作者:Yupa Sangthanom 6 年以前
4921
更多类似内容
แพทย์วินิจฉัย Dx : Closed Intertrochanteric fracture left femur กระดูกต้นขาซ้ายส่วน Interchanteric หักชนิดแบบปิด
ผ่าตัด Proximal femoral nail antirotation
ประเภทของกระดูก
หลังผ่าตัด
ผู้ป่วยไม่ทราบการปฎิบัติตัวเมื่อกลับบ้าน
1. ประเมินความรู้การดูแลตนเองของผู้ป่วยและญาติเมื่อกลับบ้าน 2. แนะนำเรื่องการจัดสิ่งแวดล้อมที่บ้านให้เหมาะกับภาวะสุขภาพและให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการปัญหาด้านเศรษฐกิจของผู้ป่วย 3. ส่งเสริม ฟื้นฟูสภาพทางด้านร่างกายและจิตใจ ตลอดจนการป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่างๆ 4. แนะนำการรับประทานอาหารเหมาะสมกับโรคหลีกเลี่ยงหรืองดอาหารที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
O:ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัด Proximal femoral nail antirotation หลังการผ่าตัดจึงต้องได้รับการฟื้นฟูร่างกาย
S:ญาติผู้ป่วยถามว่า “ ต้องใช้เวลาพักฟื้นนานไหม จะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ ”
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะติดเชื้อบริเวณแผลผ่าตัด
การผ่าตัดทำให้เกิดการฉีดขาดของหลอดเลือดและเนื้อเยื่อ
หลั่งสาร Histamine Prostaglandins
หลอดเลือดฝอยขยายตัว
ทำให้เกิดการอักเสบ
กระตุ้น Sysmathetic system
เส้นใย C-fiber
กระตุ้น T-cell ส่งสัญญาณเข้าสู่ cerebral cortex
thalamus
Limbic system และ Somatosensory cortex
กิจกรรมการพยาบาล -ประเมินความปวดของผู้ป่วย ด้วย pain score -จัดท่านอนให้บริเวณที่ทำการผ่าตัดอยู่ในท่าที่สบายและวางสูงกว่าระดับหัวใจเพื่อลดอาการบวมและช่วยในการไหลเวียนเลือด -ดูแลให้ผู้ป่วยทำกายภาพบำบัด -ดูแลให้ยาบรรเทาอาการปวด ได้แก่ Pethidine 25 mg
somatic pain ตื้อๆ ทราบตำแหน่งปวด
Permeability ของหลอดเลือดสูงขึ้น
พลาสม่า , เอนไซม์ และเม็ดเลือดขาวซึมออกมา
ทำให้บวมและ serum ซึม
เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด
O : ข้อมูลในห้องผ่าตัด -เวลาที่ใช้ในการผ่าตัด คือ 1 ชม. -วิธีนำสลบ คือ Spinal Block -Blood gr = 30 ml -Urine output = 40 ml
การพยาบาล -ประเมินสัญญาณ คือ ความดันโลหิตและอัตราการเต้นของหัวใจ -ดูแลให้ได้รับสารน้ำและแนะนำกิจกรรมให้ดื่มน้ำ 1,000-2,000 cc. -ดูแลให้นอนราบ 6 ชั่วโมง -ประเมินการปัสสาวะของผู้ป่วย (I/O)
Spinal Block
ก่อนการผ่าตัด
กิจกรรมการพยาบาล -ประเมินความพร้อมของร่างกาย -เตรียมผล Lab, EKG , X-ray Film -จองเลือด PRC 2 unit -งดน้ำงดอาหารก่อนผ่าตัด 6 ชั่วโมง -เซ็นใบยินยอมก่อนการผ่าตัด
skin traction
ภาวะ Pumonaly embolism
เกิดจากการไหลเวียนเลือดลดลงเนื่องจากไม่ได้เคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
ทำให้เกิดลิ่มเลือดขึ้นในหลอดเลือดบริเวณขา
เมื่อลิ่มเลือดหลุดเข้าไปสู่บริเวณหลอดเลือดดำ Inferior หรือ Superior vena cava
ก่อนผ่านเข้าหัวใจห้องขวาและหลุดมาอุดกั้นที่หลอดเลือดในปอด
ปริมาณเลือดที่่ผ่านปอดมาสู่หัวใจห้องซ้ายลดลง
ทำให้ cardiac out put ลดลง
ผู้ป่วยจะมีความดันโลหิตลดต่ำลง เกิดภาวะช็อคและมีโอกาสเสียชีวิตได้
เป็นวิธีการรักษาโดยอาศัยแรงดึงกระดูกที่ใช้แรงตรึงของผิวหนัง
เพื่อลดความเจ็บปวด ป้องกันกระดูกหักเคลื่อนที่ ป้องกันอันตรายจากกระดูกที่หักที่จะไปทำลายหลอดเลือดและเนื้อเยื่อโดยรอบ
การดูแล Skin traction
1.Counter - traction แรงดึงในทิศทางตรงกันข้ามกับผู้ป่วย 2. Non friction แนวแรงต้องไม่แตะหรือพิงกับขอบเตียง ต้องแขวนลอยอิสระ 3.Continuous traction 4.แนวของการดึงต้องผ่านกระดูกที่หัก 5.จัดท่าการเคลื่อนไหวต้องอยู่ในแนวแรงของน้ำหนัก
ทำให้หลอดเลือดขยายตัว
เกิดการเพิ่ม Permeability ของหลอดเลือด
ทำให้สารน้ำและโปรตีนเคลื่อนที่ออกจากหลอดเลือด ไปยังช่องระหว่าง cell
บวม
หลั่งสารเคมี Prostaglandin เช่น Bradykinin Histamine serotonin
กระตุ้นปลายประสาทรับความรู้สึกปวด
เกิดกระแสไฟฟ้าในรูปสัญญาณประสาท
เส้นใยประสาทขนาดเล็ก
C-fiber
A-delta
ส่งสัญญาณประสาทไปยัง Ricular Formation ที่ก้านสมอง
Hypothalamus
แปลสัญญาณ
ปวด
กิจกรรมพยาบาล -ประเมินความปวดของผู้ป่วย ด้วย pain score -จัดท่านอนให้บริเวณที่หักอยู่ในท่าที่สบาย -ให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล -ดูแลให้ยาบรรเทาอาการปวด ได้แก่ Tramal 50 mg v ̅ prn q ̅ 6 hr , Morphine 3 mg v ̅ prn q ̅ 4 hr
ข้อมูลสนับสนุน -Pain score = 7 คะแนน -สีหน้าของผู้ป่วยแสดงความปวด
ชนิด visceral Pain ทื้อๆ ไม่ทราบตำแหน่งที่ชัดเจน