์ นิยมเดชา 5 лет назад
289
Больше похоже на это
от Hatsana Kongbamrung
от Kamonthalak Wanvimonkul
от Anas Waetor
от Phangpon Kasidis
5.7 ควรใช้คำที่หลากหลายและไม่ควรใช้คำที่ค้นหาเกิน 32 คำ
5.6 เทคนิคการกรองสิ่งที่ค้นหา (SafeSearch Filtering)
5.5 เทคนิคการหานิยามหรือความหมายของคำ (Definition)
5.4 เทคนิคค้นหาช่วงชุดของตัวเลข (Number range) ด้วยเครื่องหมาย ..
5.3 เทคนิคการค้นกลุ่มคำหรือคำที่ไม่แน่ใจด้วยเครื่องหมาย *
5.2 เทคนิคการค้นหาคำพ้องความหมาย (Synonyms) ด้วยเครื่องหมาย ~
5.1 เทคนิคการค้นด้วยเครื่องหมายคำพูด “…..”
4.2 สืบค้นโดยใช้เขตข้อมูลกำกับลงในประโยคการค้น
4.1 สืบค้นจากเมนูทางเลือก (Drop down menu)
2.2 การสืบค้นในลักษณะของ Stemming หมายถึง การสืบค้นจากรากคำ เช่นคำค้นเป็น think กลไกจะสืบค้นคำอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย think เช่น thinking, thinkable เป็นต้น กลไกที่มีลักษณะการสืบค้นเช่นนี้ได้แก่ Hotbot, Infoseekเป็นต้น
2.1 การใช้เครื่อง กลไกส่วนใหญ่ใช้เครื่องหมาย * (asterisk) แทนการตัดคำส่วนใหญ่เป็นการตัดท้ายคำค้นที่ต้องการ กลไกที่สามารถใช้เทคนิคการตัดคำได้เช่น altavista เป็นต้น ส่วน Hotbot สามารถตัดคำได้ 2 ลักษณะคือ * และ ?โดย * หมายถึง ให้สืบค้นคำที่มีรากคำตามที่กำหนดโดยอาจมีตัวอักษรอื่น ๆต่อท้ายได้ไม่จำกัดจำนวน และ ? หมายถึง ให้สืบค้นคำที่มีรากคำตามที่กำหนดและมีตัวอักษรตามหลังได้อีกไม่เกินจำนวน ? ที่กำหนดในคำค้น นอกจากนี้Hotbot ยังสามารถตัดหน้าคำได้ด้วย เช่น *man ผลการคืนจะเรียกออกมาทั้งคำว่า woman, superman, spiderman เป็นต้น
1.3 การใช้เครื่องหมาย + (Plus) หรือ – (Minus) กำหนดหน้าคำค้นที่ต้องการ เครื่องหมาย + หมายถึงในผลการค้นต้องมีคำที่กำหนดนั้น และเครื่องหมาย – หมายถึงไม่ต้องการให้พบคำนั้นในผลการสืบค้น กลไกที่ลักษณะการสืบค้นเช่นนี้ ได้แก่ Excite, Lycos, Altavista, Google เป็นต้น
1.2 การใช้เทคนิคตรรกบูลลีนจากเมนูทางเลือก (Drop down menu) ว่าต้องการสืบค้นการที่เกี่ยวข้องกับคำค้นอย่างไร เช่น Match all words, match anywords, must contain, must not contain เป็นต้น กลไกที่มีลักษณะการสืบค้นเช่นนี้ ได้แก่ Lycos, Hotbot, Excite เป็นต้น
1.1 การใช้ And, Or, Not ประกอบเป็นประโยคการค้น เช่นเดียวกับการสืบค้นในระบบออนไลน์อื่นๆ โดยเครื่องหมาย หรือตัวกระทำของตรรกบูลลีนจะแตกต่างกันไปในแต่ละกลไก บางกลไกสามารถใช้คำว่า And, Or, Not ประกอบในประโยคการค้นได้โดยตรงบางกลไกใช้เครื่องหมาย &(ampersan),I(pipe)และ(exclamation) แทนคำว่า And, Or, Notตามลำดับเช่นใน Altavista เป็นต้น
🐯ชื่อผู้แต่ง (Author) อาจเป็นชื่อบุคคลหรือหน่วยงาน 🐯ชื่อเรื่อง (Title) เป็นชื่อบทความวารสาร 🐯ปี(Year) ได้แก่ ปีพิมพ์ของวารสาร 🐯ชื่อห้องสมุดที่บอกรับวารสารชื่อนั้นๆ (Library that have this journal) บอกข้อมูลเกี่ยวกับห้องสมุดและปีที่ฉบับที่ของวารสารที่ห้องสมุดบอกรับ 🐯สถานที่ (Location) บอกสถานที่เก็บและให้บริการวารสาร 🐯ชื่อวารสาร (Journal) บอกข้อมูลเกี่ยวกับชื่อวารสาร ปีที่ฉบับที่ เดือน ปีและ เลขหน้าที่ปรากฏบทความ 🐯เลขมาตรฐานสากลประจำวารสาร (ISSN) 🐯หัวเรื่อง (Subject) เพื่อใช้ในการสืบค้นต่อ
🤖ชื่อผู้แต่ง (Author) อาจเป็นชื่อบุคคลหรือหน่วยงาน 🤖ชื่อเรื่อง(Title) ของหนังสือ ชื่อวารสาร รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์โสตทัศนวัสดุ 🤖พิมพลักษณ์ (Imprint) ประกอบด้วยครั้งที่พิมพ์ (Edition) สถานที่พิมพ์ (Place) ได้แก่เมืองและประเทศ สำนักพิมพ์(Publisher) และปีที่พิมพ์(Year of publication) 🤖สถานภาพ (Status) สถานภาพของทรัพยากรสารสนเทศ มีหลายลักษณะได้แก่ มีการยืมออกก็จะระบุวันกำหนดส่ง เช่น Due 12-06-04 อยู่บนชั้น (Checkshelves) อยู่ระหว่างการซื้อ (On order) อยู่ระหว่างการจัดหมู่และทำรายการ (Cataloguing) อยู่ระหว่างการซ่อมแซม (Repair) ใช้ภายในห้องสมุด (Lib useonly) 🤖เลขเรียกหนังสือ (Call number) เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนทรัพยากรแต่ละรายการ หากเป็นสิ่งพิมพ์จะติดไว้ที่สันหนังสือ เป็นข้อมูลที่มีความสำคัญที่ผู้ใช้ห้องสมุดต้องจดเพื่อไปหาหนังสือบนชั้น เนื่องจากหนังสือในห้องสมุดมีการเรียงตามเลขหมู่แต่สำหรับวารสาร ห้องสมุดไม่มีการกำหนดเลขหมู่ให้ 🤖รูปเล่ม (Description) บอกข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนหน้า ภาพประกอบ และขนาด 🤖หมายเหตุ (Note) เป็นการระบุข้อมูลของทรัพยากรเพิ่มเติม เช่นมีข้อมูลบรรณานุกรม 🤖สถานที่ (Location) เป็นการบอกว่าทรัพยากรรายการนั้นอยู่ที่ห้องสมุดใด 🤖หัวเรื่อง (Subject) เป็นการระบุคeหรือกลุ่มคำที่ใช้แทนเนื้อหาของทรัพยากรมีประโยชน์ในแง่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถหาสารสนเทศได้มากยิ่งขึ้น 🤖เลขมาตรฐาน (ISBN) เป็นเลขมาตรฐานสากลประจำหนังสือแต่ละรายการ