Categories: All - บรรณานุกรม - รายงาน - วิจัย - การเขียน

by Chayanee Kaewklum 4 years ago

227

Lesson 8

การเขียนรายงานเป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความละเอียดและการศึกษาค้นคว้าอย่างจริงจัง มีส่วนประกอบหลักที่สำคัญ เช่น ชื่อรายงาน, ชื่อวิชา, ชื่อสถาบันการศึกษา, ปีการศึกษา, ชื่อผู้จัดทำและเลขรหัส ข้อดีของการเขียนรายงานคือช่วยพัฒนาทักษะทางวิชาการ ทำให้เกิดองค์ความรู้และข้อเท็จจริงใหม่ๆ ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริงและข้อบกพร่อง กระบวนการเขียนรายงานเริ่มจากการเลือกและกำหนดข้อการทำงาน อ่านข้อมูลเพื่อเป็นความรู้ จัดทำเค้าโครงและรวบรวมบรรณานุกรม จากนั้นเขียนรายงานการอ้างอิงและบรรณานุกรม จัดทำโครงเรื่องครั้งสุดท้ายและเรียบเรียงรายงานจนเสร็จสมบูรณ์ รายงานมีหลายประเภท เช่น รายงานวิจัย วิทยานิพนธ์ ภาคนิพนธ์ และรายงานวิชาการ รายงานวิจัยเป็นผลของการค้นคว้าวิจัยที่มีลักษณะคล้ายกับการทำวิทยานิพนธ์ รายงานวิชาการเน้นการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม ส่วนประกอบของรายงานที่ครบถ้วนจะมีปกหลัง ใบรองปก คำนำ สารบัญ เนื้อหา ภาคผนวก และบรรณานุกรม

Lesson 8

การเขียนรายงาน

ขั้นตอนการเขียนรายงาน

10. การเขียนรายงานฉบับสมบูรณ์
9. เขียนรายงานการอ้างอิงและบรรณานุกรม
8. การเรียบเรียงรายงาน
7. จัดทำโครงเรื่องครั้งสุดท้าย
6. การใช้สารสนเทศจากแหล่งต่างๆ
5. อ่านและจดบันทึก
4.รวบรวมบรรณานุกรม
3. จัดทำเค้าโครงรายงาน
2. อ่านข้อมูลของเนื้อหาเพื่อเป็นความรู้
1. เลือกและกำหนดข้อการทำงาน

ส่วนประกอบหน้าปก

ปีการศึกษาที่ทำ
ชื่อสถาบันการศึกษา
ชื่อวิชาสำนัก
ชื่อวิชา
ชื่อ-นามสกุล และเลขรหัส
ชื่อรายงาน

ประเภท

4. รายงานวิจัย
เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัยของอาจารย์ นักวิชาการ นักวิจัย ลักษณะเดียวกับการทำวิทยานิพนธ์
3. วิทยานิพนธ์
เป็นรายงานผลของการค้นคว้าวิจัยในภาคบัณฑิตศึกษา
2. ภาคนิพนธ์
มีความละเอียดลึกซึ้งมากกว่า
มีลักษณะเช่นเดียวกับรายงาน
1. รายงานวิชาการ
มีการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
ผู้ทำรายงานอาจเลือกหัวข้อที่สนใจ
ศึกษาค้นคว้าและนำมาเรียบเรียงอย่างเป็นระเบียบ

ส่วนประกอบรายงาน

ปกหลัง
ใบรองปกหลัง
ภาคผนวก
บรรณานุกรม
เนื้อหา
สารบัญ
คำนำ
หน้าปกใน
ใบรองปก

ประโยชน์

เพิ่มพูนทักษะทางวิชาการ
ช่วยให้ทราบข้อมูลที่แท้จริงและข้อบกพร่อง
ทำให้มีพัฒนาการทางวิชาการ
เกิดองค์ความรู้ใหม่ และข้อเท็จจริงใหม่ๆ

ความหมาย

สิ่งพิมพ์ที่เรียบเรียงขึ้นอย่างเป็นระเบียบ จากการศึกษาค้นคว้า ทดลอง